บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง
"ประสบการณ์คับด้ามปืน ของยอดนักสืบผู้การเอลวิส"
ภัยจากเครื่องดื่ม ตอนที่ 1 (สส.หายตัวลึกลับ)
หน้าหลัก ›› บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง ›› ภัยจากเครื่องดื่ม ตอนที่ 1 (สส.หายตัวลึกลับ)
คนไทยมีนิสสัยเอื้อเฟ้อเผื่อแผ่ โอบอ้อมอารีย์ เป็นมิตรกับคนแปลกหน้า นั่นเป็นสมัยโบราณ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยแน่ใจเสียแล้ว ยามใดที่ออกนอกบ้านต้องระวังให้หนัก ไม่ใช่เพื่อนสนิท ไม่ใช่ญาติพี่น้อง อย่าได้ไว้ใจ ระวัง “ภัยจากเครื่องดื่ม” สาววัยรุ่นเสียตัวไปมากต่อมาก บางทีเสียทั้งตัวและเสียทั้งทรัพย์ บางรายถึงกับเสียชีวิต เจ้าตัวเครื่องดื่มไม่มีอะไรหรอก แต่เจ้าตัวสารที่มีคนแอบใส่ผสมเข้าไปนี่ซิครับ คนไทยไม่ค่อยระวังเรื่องนี้เท่าไร แต่พวกฝรั่งต่างชาติดูจะรอบคอบกว่า ท่านเคยเห็นไหมครับ ฝรั่งนักท่องเที่ยว(บางคน)ที่เข้ามาเที่ยวเมืองไทย เวลาสั่งน้ำดื่มหรือเครื่องดื่ม มักจะสั่งเป็นขวดแล้วเปิดดื่มเอง หรือไม่ก็สั่งเครื่องดื่มเป็นกระป๋องแล้วเปิดดื่มเอง แต่ก็ยังไม่วายโดนพี่ไทยแอบเจาะก้นกระป๋อง ใส่ยานอนหลับเข้าไป แล้วเอากาวตราช้างหยอดปิด ฝรั่งว่าแน่ๆก็โดนมาแล้ว เรื่องที่ผมจะนำมาเล่าให้ท่านฟัง เป็นตัวอย่างของภัยจากเครื่องดื่ม ถึงกับตายเลยทีเดียว

สมัยที่ผมรับราชการเป็นสารวัตรอยู่ที่หน่วยสืบสวนของนครบาล ผมมีเพื่อนเป็น สส.จังหวัดภาคใต้ เป็นคนร่างใหญ่แข็งแรง ในสมัยประชุมจะเข้ามาอยู่กรุงเทพฯเป็นเวลานาน ชอบเล่นการพนัน บ่อนที่ชอบเล่นเป็นประจำในสมัยนั้นก็คือบ่อนของอดีตนักการเมืองอยู่แถวถนนพัฒนาการ กทม.

กลางดึกของคืนหนึ่ง สส.ผู้นี้ผลุนผลันขับรถออกจากบ่อนย่านภนนพัฒนาการ ขับรถไปแต่ผู้เดียว ยานพาหนะส่วนตัวของ สส.ผู้นี้ก็คือ รถยนต์เก๋งมาสด้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ๗ ค.-๕๗๔๗ ออกจากบ่อนไปวันนั้นไม่มีใครได้เห็นหน้า สส.ผู้นี้อีกเลย ส่วนภรรยาของ สส.ผู้นี้อยู่ที่จังหวัดภาคใต้ ไม่เคยได้รับรู้การใช้ชีวิตของสามีที่กรุงเทพ

ต่อมาอีก ๑๒ วัน ตำรวจ สภ.อ.กำแพงแสน จ.นครปฐมก็ได้รับแจ้งจากเจ้าของปั๊มน้ำมันเชลล์ซึ่งอยู่นอกตลาดกำแพงแสนว่า พบรถยนต์มาสด้าสีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ๗ ค.-๕๗๔๗ จอดทิ้งไว้ในปั๊มน้ำมันอย่างผิดสังเกต โดยจอดทิ้งไว้หลายวันจนฝุ่นจับเคลอะ

