บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง
"ประสบการณ์คับด้ามปืน ของยอดนักสืบผู้การเอลวิส"
งานรับอาสาท่านเสรีพิสุทธิ์
หน้าหลัก ›› บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง ›› งานรับอาสาท่านเสรีพิสุทธิ์
เพราะ“จ่าดำอุ้มเด็ก”ถามมา ทำให้ผมนึกย้อนไปถึงช่วงที่ผมรับราชการอยู่กับท่านเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส สมัยที่ท่านเป็นผู้บังคับการกองปราบปราม ขณะนั้นท่านยศพลตำรวจตรี ยังใช้ชื่อเดิมอยู่ คือเสรี เตมียเวส ผมมียศเพียงพันตำรวจโท เป็นรองผู้กำกับการ ท่านเสรีฯรู้จักกับผมมาก่อน ท่านเรียกผม “พี่” และให้ผมไปช่วยงานเกี่ยวกับเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรม ท่านเปิดตู้ ปณ.รับคำร้องเรียน และด้วยภาพพจน์ของท่านเป็นคนตงฉิน คนที่เดือดร้อนจึงหวังพึ่งท่าน มีเรื่องร้องเรียนเข้ามามากมาย ท่านจะเปิดจดหมายร้องเรียนอ่านด้วยตัวท่านเอง แล้วจะเรียกคนที่ท่านไว้ใจมารับมอบหมายให้ไปทำโดยมีกำหนดเวลาชัดเจน เมื่อถึงกำหนดเวลาหากไม่รายงานผลการปฏิบัติ ผู้รับมอบหมายจะถูกเรียกไปซักถาม พูดกันตรงๆ “ทำไมยังไม่เสร็จ ทำได้หรือเปล่า ทำไหวไหม ถ้าทำไม่ได้จะเปลี่ยนคนทำ” แน่นอนครับ ถ้าผู้บังคับบัญชามอบหมายงานแล้วทำไม่ได้ เพราะไม่มีฝีมือ หรือมือไม่ถึง อนาคตไม่รุ่งแน่


ท่านเสรีฯมอบหมายให้ผมไปจับบ่อนการพนันอิทธิพลในท้องที่อำเภอสามพราน ในคำร้องแจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องคอยดูแลให้ความคุ้มครอง จุดที่เล่นการพนันเป็นบ้านอยู่ริมแม่น้ำนครชัยศรี งานนี้ท่านมอบหมายโดยตรงมายังผม ไม่ใช่การเซ็นสั่งเป็นทอดๆ จึงต้องทำให้สำเร็จ ผมต้องออกไปสืบหาข้อมูลก่อนด้วยตนเอง บ่อนนี้มีอิทธิพลจริงๆ เล่นพนันมานานไม่มีใครกล้าจับ ผมพยายามสำรวจสถานที่เพื่อวางแผนจับกุม ไม่ใช่ของง่ายเลยครับ จะไปขอข้อมูลจากตำรวจท้องที่ย่อมไม่ได้แน่ เพราะคำร้องก็บอกชัดอยู่แล้วว่า ตำรวจท้องที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผมต้องสืบเสาะหาคนรู้จัก โยงเข้าไปหาคนในพื้นที่ๆบ่อนตั้งอยู่ คนเราไม่ได้รู้จักคนทั่วไปทั้งประเทศ แต่เพราะต้องการข่าวข้อมูลก็ต้องกระเสือกกระสนหาจนได้ จากคนโน้นโยงไปคนนี้ ในที่สุดก็ได้คนในพื้นที่ๆอยู่ใกล้ๆกับบ่อน ผมนัดหมายพบกับบุคคลผู้นี้ ซึ่งต่อไปผมจะเรียกว่า “สายลับ” ผมมอบหมายงานให้สายลับ ให้พยายามหาทางเข้าไปให้ใกล้บ่อนที่สุด ถ้าเข้าไปเล่นการพนันได้ด้วยยิ่งดี สายลับไม่ใช่นักพนันและพอรู้ว่าต้องทำงานให้กับตำรวจเขากลัวมาก ผมจึงขอให้พยายามเอาข้อมูลเกี่ยวกับบ่อนให้ได้มากที่สุด ให้ได้รายละเอียดพอที่จะเขียนแผนที่ได้ ทางเข้าออกเป็นยังไง มีระบบคุ้มกันอย่างไร แน่นอนครับต้องให้เงินสายลับเป็นค่าใช้จ่ายด้วย สมัยนั้นว่ากันเป็นหลักพันบาท


ถึงกำหนดนัดส่งข่าว ผมไปพบกับสายลับอีก ได้ความว่าทางเข้าบ่อนแห่งนี้ต้องไปทางน้ำ โดยใช้เส้นทางแม่น้ำนครชัยศรีทางเดียว ทางบกเข้าไม่ได้เลย บ้านที่เล่นการพนันอยู่ริมแม่น้ำ มีต้นไม้ขึ้นปกคลุม เป็นพวกต้นจากขึ้นเต็มไปหมด


