ภัยจากเครื่องดื่ม ตอนที่ 3 (จุดคลี่คลายคดี)
เชื่อว่าท่านผู้อ่านก็คงจะคิดเช่นเดียวกับผม คืออยากจะรู้ว่า คดีลึกลับซับซ้อน ตำรวจสืบรู้ได้ยังไง ทำไมจึงเก่งนัก ผมให้ความสำคัญกับการสืบสวน ที่สามารถคลี่คลายคดีได้ว่า ใครเป็นผู้กระทำ กระทำไปเพราะสาเหตุใด มากกว่าการจับกุมตัวผู้กระทำผิด เพราะถ้าสืบไม่ออก ไม่มีทางจับกุมตัวคนผิดได้
ท่านโสภณ วาราชนนท์ เป็นผู้มีบารมี มีคนรู้จักและรักเคารพนับถือมาก ประกอบกับคดีเรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ มีการเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งหนังสือพิมพ์และทีวี ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เก่งมาก ข้อมูลจากการสอบสวนเป็นยังไง สอบกันไปถึงไหน พาดพิงไปถึงใคร ผู้สื่อข่าวจะรู้หมด บางทีรู้ดีกว่านักสืบบางคนอีก คดีนี้ ผู้สื่อข่าวสืบเสาะหาข้อมูลจากการสอบสวนได้เก่งมาก ส่งข้อมูลเข้าโรงพิมพ์ ทางโรงพิมพ์ก็บรรเลงเป็นตัวหนังสือ เสนอขายประชาชนอย่างต่อเนื่อง ผู้คนสนใจต้องติดตามหาซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น เพราะความอยากรู้อะไรเป็นอะไร หนังสือพิมพ์ขายดีเข้าไปอีก
หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งลงรายละเอียด การสอบสวนปากคำเด็กในบ่อนการพนัน ของอดีตนักการเมือง ย่านถนนพัฒนาการ ที่ สส.ผู้นี้หายตัวไป ขณะนั้นเป็นเวลากลางคืนประมาณห้าทุ่มเศษ สส.ผู้นี้กำลังเล่นการพนันอยู่ในบ่อน โทรศัพท์ในบ่อนดังขึ้น (สมัยนั้นไม่มีโทรศัพท์มือถือ) เด็กประจำบ่อนไปรับโทรศัพท์ มีเสียงผู้หญิงพูด ขอพูดกับป๋ากำธร (กำธรก็คือชื่อของ สส.ผู้ที่หายตัวไป กลายเป็นศพ) สส.กำธรฯไปพูดโทรศัพท์ เสร็จแล้วก็ออกจากบ่อนไป ไม่ได้บอกใครว่าจะไปไหน อย่างไร เป็นเรื่องปกติของบ่อน ไม่มีใครสนใจใคร นอกจากจะเล่นการพนันกันอย่างเดียว หลักฐานจากที่บ่อนจึงมีเพียง สส.กำธรฯพูดกับผู้หญิงก่อนที่จะออกจากบ่อน
ปัญหาที่นักสืบจะต้องขบคิด สส.กำธรฯอาจจะมีนัดกับใคร หรืออาจจะกลับบ้าน หรือไปทำธุระที่ไหน เป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ผู้หญิงที่โทรเข้ามาเป็นใคร ต้องได้ตัวมาสอบสวน จึงจะทราบได้ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับการหายตัว อาจจะเป็นกุญแจสำคัญไขคดีนี้ก็ได้ แล้วจะรู้ได้ไงว่า ผู้หญิงที่โทรศัพท์หา สส.กำธรฯคือใคร คำว่าป๋า มันน่าจะเป็นคำที่ผู้หญิงคู่ขาใช้เรียกเสี่ย เป็นประเด็นที่นักสืบนำไปขบคิด
