บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง
"ประสบการณ์คับด้ามปืน ของยอดนักสืบผู้การเอลวิส"
ภัยจากเครื่องดื่ม ตอนที่ 2 (เริ่มได้เค้า)
หน้าหลัก ›› บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง ›› ภัยจากเครื่องดื่ม ตอนที่ 2 (เริ่มได้เค้า)
คดี สส.หายตัวพบกลายเป็นศพ การสืบสวนสอบสวนเกี่ยวพันกันหลายท้องที่ จุดที่หายตัวไปคือที่บ่อนการพนันของนักการเมืองย่านถนนพัฒนาการ ท้องที่ สน.คลองตัน จุดที่พบรถยนต์ยานพาหนะของ สส.จอดทิ้งพร้อมคราบเลือดคือที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จุดที่พบศพเป็นเขตท้องที่ของ สภ.อ.เมืองสมุทรสาคร ทั้งสามจุดนี้มีประเด็นการสืบสวนเกี่ยวข้องทั้งนั้น อะไรไม่เท่ากับผู้ตายเป็นนักการเมือง จึงเป็นข่าวใหญ่วัดฝีมือการทำงานของตำรวจ นักสืบจากภูธร นครบาล และกองปราบปรามระดมกำลังกันอย่างเต็มที่ ความจริงคดีที่เหตุเกี่ยวพันกันหลายท้องที่ ท้องที่สถานีตำรวจใดพบการกระทำผิด (พบศพ) ต้องเป็นผู้รับผิดชอบทำการสอบสวน แต่สำหรับคดีนี้ อธิบดีกรมตำรวจมอบหมายให้กองปราบปราม เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ อธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้นคือ พลตำรวจเอก สุรพล จุลพราหมณ์ ช่วงนั้นมือปราบเบอร์ ๑ ของกรมตำรวจคือ พลตำรวจเอก มนต์ชัย พันธุ์คงชื่น ถูกพิษภัยของกบฏ “เมษา ฮาวาย”เล่นงาน ท่านรำคาญเลยลาออกจากราชการ กลายเป็นอดีตอธิบดีกรมตำรวจ ให้ท่านสุรพลฯขึ้นนั่งแทน

ท่านสุรพลฯโตมาจากทางสาย “บุ๋น” เก่งทางการบริหารจัดการและการรบ พอเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสืบสวนท่านจึงสั่งการให้กระบี่มือหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ คือ พลตำรวจโทณรงค์ มหานนท์ รองอธิบดีกรมตำรวจ ท่านณรงค์ฯโตมาจากสายนครบาล ถนัดเรื่องการสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว ตีเกราะเคาะกะลาเรียกบรรดามือปราบระดับพระกาฬเข้ามาช่วยคลี่คลายคดี เท่าที่ทราบมี พ.ต.อ.สมเกียรติ์ พ่วงทรัพย์ (สิงห์เหนือ) พ.ต.อ.โสภณ วาราชนนท์ (เสือใต้) ส่วนภูธรก็ส่งมือปราบระดับพระกาฬสะท้านฟ้า พ.ต.อ.โสภณ สวิคามินท์ กองปราบปรามก็ใช่ย่อย ส่งสิงห์หน้าหยก พ.ต.อ.สล้าง บุนนาค มือปราบที่เอ่ยชื่อมานี่ บรรดาเหล่าร้ายได้ยินก็หนาว เตรียมสั่งเสียลูกเมียได้เลย ไม่ตายก็คางเหลือง (ยังนึกไม่ออกว่า มือปราบชลอ เกิดเทศไปอยู่เสียที่ไหน) คดีใหญ่ๆจำเป็นต้องประกอบกำลังหลายฝ่าย มีการประชุมหารือวางแนวทางการสืบสวน แบ่งหน้าที่กันทำ ความจริงก็ไม่ได้แบ่งอะไรกันหรอก แย่งกันทำมากกว่า เพราะทุกฝ่ายก็อยากได้ผลงาน เวลารายงานผลในที่ประชุมเอาอะไรแน่ไม่ได้ กั๊กกันไว้เยอะ อยากรู้ของคนอื่น ของตัวเองกั๊กไว้ก่อน

