นักซิ่งทั้งหลายรู้ไว้ซะบ้าง
ผมได้ความคิดหลังจากเข้าไปเยี่ยม web udomdog คุณudomเป็นนักเขียนรายเหตุการณ์ พบอะไรที่ดีๆ อยากเผื่อแผ่ให้คนอื่นได้รู้ ก็รีบนำมาเขียน ผมจะเอาแบบคุณudomบ้าง
เหตุเกิดบ่ายวันนี้เอง เรื่องของการขับรถ ใครๆก็รู้กันหมดแล้วว่า ตามปกติคนไทยอารมณ์ดีเยือกเย็น ยิ้มเสมอ แต่ยกเว้นกรณีขับรถ หากเวลาใดที่มือจับพวงมาลัยซิ่งรถอยู่บนถนน อารมณ์เปลี่ยนไปเป็นคนละคน หลายคนสวมวิญญาญเป็นนักเลง อารมณ์ฉุนเฉียว ทำให้มีเรื่องวิวาทชกต่อย บางทีก็ถึงกับยิงฆ่ากันทีเดียว ผมรู้และให้อภัยในเรื่องนี้ เคยเขียนไปแล้วว่าสถานที่ๆมีอันตรายมากสถานที่หนึ่งก็คือ บนถนนในขณะที่ท่านขับขี่รถ เมื่อคุณขับรถอยู่บนถนน ถ้าไม่พร้อมจะมีเรื่อง อย่าไปขับขี่แซง ปาดหน้า แทรก หรือบีบแตรแบบกวนประสาทเด็ดขาด
ผมใช้เส้นทางด่วนยกระดับพระรามเก้าเป็นประจำ เหตุเพราะบ้านอยู่ใกล้ต้นทางด้านพระรามเก้า จะไปไหนๆก็เริ่มต้นด้วยด่วนยกระดับพระรามเก้า เส้นทางนี้นักขับขี่รถโดยเฉพาะนักซิ่งควรจะรู้ไว้ ตำรวจจราจรตั้งจุดตรวจจับความเร็วอยู่ตรงบริเวณทางด่วนสองเส้นซ้อนกัน คือตรงบริเวณทางด่วนสายอาจณรงค์-รามอินทราซ้อนทับอยู่เหนือด่วนพระรามเก้า ตำรวจเขาตั้งกล้องยิงเลเซอร์อยู่ตรงจุดนี้มาเป็นปีแล้ว คนที่เคยใช้เส้นนี้เป็นประจำเขารู้กันหมด เพราะถูกจับ ถูกปรับเสียจนจำได้ ผมเคยถามตำรวจลูกน้องชุดที่ตั้งจุดตรวจจับความเร็วว่า ทำไมไม่เปลี่ยนจุดซะบ้าง คนเขารู้กันหมดแล้วคุณจะไปจับอะไร ตำรวจลูกน้องตอบง่ายๆ จุดนี้มันร่มดีครับ ไม่ร้อน ก็คือพี่แกอาศรัยร่มเงาจากทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทราที่พาดอยู่เหนือหัวบังแสงแดด ผมบอกอีกว่า มันไม่ได้ผลหรอก ก่อนถึงจุดตรวจคนขับรถจะขับขี่ชลอ พอเลยจุดตรวจไปแล้วเขาเหยียบกันมิดคันเร่ง ลูกน้องผมก็มีเหตุผลอีก คนที่ไม่รู้มีอีกเยอะครับ เพราะเส้นทางนี้ใครๆก็ใช้ ไม่ใช่เฉพาะขาประจำ เพราะเป็นเส้นทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ
ผมถึงบางอ้อ คนกรุงเทพฯไม่ว่าจะอยู่จุดไหนๆก็มีความจำเป็นต้องใช้เส้นทางนี้ เพราะขากลับจากสนามบินสุวรรณภูมิต้องผ่าน หรือพวกที่ไปเที่ยวพัทยา ขากลับก็ต้องผ่านจุดนี้ ทำเลการตั้งจุดตรวจจับดีมาก คนทำหน้าที่ส่องกล้องไม่ร้อน ส่วนคนที่คอยจับกุมไปรออยู่ที่ด่านชำระค่าผ่านทางซึ่งอยู่ห่างไปอีก ๑ กม. ไม่มีทางหนีรอดไปได้
มาถึงเรื่องที่ผมต้องนำมาเขียน ก็เพื่อที่จะบอกบรรดานักซิ่งทั้งหลาย ถ้าท่านใช้เส้นทางนี้ ให้พยายามสังเกตตรงตำแหน่งที่ผมว่าไว้ มองดูให้ดีว่ามีการตั้งจุดตรวจจับความเร็วหรือไม่ สังเกตง่ายๆ ให้ท่านมองทางด้านซ้ายมือเข้าไว้ ถ้ามีรถจอดอยู่ (บนทางด่วนจะไม่อนุญาตให้จอดรถ ผู้ที่จอดรถบนทางด่วนได้คือพวกตำรวจกับเจ้าหน้าที่ทางด่วนเท่านั้น) บางวันเป็นรถมอเตอร์ไซด์ บางวันเป็นรถยนต์ ปิกอัพบ้าง รถเก๋งบ้าง สามารถมองเห็นได้ในระยะห่างประมาณเกือบกิโล ข้างๆรถจะมีขาหยั่งตั้งกล้อง เอาเป็นว่าหากจุดดังกล่าวมีรถจอดอยู่ก็จงขับขี่รถให้ถูกต้องตามกฏ โดยเฉพาะเรื่องความเร็ว