บอกแล้วแต่ต้น สส.ผู้นี้เป็นคนแข็งแรง ชอบผู้หญิง และผู้หญิงในบ่อนกับการเสียตัวเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเธอเล่นพนันเสีย ต้องการหาเค้าไปเล่นต่อ เธอก็จะเข้าหาเสี่ยเพื่อหาทุน เสี่ยก็ยอมเสียเงินเพื่อแลกกับความสุข
นักสืบพยายามขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับผู้หญิงของ สส.ผู้นี้ ได้ข้อมูลว่า สส.มีความสัมพันธ์ชอบพอกับเจ้าแม่นักการพนันผู้หนึ่ง และยังมีพยาบาลสาวชื่อเล็กซึ่งชอบเล่นการพนันที่บ่อนแห่งนี้ เข้ามาอี๋อ๋อออเซาะ เกาะแขนเกาะขา สส.กำธรฯอยู่บ่อยๆ นักพนันหลายคนยืนยันพฤติการณ์เช่นนี้ และมีนักเล่นบางคนเคยเห็นเจ้าแม่ผลักเล็กพยาบาลกระเด็นเพราะความหมั่นไส้ หึงหวง บางคนบอกว่า เล็กเคยถูกเจ้าแม่ตบ
ชุดสืบสวนติดตามพฤติการณ์เล็กพยาบาล ทราบว่าเคยทำงานเป็นพยาบาล ประจำอยู่ที่คลีนิคของสามีซึ่งเป็นแพทย์ อยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีบุตรด้วยกัน ๓ คน เล็กมีนิสสัยชอบเล่นการพนัน เคยตั้งบ่อนการพนันที่นครศรีธรรมราช แต่ก็เจ๊ง สามีเอือมเลยขอหย่า เล็กเรียนจบหลักสูตรพยาบาลและผดุงครรภ์ชั้น ๑ จากโรงพยาบาลกรมแพทย์ทหารเรือ เคยไปทำงานเป็นพยาบาลที่นิวยอร์ค อเมริกา เมื่อเลิกกับสามีจึงมาทำงานเป็นพยาบาลอยู่โรงพยาบาลเอกชนใน กทม.
หลังจากที่ สส.กำธรฯหายตัวไปใหม่ๆ เล็กพยาบาลก็ยังไปเล่นการพนันที่บ่อนการพนันแห่งนี้ตามปกติ ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้แต่ตอนที่ตำรวจไปสอบสวนเด็กในบ่อนที่รับโทรศัพท์หญิงที่ขอพูดกับ สส.กำธร เล็กพยาบาลก็ยังเล่นพนันอยู่ในบ่อน ไม่มีพิรุธ เด็กบ่อนที่ถูกสอบก็ยืนยันว่าเป็นเสียงของผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน (เด็กบ่อนผู้นี้รู้จักเล็กพยาบาลดี) ตำรวจต้องปวดหัว ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน
หนังสือพิมพ์ลงข่าวละเอียด มีข่าวเกี่ยวกับเล็กพยาบาลอยู่ด้วย อยู่ในฐานะผู้เกี่ยวข้อง เคยอี๋อ๋อกับ สส.กำธรฯ แต่เธอก็ไม่มีพิรุธอะไร แต่คำว่าพยาบาลนี่แหละ มันแวบเข้าไปในสมองของคนขับรถแท็กซี่ผู้หนึ่งซึ่งเป็นคนรู้จักกับท่านโสภณ วาราชนนท์ และคนขับแท็กซี่ผู้นี้ เป็นผู้ที่โทรศัพท์แจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการคลี่คลายคดี
