ผมต้องตอบคำถามผู้คนอยู่ทุกวันๆละหลายสาย เกี่ยวกับเหรียญพลังสกาล่า ผมไม่เคยรีรอที่จะตอบ และด้วยความเต็มใจ เพราะผู้ที่สอบถามมาเชื่อถือและมีความศรัทธาในตัวผม รู้จักผมมานาน ได้ยินชื่อเสียงทางสื่อ รับทราบผลงานตอนที่ผมยังรับราชการอยู่ มีผู้หนึ่งบอกกับผมตรงๆว่า "ขอได้ยินจากปากท่าน เชื่อว่าท่านไม่เอาชื่อเสียงมาทิ้ง"

เหตุเพราะว่าเหรียญพลังสกาล่าราคาค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับค่าครองชีพในยุคเศรษฐกิจปัจจุบัน แต่ถ้าเหรียญนี้ดีต่อสุขภาพมันก็คุ้ม และยิ่งไปกว่านั้นท่านสามารถทำเป็นธุรกิจได้อีกด้วย ผมเดินทางไปที่กัวลาลัมเปอร์เพื่อไปเยี่ยมชมบริษัทผู้จำหน่ายเหรียญ วันที่ไปตรงกับงานตรุษจีนพอดี บริษัท Fusion Excel จัดงานใหญ่โต มีสมาชิกไปร่วมงานหลายประเทศ คือฟิลลิปปินส์ อินโดนิเซีย สิงคโปร์ ไทย ส่วนมาเลเซียเจ้าของบ้านมีสมาชิกมากอยู่แล้ว คนร่วมงานประมาณ ๑,๒๐๐ คน ทราบว่ามีอีกหลายร้อยคนเข้างานไม่ได้เพราะไม่มีที่นั่ง งานนี้มีการจำหน่ายเหรียญนี้ด้วย ยอดจำหน่ายวันเดียวคิดเป็นเงินไทย ๔๐ ล้านบาท ผมสงสัยว่าทำไมผู้คนเขาคลั่งไคล้กันมาก

มาดูที่เมืองไทยกันบ้าง คุณดอน แดนสวรรค์ หรือคุณศุภนัท ดอนจันทร์ นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์มีชื่อของบ้านเรา ได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่าย ใช้ชื่อบริษัทว่า Great Honour Internation จำกัด ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว ๑๐๑/๓ กทม. เข้าซอยไปประมาณ ๑๐๐ เมตร ตัวบริษัทจะอยู่ขวามือ เป็นอ๊อฟฟิชบิลดิ่งสูง ๕ ชั้น มีอาคารจอดรถแยกต่างหาก มีห้องประชุมใหญ่ เล็ก ห้องทำงานผู้บริหาร ห้องสันทนาการ ทุกวันเสาร์เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น.เป็นต้นไป จะมีสมาชิกจำนวนมากไปพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ได้รับจากการใช้เหรียญนี้ วันเสาร์ไหนผมว่างผมจะไปนั่งฟัง ได้ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับเหรียญที่ยังไม่เคยได้ทราบมาก่อนอีกเยอะ ทุกอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ทั้งนั้น