กฏหมายอนุญาตให้ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน ๙๐ กม./ชม. เป็นที่น่าสังเกตอยู่อย่าง หากท่านขับรถเส้นทางนี้ ก่อนจะผ่านจุดตรวจความเร็ว รถยนต์ทุกคันจะพร้อมใจกับขับช้าๆ ดูแล้วน่ารักมาก ก็เพราะเขารู้กันหมด แต่จะมีนักขับรถที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ซิ่งซ้ายซิ่งขวา แซงอุดตลุด พวกเราที่รู้กันอยู่แล้วก็จะอมยิ้ม นึกในใจว่า จะรีบร้อนไปไหน เดี๋ยวก็ต้องไปจอดรอพวกเราที่ตรงด่านเก็บเงิน
วันนี้ตอนบ่ายๆ ผมขับรถบนเส้นทางด่วนจากพระรามเก้าตั้งใจจะไปลงสุขุมวิท ทางด่วนกว้างมากประมาณ ๔ ช่องเดินรถ ขณะนั้นมีรถหนาแน่นเต็มทุกช่อง ผมขับอยู่ช่องทางขวา เหตุที่ใช้ช่องนี้เพราะตอนชำระค่าผ่านทางช่วงแรก ๒๕ บาท ผมเข้าช่องขวาสุด ผมจึงรักษาช่องเดินรถนี้ต่อไปอีก ผมเหยียบรถไปด้วยความเร็วใกล้ๆ ๑๐๐ กม.ชม. มองไปข้างหน้าในระยะห่างประมาณ ๑ กม. เห็นมีรถมอเตอร์ไซด์ ๒ คันและมีคนยืนอยู่ตรงที่จุดเจ้าประจำ เห็นก็รู้แล้วว่าวันนี้ตั้งกล้องยิงเลเซอร์ตรวจจับความเร็ว ผมเริ่มชลอความเร็วลง สังเกตเห็นว่ารถอื่นๆขับขี่ช้าหมดทุกคัน แต่มีรถคันหนึ่งซึ่งขับอยู่ทางด้านหลังผม เป็นรถยนต์เก๋งฮอนด้า CRV สีดำ ขับจี้ท้ายรถผมชนิดทำให้เสียอารมณ์ทีเดียว ผมยังคงขับด้วยความเร็วตามที่กฏหมายกำหนดเพื่อจะส่งสัญญาณให้รถ CRV ได้รู้ว่าข้างหน้ามีการตรวจจับความเร็ว แต่พี่แกไม่เข้าใจ กระพริบไฟใส่รถผม แค่นั้นยังไม่พอ แถบบีบแตรเสียงยาวดังลั่น ผมเลยต้องรีบหลบให้ทาง รถ CRV คันนี้ขับเร็วมาก แซงหลบซ้าย หลบขวาขึ้นหน้ารถทุกคัน คะเนว่าใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า ๑๒๐ กม./ชม ประเดี๋ยวเดียวรถ CRV ก็หายไปเพราะแซงขึ้นหน้าพวกเราไปหมด ผมและคนอื่นๆที่ขับรถอยู่ต่างคิดในใจ ให้เหยียบเร็วแค่ไหนก็ต้องช้ากว่าพวกเราแน่ อีกสักพักหนึ่งผมก็ขับรถไฟถึงด่านชำระเงินขั้นสอง ๔๐ บาท พบรถ CRV คันดังกล่าว ถูกตำรวจจราจรเรียกให้หยุดข้างทาง กำลังส่งใบอนุญาตขับขี่ให้เพื่อรอรับใบสั่ง โถ
.ไอ้เราก็อยากจะเตือน อยากจะบอก พี่แกคงจะนึกโกรธเราในใจว่าขับรถงุ่มง่าม แต่นี้ไป คนขับรถ CRV คันนั้น คงจะจดจำจุดนี้ได้เป็นอย่างดี ไม่รู้ว่าเสียค่าปรับหรือเปล่า ถ้าเส้นไม่ดีก็ ๔๐๐ บาท ซื้อข้าวสารได้เป็นถังทีเดียว
ที่เขียนมาบอกกล่าวกัน ไม่ใช่จะสอนให้ทุกคนหลีกเลี่ยงกฏหมาย แต่อยากบอกกับเพื่อนๆนักท่อง web รู้ไว้แล้วระมัดระวัง ถูกจับมันจะทำให้เสียเวลา เสียอารมณ์ แล้วพลอยเสียเงินอีก แต่หากท่านปฏิบัติได้ตามกฏหมาย คือขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน ๙๐ กม./ชม.ถือว่าดีเลิศประเสริฐน่านับถือ นอกจะเป็นการเคารพกฏหมายแล้ว ท่านยังประหยัดเชื้อเพลิงด้วย แต่เรื่องความปลอดภัยต้องค่อยๆดูหน่อยนะครับ ผมเองเป็นคนขับรถไม่เร็ว ความเร็วสูงสุดที่ใช้ประมาณ ๑๐๐ กม./ชม. แต่ทำไมผมถูกรถอื่นแซงเรื่อยเลย ตั้งแต่รถปิกอัพ รกกระบะ รถแท๊กซี่ รถทุกชนิด จนกลัวว่าเพราะขับรถช้าอาจถูกรถอื่นเบียดเอาได้ เลยบางทีก็พลอยอัดตามเขาไปด้วย
นี่แหละครับ รู้เห็นอะไรนิดอะไรหน่อยก็บอกกัน อย่าไปคิดว่าผิดถูกอะไรเลยนะครับ.