การสืบสวนก็ต้องตั้งประเด็น เพื่อหามูลเหตุหรือสาเหตุของการถูกฆ่า (การตั้งประเด็นการสืบสวนนี่สำคัญมาก ตั้งประเด็นผิดก็เข้าป่าเข้ารกไปเลย) ประเด็นการตายของ สส.ผู้นี้ หลังจากถกกันพอสมควรก็รวบรัดประเด็นได้ ๒ ประเด็น

ประเด็นที่ ๑ ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องชู้สาว สส.ผู้ตายเป็นคนเจ้าชู้ เรื่องผู้หญิงละชอบมาก ใครยอมเอาดะ เพราะเป็นคนแข็งแรง สุขภาพดี และในช่วงนั้นมีข่าวว่าไปพัวพันกับเจ้าแม่บ่อนการพนันซึ่งเป็นอดีตภรรยาของนักการเมืองดังผู้หนึ่ง (เรื่องยุ่งกับภรรยาคนอื่น ตายมาเยอะแล้ว)

ประเด็นที่ ๒ เรื่องหนี้สินการพนัน สส.ผู้นี้รู้จักคนมากโดยเฉพาะบรรดาเสี่ยและพ่อค้าเศรษฐี ชอบยืมเงินคนอื่นไปเล่นการพนัน ไม่เคยติดหนี้พนันบ่อน เพียงแต่ยืมเงินแล้วไม่ค่อยใช้ (เป็นหนี้พ่อค้าเศรษฐีไม่ค่อยมีปัญหา เป็นนักการเมืองซะอย่าง แต่ถ้าเป็นหนี้บ่อนไม่แน่)

เมื่อชั่งน้ำหนักประเด็นการตายแล้ว น่าเชื่อว่าสาเหตุการตายน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว แต่อย่างไรก็ตาม สถานที่ต่างๆที่เกี่ยวข้องเช่นที่พบศพ ที่พบรถ ต้องสืบให้ได้ความว่า มีความเป็นมาอย่างไรจึงต้องทิ้งศพ ทิ้งรถ ไว้ตามสถานที่ดังกล่าว

จุดที่พบศพ ตรวจสอบแล้วเจ้าของที่ดินเป็นคหบดีอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ ปรับถมที่ไว้เตรียมส้รางโรงงาน ยังไม่ทันได้ฤกษ์ลงเสาเอกดันมาเจอศพเสียก่อน ต้องทำบุญปัดรังควานล้างซวย เจ้าของที่ต้องถูกเรียกตัวไปสอบสวน ดูแล้วไม่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการสืบสวน

จุดที่พบรถ คือที่บริเวณปั๊มน้ำมัน สอบสวนเด็กปั๊มแล้วให้การว่า มีชายวัยรุ่น ๒ คน ไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้ามาก่อน มาจอดล็อกรถ แล้วบอกให้ช่วยล้างรถภายนอก บอกอีก ๒ ชั่วโมงจะมาเอา แล้วก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย ตำรวจได้รูปพรรณของวัยรุ่นทั้งสอง แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ที่ไหน

ปัญหาท้าทายนักสืบ คดีนี้ใช้คนมากที่สุด วิ่งกันให้วุ่น คดีจะว่ายากมันก็ไม่ยาก เพียงแต่จับจุดให้ถูก เพราะไม่มีอาชญากรรมใดสมบูรณ์แบบ “อาชญากรรมย่อมทิ้งร่องรอยเสมอ” นักสืบต้องค้นหามันให้พบ

คดีบทมันจะง่ายก็ง่าย ต้องยอมรับว่าสื่อมีส่วนช่วย หนังสือพิมพ์เป็นสื่อกลาง ทำให้มีการเชื่อมโยง บางคนพบเหตุการณ์บางอย่างแต่ไม่รู้ว่ามันไปเกี่ยวข้องกับเรื่องคดี อย่างไร หรือไม่ ไม่ได้เอามาปะติดปะต่อกัน มันก็เลยสานต่อไม่ได้ แต่ทุกคนอ่านหนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะที่เป็นข่าวใหญ่ๆ ประโคมกันหนักทุกวันๆ เดี๋ยวก็มีคนรู้คนเห็นเหตุการณ์บางช่วง จับต้นชนปลายก็กลายเป็นเรื่องขึ้นมาได้