ตัวอย่างเช่น ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ ดร.วิจิตร บุณยะโหตระ ผู้ศึกษาค้นคว้าพลังออร่า หรือพลังสกาล่า หรือพลังจักรวาล ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวเดียวกัน เป็นพลังงานที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เกิดจากหิน จากแร่ธาตุ จากพลังแม่เหล็กที่มีอยู่ในโลกและนอกโลก ท่านไม่สงสัยบ้างหรือว่า ทำไมโลกเราหมุนรอบตัวเองมากี่ร้อยกี่พันปีด้วยความเร็วสม่ำเสมอ ไม่รู้จักหยุด แล้วทำไมต้องเอียงทำมุม ๒๓ องศา ทำไมจึงเกิดน้ำขึ้นน้ำลง ทำไมแสงจากดวงอาทิตย์จึงให้พลังงานความร้อน และทำไมความร้อนจากดวงอาทิตย์ไม่รู้จักหมดสิ้น ทุกสิ่งทุกอย่างมีการเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหวทำให้เกิดพลังงาน เกิดกระแสไฟฟ้า ทำไมคนเราจึงมีชีวิต มีการเคลื่อนไหว รู้จักคิด รู้จักประดิษฐ์ เปล่งเสียงพูดจา ร้องเพลงได้ กลไกการทำงานของอวัยวะร่างกายควบคุมโดยสมอง จากสมองสั่งการไปยังประสาทส่วนต่างๆได้ ก็เพราะร่างกายเรามีไฟฟ้า เริ่มต้นจากเซลล์ที่เป็นส่วนเล็กที่สุดของร่างกาย ในแต่ละเซลล์จะมีเส้นใยแม่เหล็กเล็กๆยาวๆอยู่หลายคู่ เรียกว่าสายใยอนุพันธ์ หรือ ดี เอน เอ จะจับตัวกันเป็นคู่ ขั้วต่างกันจะจับกัน ขั้วเหมือนกันผลักกัน ทำให้เซลล์ของคนมีชีวิตเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ในร่างกายเราประกอบด้วยเซลล์เหล่านี้เป็นจำนวนล้านล้านเซลล์อยู่ภายใต้ผิวหนัง ทำให้เป็นรูปเป็นร่างเป็นตัวเป็นตน เมื่อใดก็ตามที่เจ้าเส้นใยแม่เหล็กที่เป็นส่วนเล็กที่สุดของร่างกายเกิดชำรุด หยุดเคลื่อนไหว หรือเกิดไปจับตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนนิ่งๆ เมื่อนั้นท่านอาจเกิดเจ็บป่วย พิการ หรือสิ้นชีวิตได้ แล้วพวกเซลล์เหล่านี้มีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ก็โดยสารอาหารพวกโปรติน วิตามิน คาร์โบไฮเดรท เกลือแร่ธาตุต่างๆที่เราเรียกว่าอาหาร ๕ หมู่นั่นเอง

เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างในร่างกายของเรามีการเคลื่อนไหว โมเลกุลไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ นอกจากจะเกิดพลังไฟฟ้าแล้ว ยังเกิดคลื่นความถี่ หรืออีเลคโตแมกเนติกเวฟ

เหรียญพลังสกาล่านั้นประกอบด้วยแร่ธาตุซึ่งมาจากลาวา เป็นหินที่อยู่ในใจกลางของโลกที่ถูกหลอมเหลวด้วยความร้อนที่สูงมาก สูงเป็นหมื่นๆองศาจนหินถูกหลอมเหลว ถูกพ่นไหลออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟ ที่เราเรียกกันว่า "ลาวา" ความจริงเราจะเรียกลาวาว่าเป็นหินที่ถูกหลอมเหลวก็ยังไม่ถูกต้องนัก เพราะถ้าหากเอาหินที่อยู่บนพื้นโลกไปให้ความร้อน หินบนพื้นโลกจะไม่ถูกหลอมเป็นของเหลว แต่จะกลับกลายเป็นผงละเอียดสีเทาๆ ก็ซีเมนต์หรือปูนที่เอามาก่อสร้างเป็นตึกรามสูงระฟ้านั่นไง ดูตัวอย่างแค่ซีเมนต์ก็มหัศจรรย์แล้ว เป็นผงอยู่แท้ๆ พอโดนน้ำเข้ากลับจับตัวกันแน่นแข็งยิ่งกว่าเหล็กอีก