พ.ต.ต.สมพร มาลาศรี สารวัตร สภ.อ.กำแพงแสนรุดไปตรวจสอบร่องรอยหลักฐาน ค้นในรถพบเอกสารที่เกี่ยวข้องเรื่องของการเมือง น่าเชื่อว่าเป็นรถของนักการเมือง ตรวจสอบทะเบียนรถ โยงไปโยงมาก็ทราบว่าเป็นรถของ สส.ที่หายตัวไปจากบ่อนย่านถนนพัฒนาการ สิ่งที่บอกเหตุว่าน่าจะไม่ปกติก็คือ พบรอยเลือดจำนวนมากในรถ น่าสงสัยว่า อาจจะมีเหตุฆาตรกรรมเกิดขึ้นในรถ

พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ สส.หนังสือพิมพ์ก็ลงข่าวพาดหัวหน้าหนึ่ง หัวหน้ารัฐบาลในขณะนั้นคือ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ มีพลเอกสิทธิ์ จิระโรจน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ารัฐบาลไขก็อก ตำรวจก็วิ่งกันจ้าละหวั่น มือปราบทั้งภูธร นครบาลและกองปราบวิ่งกันวุ่น

พบรถแต่ไม่พบตัว สส. มือปราบบางท่านบอกว่า อาจจะเดินทางไปต่างประเทศ เพราะ สส.ผู้นี้ชอบแอบไปเล่นพนันที่มาเก๊า แต่จากการไปตรวจสอบ ณ ที่พัก พบหนังสือเดินทางและเสื้อผ้า กระเป๋าเดินทางยังอยู่ครบ ประกอบกับการที่พบรอยเลือดที่รถ ทำให้สงสัยว่าอาจถูกฆ่า แต่ไม่พบศพ จึงไม่อาจสรุปผลได้
ยุทธการติดตามหาศพจึงเกิดขึ้น บรรดาสถานที่ๆเก็บศพไร้ญาติ สถาบันนิติเวช ห้องเก็บศพโรงพยาบาลต่าง รวมทั้งมูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิปอเต็กตึ๊งถูกตรวจ แต่ก็ยังไม่พบศพของ สส.

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ ๑๐ วันก่อนหน้านั้น มีการพบศพชายถูกฆ่า โดยมีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมที่บริเวณลำคอ ศพถูกนำไปทิ้งไว้ในบริเวณที่ว่าง ริมถนนธนบุรี-ปากท่อ ในเขตท้องที่ สภ.อ.เมือง สมุทรสาคร สถานที่ๆพบศพเป็นสถานที่ๆมีการปรับพื้นถมที่แล้ว เนื้อที่ประมาณ ๔-๕ ไร่ มีกำแพงคอนกรีตล้อมรอบสี่ด้าน มีประตูทางเข้าด้านหน้า ลักษณะคล้ายเตรียมการจะสร้างโรงงาน ศพถูกนำไปทิ้งไว้ด้านในกำแพง คนผ่านไปมาไม่มีใครเห็น จนกลิ่นเน่ามันฟ้อง จึงมีคนไปพบ

ตำรวจ สภ.อ.เมืองสมุทรสาครทำการชัณสูตรพลิกศพ ค้นในตัวศพไม่พบเอกสารใดๆ ทรัพย์สินในตัวก็ไม่มี คงมีแต่เสื้อผ้าชุดซาฟารีสีเปลือกมังคุดที่สวมใส่อยู่เพียงชุดเดียว โชคดีที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองสมุทรสาครถ่ายภาพศพไว้ ดูภาพแล้วจำไม่ได้เลย