เรื่องนี้ผมต้องยกเครดิตให้กับลูกพี่ผม คือ พ.ต.อ.โสภณ วาราชนนท์ (เสือใต้) ผู้เป็นเจ้านายผม ท่านมีลูกน้องมาก คบได้กับคนทุกชั้น ไม่ว่าพ่อค้าวานิช กรรมกร หรือคนรับจ้างทั่วๆไป เพราะท่านเป็นคนมีอัทธยาศรัยไมตรี

เวลาผ่านไปหลายวัน ผู้บังคับบัญชาเร่งรัด ชาวบ้านวิพากย์วิจารณ์ตำรวจมี “น้ำยา”หรือไม่ เร่งมากๆเดี๋ยวก็จับแพะหรอก ใขณะที่บรรดานักสืบกำลังมึนตึบถึงทางตัน พลันก็มีโทรศัพท์สายด่วนมายัง พ.ต.อ.โสภณฯ ขณะนั้นท่านโสภณฯกำลังประชุมนักสืบเกี่ยวกับคดีเรื่องนี้อยู่ ตำรวจที่รับสายโทรศัพท์พยายามบ่ายเบี่ยงว่าท่านติดประชุม มารับสายไม่ได้ เจ้าของเสียงที่โทรเข้ามาก็ขยั้นขยอว่า “ต้องการพูดกับท่านโสภณฯเท่านั้น” ตำรวจผู้น้อยกัดฟันรวบรวมความกล้า เคาะประตูห้องประชุมเพื่อบอกเจ้านายว่ามีโทรศัพท์สายด่วน

ท่านโสภณฯทีแรกทำท่าหัวเสีย “บอกแล้วว่าประชุมเรื่องสำคัญ ชอบขัดจังหวะ” แต่ไม่รู้อะไรบันดาลใจให้ท่านเดินออกจากห้องประชุมไปรับสาย พวกเรานั่งรอในห้อง บรรยากาศค่อยผ่อนคลาย เพราะการประชุมหารือเรื่องคดีถึงทางตัน ไม่รู้จะไปสืบสวนหาข่าวทางไหน บรรยากาศเริ่มเครียด เดี๋ยวเดียวท่านโสภณฯก็เดินกลับเข้าห้องประชุม ใบหน้าตอนเดินออกจากห้องกับตอนเดินกลับเข้ามา คนละสีหน้า คำแรกที่ท่านโสภณฯเอ่ยออกมา “ได้เรื่องแล้ว ๆ”

ไว้ต่อตอนที่ ๓ ครับ เวลาน้อยจริงๆ
"คุณอังกูรเล่นหนังด้วยหรอ?"
"โห...ประกบคู่กับพี่เอกสรพงษ์ด้วย"
"คลาสสิคสุดๆ...อยากดูเต็มๆจัง"
และอีกมากมายสำหรับเสียงตอบรับ เนื่องจากล่าสุดทีมงานทำ VDO "เปิดปูมฮีโร่" มาให้ได้ชมกัน วันนี้ทีมงานจีงขอสมนาคุณแฟนๆ ตามเสียงเรียกร้องครับ เราใช้เวลาตามหาภาพยนตร์สุดคลาสสิคเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงมือแฟนๆ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ...

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์)

ตอน 1ตอน 2ตอน 3
ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 1 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 2 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 3
ติดตามกันมานาน
จนเป็นแฟนประจำกันก็มาก...
แต่หลายๆท่านคงยังอยากรู้จักคุณอังกูร (007) ในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกลงไป
ถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาเป็นฮีโร่ของเรา
ในวันนี้ เราจึงไม่รอช้าจัดเป็น VDO
ให้ชมกันอย่างจุใจ

(คลิ๊กที่ รูปเพื่อดูวีดีโอ)

พลังสกาล่าร์ ร้องทุกข์ที่นี้
จำนวนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์