แต่หินที่อยู่ใจกลางโลกที่ถูกหลอมละลายออกมาเป็นของเหลวนั้น ประกอบด้วยแร่ธาตุอย่างอื่นอีกเกือบร้อยอย่าง เช่นเหล็ก พลวง มังกะนิส สังกะสี และแร่ธาตุอื่นๆซึ่งมีชื่อเรียกเป็นภาษาต่างประเทศ จารนัยไม่ถูก นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นเป็นผู้คิดค้นแล้วนำมาประดิษฐ์เป็นรูปเหรียญเหมาะสำหรับประดับและนำติดตัวได้สะดวก จึงเป็นที่มาของเหรียญพลังสกาล่า หรือ Quantum Pendant

ก่อนที่ท่านจะใช้ผลิตภัณฑ์สิ่งนี้ ท่านต้องทดสอบเสียก่อนว่า เหรียญนี้มีพลังจริงหรือไม่ และต้องทดลองด้วยตัวท่านเอง อย่าไปเชื่อในสิ่งที่เขาบอก ผมเห็นวิธีทดสอบหลายๆอย่าง ทั้งที่ในประเทศไทย อเมริกา และมาเลเซีย (ทั้งหมดนี้ติดตามคลิกดูได้ใน www.fusionexcel.com ) เป็นการทดสอบทางกายภาพ เช่นการใช้แรงกด การยกน้ำหนัก และความอ่อนตัว ซึ่งไม่เป็นวิทยาศาสตร์ แต่การทดสอบของผมค่อนไปทางวิทยาศาสตร์ตามที่ผมได้เคยเขียนแนะนำไปแล้ว หรือจะใช้วิธีของหมอสุเทพฯ หรือทนายอมรฯก็ได้ คือการวัดกระไฟฟ้าสถิตในตัว แต่ท่านจะต้องมีเครื่องมือวัดกระแสร์หรือที่เรียกว่าโอมห์มิเตอร์ชนิดที่มีสเกนละเอียดๆ ขนาด ๑๐๐ เคโอมห์ แนะนำเครื่องยี่ห้อ sanwa มีตัวแทนจำหน่ายอยู่ที่บริษัทอะไรก็จำชื่อไม่ได้ อยู่ริมถนนพหลโยธิน ตรงข้ามเยื้องๆกับวัดไผ่ตัน บางซื่อ กทม. จำหน่ายแต่เครื่องวัดต่างๆยี่ห้อ SANWA เป็นอาคารหลายคูหา มีที่จอดรถด้านหลัง วิธีทดสอบ ท่านต้องปรับเครื่องนี้ให้ถูกต้องก่อน ให้ไปอยู่ที่ตำแหน่ง ๑๐๐ เคโอมห์ ตั้งเข็มไว้ที่เลข ๐ แล้วท่านใช้มือทั้งสองข้างจับที่เข็มวัดให้แน่น สังเกตว่าปลายเข็มที่เคยชี้ที่เลข ๐ กระดกไปอยู่ที่เลขใด แล้วคราวนี้ท่านลองนำเหรียญไว้กับตัวแล้วจับปลายเข็มวัดอีกครั้ง เน้นจับให้แน่นๆ เข็มที่ชี้ที่เลข ๐ จะกระดกไปชี้ที่ตัวเลขสูงกว่าตอนที่ร่างกายท่านไม่มีเหรียญ เป็นการแสดงว่า เหรียญที่ท่านนำไปวัดมีคลื่นกระแสไฟฟ้าแม่เหล็กอยู่ในตัว