สอบถามได้ความว่า ตำรวจ สภ.อ.เมืองสมุทรสาครส่งศพไปทำการชัณสูตรที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ดูซิเรื่องวนเวียนไปวนเวียนมา อยู่ใกล้ๆกันแค่นี้ ค้นหากันไม่เจอ ต้องเสียเวลาเดินทาง ใช้เวลาตรวจสอบกันหลายวันกว่าจะรู้อะไรเป็นอะไร

ชุดสืบสวนรีบไปตรวจสอบหลักฐานที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ได้ความจากสถาบันฯว่า เก็บศพนิรนามผู้นี้ไว้ที่ห้องเก็บศพของสถาบันฯเป็นเวลา ๖ วัน ไม่มีญาติมาติดต่อขอรับศพ ประกอบกับห้องเก็บศพมีน้อย ไม่มีที่เก็บ จึงได้มอบให้มูลนิธิปอเต็กตึ๊งไปฝังไว้ที่สุสานศพไร้ญาติ ที่สุสานวัดดอนยานนาวา จึงได้เอาภาพถ่ายศพมาดูกัน พิทโธ่ ใครจะจำได้ว่าเป็น สส. ใบหน้าบวม ตาถลนเพราะกว่าจะพบศพเป็นเวลาหลายวัน ศพเน่า จำหน้าตาไม่ได้ แต่ชุดซาฟารีสีเปลือกมังคุดนี่สิ มี สส.ผู้นี้ผู้เดียว ชอบใส่เป็นประจำ สรุปว่าศพนิรนามก็คือ สส.เพื่อนผมนี่เอง

นี่แหละหนา สส.ผู้ทรงเกียรติ ไม่น่าที่จะต้องมาตายแบบไร้ค่า เสียแรงที่เป็นคนฉลาดปราดเปรื่อง เป็นดาวสภา ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ ก็เหมือนกับผงเข้าตาตนเอง แคะเองไม่ได้ ต้องไปวานให้คนอื่นแคะให้ เขาเรียกว่าความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด เหมือนกับที่ผมเขียนหนังสือไว้ เรื่อง “รู้ไว้ไม่ตายโหง” คนส่วนมากต้องไปตายก็เพราะไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ไม่รู้เรื่องรู้ราว เขาเตือน เขาบอก เขาสอนก็ไม่ใส่ใจ มานึกได้ก็สายเสียแล้ว เช่นเดียวกับ สส.เพื่อนผมผู้นี้ มานึกได้ก็ช้าไปเสียแล้ว ผมเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนผมดี เพื่อนไม่น่าพลาดเรื่องไม่เป็นเรื่องเลย เรื่องเป็นยังไงอ่านต่อตอนหน้าแล้วกัน.

"คุณอังกูรเล่นหนังด้วยหรอ?"
"โห...ประกบคู่กับพี่เอกสรพงษ์ด้วย"
"คลาสสิคสุดๆ...อยากดูเต็มๆจัง"
และอีกมากมายสำหรับเสียงตอบรับ เนื่องจากล่าสุดทีมงานทำ VDO "เปิดปูมฮีโร่" มาให้ได้ชมกัน วันนี้ทีมงานจีงขอสมนาคุณแฟนๆ ตามเสียงเรียกร้องครับ เราใช้เวลาตามหาภาพยนตร์สุดคลาสสิคเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงมือแฟนๆ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ...

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์)

ตอน 1ตอน 2ตอน 3
ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 1 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 2 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 3
ติดตามกันมานาน
จนเป็นแฟนประจำกันก็มาก...
แต่หลายๆท่านคงยังอยากรู้จักคุณอังกูร (007) ในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกลงไป
ถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาเป็นฮีโร่ของเรา
ในวันนี้ เราจึงไม่รอช้าจัดเป็น VDO
ให้ชมกันอย่างจุใจ

(คลิ๊กที่ รูปเพื่อดูวีดีโอ)

พลังสกาล่าร์ ร้องทุกข์ที่นี้
จำนวนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์