ผู้ขับแท็กซี่จำได้ว่า ในกลางดึกคืนหนึ่งขณะที่ขับขี่ไปส่งผู้โดยสารเข้าโรงแรม ๕๕ ถนนประดิพัทธ์ สะพานควาย ตอนที่จะขับรถออกจากโรงแรม มีหญิงผู้หนึ่งเรียกให้ไปรับผู้โดยสารที่ห้องพักของโรงแรมม่านรูดดังกล่าว คนขับแท็กซี่ก็นำรถไปจอดที่หน้าห้อง พบว่าม่านของห้องพักยังปิดอยู่ พอแท็กซี่จอดรถเรียบร้อย ก็มีหญิงแต่งชุดพยาบาล (ชุดสีขาว)ออกมาเรียกให้คนขับแท็กซี่ช่วยอุ้มผู้ชายในห้องพักไปขึ้นรถ โดยบอกว่าเมาไม่ได้สติ คนขับรถแท็กซี่ก็ลงจากรถเข้าไปในห้อง พบว่ามีผู้หญิงอยู่ ๒ คน ส่วนผู้ชายนอนหลับอยู่บนเตียง แท็กซี่ผู้นี้เกิดความกลัว ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารรายนี้ ขับรถออกไปจากโรงแรม ตอนแรกที่มีข่าว สส.หายตัว คนขับแท็กซี่ผู้นี้ก็ไม่ได้สนใจอะไร พอตอนหลังๆมีข่าวเกี่ยวกับพยาบาลเข้าไปเกี่ยวข้อง เหตุการณ์ที่แท็กซี่พบพยาบาลในโรงแรมม่านรูดไม่ค่อยจะมีให้เห็นกันบ่อยนัก เรื่องจึงผุดขึ้นในสมอง ถ่ายทอดให้ท่านโสภณฯฟัง
พอคลำถูกจุด ตำรวจก็เฮโลไปที่โรงแรม ๕๕ ถนนประดิพัทธ์ บ๋อยโรงแรมถูกนำมาบี้ โกหกกันไม่ได้หรอกครับ คนผีทะเลที่ไหนแต่งกายชุดพยาบาลเข้าโรงแรม แถมหญิง ๒ คนมากับชาย ๑ คน มันเป็นเหตุการณ์พิเศษ ไม่ปกติธรรมดา ใครเห็นเหตุการณ์ก็ต้องจำได้ บ๋อยโรงแรมยืนยัน คืนนั้นมีผู้หญิง ๒ คน คนหนึงอยู่ในชุดพยาบาลสีขาว อีกคนชุดธรรมดา มากับผู้ชาย ๑ คน เปิดห้องนอนด้วยกัน ตอนขากลับบ๋อยยังต้องช่วยอุ้มผู้ชายขึ้นรถ โดยผู้หญิงบอกกับบ๋อยว่า เมามาก หลับ บ๋อยช่วยอุ้มผู้ชายขึ้นนั่งบนเบาะหน้ารถเก๋ง (รถของ สส. เข้าใจว่าคงเปลี่ยนแผน ตอนแรกจะนั่งแท็กซี่ แต่พอแท็กซี่ไม่ยอมรับก็เลยนั่งรถเก๋ง สส.กลับ) ผู้ชายตัวใหญ่ จึงต้องเอนเบาะหน้าซ้ายไปข้างหลัง แล้วผู้หญิงสองคนก็นำรถออกไปจากโรงแรม และยังทิปเงินให้บ่อยผู้นี้ ๑๐๐.-บาท
ตำรวจฟันธง เล็กพยาบาลเกี่ยวข้องคดีเรื่องนี้แน่ แต่เล็กพยาบาลก็ยังทำใจเย็นสู้เสือ เข้าออกบ่อนเป็นปกติ และแล้วตำรวจก็ได้ให้พยานทั้งสอง คือคนขับรถแท็กซี่และบ๋อยโรงแรม ๕๕ แอบดูตัวเล็กพยาบาล โป๊ะเช๊ะใช่เลย เธอคือหญิงที่สวมชุดขาวพยาบาลที่คนขับรถแท็กซี่และบ๋อยโรงแรมให้การถึง
จากนั้น เล็กพยาบาล ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ในโรงแรม ๕๕ ผู้สื่อข่าวไม่รู้รายละเอียด ไม่ทราบว่ามีการนำพยานไปแอบดูตัวเล็กพยาบาลแล้ว แต่นั้นเป็นต้นไปเล็กพยาบาลไม่ได้ไปที่บ่อนอีกเลย เธอหนีไปหรืออย่างไร หรือเธอถูกใครอุ้มไป เธออาจจะเป็นเพียงนกต่อ ผู้บงการอาจจะรู้ว่าตำรวจคลำทางถูกกระมัง จึงได้มีการอุ้มตัวเธอไป หรือเธออาจจะถูกฆ่าตายเพื่อปิดปาก ติดตามตอนต่อไปครับ.