สำหรับผม เคยบอกไปแล้วว่าปวดข้อเข่า เนื่องจากข้อเข่าเสื่อม เคยผ่าตัดชนิดส่องกล้องที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์แล้ว ๑ ครั้ง เสียเงินไปแสนสอง อยู่ได้ ๒ ปีก็ปวดเสียวที่ข้ออีก เป็นสองข้างเลย ไปให้นายแพทย์ธีระ ธุระเจน ที่โรงพยาบาลตำรวจตรวจ ตั้งใจจะเข้าผ่าตัด แต่ผมแพ้ยาเพรดนิโซโลน หลังผ่าตัดหมอจะให้ยาตัวนี้เพื่อลดอาการบวม ผมมีอาการแพ้อย่างแรง ยามันไปกดประสาททำให้เกิดการวิตกจริต ฟุ้งซ่าน มีอาการกลัว คล้ายกับคนเป็นบ้า อยากจะกระโดดตึก ผมหลีกเลี่ยงการผ่าตัด ใครแนะนำว่ามีวิธีไหนรักษาได้ผมไปทุกที่ ยาแก้ปวดผมไม่ยอมทานเพราะเพื่อนผมที่เป็นหมอสั่งให้หยุด บอกว่าไตผมกำลังจะพัง ไตชำรุดแล้วรักษาไม่ได้นอกจากจะเปลี่ยนหรือล้างไต เมื่อถึงขั้นนั้นก็นับวันเวลาที่จะละสังขารได้ ช่วงก่อนโน้นผมทานยาแก้ปวดซีริเบรก ทานแล้วแก้ปวดได้ชะงัดมาก ทานไปเป็นปี เครอะตินินเข้าไปถึง ๑.๗ หมอสั่งให้หยุดยาแก้ปวดทันที เพราะอาการไตวายใกล้ถึงแล้ว เครอะตินินของคนปกติจะอยู่แค่ .๗ เท่านั้น ผมกลัวตายเลยต้องหยุด

มีพรรคพวกผมแนะนำให้ลองดื่มน้ำแม่เหล็กและใช้แม่เหล็กแปะเพื่อบรรเทาการปวดและรักษาโรคเก๊าท์ ผมรีบไปหาซื้อทันที ของนายแพทย์หม่อมหลวงอัศนีย์ฯอยู่แถวประชาชื่น กทม.นี่เอง อยู่หลังสำนักพิมพ์หนังสือพิมพ์มติชน ข้างสนามฟุตบอล เป็นบ้านของท่านเอง ผมไม่ได้พบกับท่านอาจารย์หมอหรอกครับ พบกับคุณเย็นฯ เป็นเจ้าหน้าที่สุภาพสตรีสาวสวย คุณเย็นฯรู้ไปหมดแนะนำผมว่าควรใช้อะไรยังไง ผมซื้อเหยือกน้ำแม่เหล็กมาหลายเหยือกเพราะราคาไม่แพง ซื้อแม่เหล็กมาหลายอันๆละ ๔๐ บาทเท่านั้นเอง มีคู่มือบอกว่าถ้ารักษาการปวดข้อเข่า ปวดหลัง ปวดไหล่ จะต้องติดแม่เหล็กยังไง จำได้ว่าถ้าต้องการจะลดการปวดให้ใช้ขั้ว S ติดเข้าผิวหนัง ถ้าต้องการจะกระตุ้นหรือการเพิ่มขึ้นให้เอาขั้ว N ติดเข้าผิวหนัง ผมทดลองใช้อยู่ประมาณ ๕-๖ เดือน ได้ผลครับ ปวดข้อเข่าก็เอาแม่เหล็กติดที่ข้อเข่าข้างละ ๗ อัน การติดก็ใช้ปลาสเตอร์แปะ นอกจากนั้นแม่เหล็กยังรักษาเก๊าส์ได้อีก แต่ต้องติดให้ถูกจุดและวางให้ถูกขั้ว ผมใช้ไปได้ระยะหนึ่ง ผิวหนังผมแพ้แม่เหล็ก ผิวหนังลอก เกิดแผลพุพอง แดงเป็นผื่นคัน เอาเรื่องละซี มันเกิดปวดเข่าปวดหลังขึ้นมาอีก จำเป็นต้องติดแม่เหล็ก ที่หัวเข่าที่หลังไม่มีที่ว่างให้ติด เพราะเป็นผื่นแดงไปหมด แถมยังคันด้วย เวลาไปไหนก็ต้องคอยเกา เสียบุคลิก

ผมได้มีโอกาสพูดโทรศัพท์กับคุณดอนฯซึ่งรู้จักกันมานาน คุณดอนฯเคยเอาผมไปออกอากาศทั้งทางวิทยุและทีวีหลายครั้ง และคุณดอนฯรู้ว่าผมมีอาการประจำตัวคือปวดข้อเข่า คุณดอนฯบอกว่ามีของดีให้ผมไปทดลองใช้ Quantum Pendant คุณดอนฯเข้ามาในช่วงที่ผมกำลังกลุ้มใจเกี่ยวกับการแพ้แม่เหล็ก ผมลองไปตามที่คุณดอนฯแนะนำชักชวน ก็คือไปที่ประเทศมาเลเซีย คนอย่างผมต้องไปสัมผัสด้วยตนเอง เห็นด้วยตา สัมผัสด้วยมือ คุณดอนฯส่งผมเป็นตัวแทนประเทศไทยขึ้นไปประกวดร้องเพลงในงานสังสรรสมาชิก Quantum Pendant ที่กัวลาลัมเปอร์ ได้รับรางวัลเหรียญ Quantum ๑ เหรียญ กระติกน้ำ Quantum ๑ ใบ ได้มาฟรีๆก็ทดลองใช้ดู

เหรียญ Quantum ทำงานลักษณะเดียวกับแม่เหล็กของท่านอาจารย์อัศนีย์ฯ คือบรรเทาการปวดข้อเข่า ต่างกันที่ว่า เหรียญไม่ได้ทำให้ผมเกิดอาการผื่นคัน ซึ่งผมก็ยังใช้มาทุกวันนี้ ผมไปหาคุณดอนฯขอซื้อเหรียญเพื่อไปแจกจ่ายให้ญาติพี่น้องที่ต่างจังหวัด บ้านเดิมผมอยุธยาครับ ยังมีลูกหลานทำนาอยู่เลย บางคนก็ขายนาเก็บเงินไปทำธุรกิจอย่างอื่น ที่ยังคงทำนาอยู่ก็มี พวกนี้ร่างกายกะย่องกะแย่ง เพราะต้องทำงานหนัก เดินขาโกงหลังโกง ผมให้ทุกคนแขวนเหรียญคนละอัน นานๆผมไปเยี่ยมที หรือไม่ก็โทรถามอาการ ทุกคนชอบใจว่าสุขภาพเขาดีขึ้น มีกำลังวังชา การปวดเมื่อยน้อยลง การเดินเหินเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนสะดวก หลานคนหนึ่งต้องไปคลอดลูก ขอเหรียญผมไป ๑ เหรียญ บอกว่าทำให้รู้สึกบรรเทาจากการเจ็บปวดและร่างกายกลับคืนสู่ปกติอย่างรวดเร็ว

อีกเหรียญหนึ่งส่งไปให้ญาติผู้ใหญ่ซึ่งเป็นมะเร็งสมอง รายนี้ไม่กล้าไปถามอาการเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่มากๆ มะเร็งระยะสุดท้าย ผมเอาเหรียญไปให้ตั้งแต่เดือนมีนาคม เดี๋ยวนี้ท่านก็ยังพักผ่อนอยู่ที่บ้าน

เหรียญคงไม่ทำให้ทั้งสองโรคนี้หายขาดไปได้ แต่จะช่วยต้านโรค ช่วยยื้อเวลา ทำให้ชีวิตยาวออกไปอีก จากการทดลองใช้เหรียญพบว่า ต้องให้ระยะเวลาประมาณ ๓ เดือนนะครับจึงจะเห็นผล ไม่ใช่แค่วันสองวัน หรือเดือนเดียว สำหรับตัวผม มันมีเชื้อเก่าอยู่แล้วตั้งแต่ผมใช้แม่เหล็กของอาจารย์หม่อมหลวงอัศนีย์ฯ ผมจึงใช้เหรียญ Quantum ในระยะสั้นๆก็ได้ผล