ต้องหาข้อมูลอีกเป็นครั้งที่สอง คราวนี้ต้องไปทางเรือ แม่น้ำนครชัยศรีมีความกว้าง ช่วงที่แคบที่สุดก็ประมาณ ๑๐๐ เมตร น้ำลึกเชี่ยวกราก มองดูลำน้ำเป็นสีขุ่นเขียว ลำน้ำคดโค้งไปมา มองไม่เห็นริมตลิ่งเพราะมีต้นไม้พวกต้นจากขึ้นเต็มไปหมด น่ากลัวมีสัตว์ร้ายพวกไอ้เข้ ให้ผมว่ายน้ำในแม่น้ำนครชัยศรีผมไม่เอาเด็ดขาด จะหาเรือก็ยาก ต้องไปจ้างเรือหางยาวที่ตลาดสามพราน ขับไปตามแม่น้ำนครชัยศรีไปถึงดอนหวาย กินเวลาเกือบชั่วโมงเพราะแม่น้ำคดเคี้ยว ผมให้ลูกน้องซึ่งมีหุ่นไม่เหมือนตำรวจ นั่งไปกับคนขับเรือหางยาว เพื่อที่จะดูจุดที่จะนำกำลังเข้าจับกุม ที่ให้ลูกน้องไปเพียงคนเดียวเพราะทราบข้อมูลว่าจะมีเรือหางยาวคอยขับตรวจในแม่น้ำ คอยสอดแนมว่ามีเรืออะไรผ่าน เป็นเรือของตำรวจหรือไม่ และในเรือของบ่อนที่วิ่งตรวจจะมีวิทยุ คอยส่งข่าวให้บ่อนทราบสถานการณ์ และเจ้าเรือหางยาวเสียงมันฟ้อง เสียงดังมาก ในระยะห่างประมาณ ๔-๕๐๐ เมตรก็ได้ยินเสียงแล้ว ดังนั้นเมื่อมีเรือหางยาวเข้ามาในระยะ ๕๐๐ เมตรยามต้นทางของบ่อนก็รู้ตัวแล้ว กว่าเรือจะวิ่งเข้าจอดที่จุดหมายนักพนันก็หนีไปเรียบร้อย เท่ากับงานล้มเหลว จับกุมไม่ได้ นักพนันก็ไม่เกรงกลัว ตำรวจกลับไปนักพนันก็รวมตัวกันเล่นใหม่ แต่ถ้าจับกุมได้ ตำรวจท้องที่จะต้องถูกสอบสวนฐานปล่อยปะละเลย เป็นมาตรการทางการปกครองอีกวิธีหนึ่ง


ลูกน้องที่นั่งเรือหางยาวไปสังเกตการณ์กลับมารายงานว่า เข้าใกล้บ่อนไม่ได้เลย พอเข้าในระยะห่างประมาณ ๑ กิโลเมตรก็มีเรือหางยาวตรวจการเข้ามาประกบ เพื่อจะมาเช็คดูว่าเป็นเรือตำรวจนำกำลังไปจับกุมหรือไม่ มันสังเกตได้ง่ายครับ ถ้าเป็นการไปจับกุมการพนันก็ต้องยกกำลังไปเป็นสิบ ดังนั้นถ้าเห็นว่าเรือบรรทุกคนไปมาก เรือสายตรวจก็จะวิทยุบอกนักเล่นการพนันให้หนีไปเสียก่อน วันที่ลูกน้องผมไปสังเกตการณ์มีคนนั่งในเรือคนเดียวคือลูกน้องผม อีกคนก็คือคนขับเรือ เรือตรวจการของบ่อนเลยไม่สนใจ ได้แต่ขับเรือผ่านเข้ามาในระยะใกล้


ผมคิดไม่ตกว่าจะเอากำลังตำรวจสัก ๓๐ คนเข้าจับกุมการพนันรายนี้ได้อย่างไร คนเราไม่ได้ฉลาดไปเสียทุกเรื่อง บางทีบางเรื่องก็คิดไม่ออก ตำรวจลูกน้องผมซึ่งทำหน้าที่คนขับรถหัวไวกว่าผม ช่วยคิดให้ “ เอายังงี้ซินาย ปลอมเป็นเรือขายมะพร้าว รับรองมันไม่มีทางสงสัย จับได้แน่” ผมไม่เข้าใจ มองไม่ออกต้องให้ลูกน้องขยายความ ว่าแล้วคนขับรถของผมก็สาธยาย “ นายเช่าเรือหางยาวสัก ๒ ลำ เอาตำรวจนอกเครื่องแบบนั่งให้เต็มลำ จะได้ลำละประมาณ ๑๕-๑๖ คน รวมแล้วเกิน ๓๐ แล้วใช้ผ้าพ๊าสติกสีเขียวคลุมตั้งแต่หัวเรือถึงท้ายเรือ ช่วงหัวเรือหาทลายมะพร้าวที่มีผลมะพร้าวดกๆสัก ๓-๔ ทลายวาง โชว์ให้เห็นลูกมะพร้าว ต่อจากทลายมะพร้าวจะเป็นคนนั่ง เมื่อเอาผ้าพ๊าสติกคลุมหัวแล้วดึงให้ตึง มองดูจะเหมือนเรือบรรทุกมะพร้าวอ่อนเต็มลำ” คราวนี้ผมนึกภาพออก จัดเตรียมหาอุปกรณ์ นัดกำลังเดินทางไปที่ตลาดสามพราน ทุกคนแต่งกายนอกเครื่องแบบ ไปกัน ๓๐ กว่าคน เช่าเรือหางยาวขนาดใหญ่ ๒ ลำ บอกว่านัดกันไปเที่ยว ทุกคนลงเรือ ต้องนั่งให้ครบทุกกระทงเรือ กระทงละ ๒ คนบ้าง ๓ คนบ้าง เอามะพร้าวไว้ตรงหัวเรือลำละ ๔ ทะลาย พอเรือออกเดินทางไปสักพัก ผมส่งสัญญาณให้ขึงผ้าพ๊าสติก จากหัวเรือถึงท้ายเรือ ปล่อยให้ทะลายมะพร้าวโผล่ ทุกคนที่นั่งในเรือช่วยกันจับผ้าพ๊าสติกให้ตึง มองดูแล้วเหมือนเรือบรรทุกมะพร้าวอ่อนจริงๆ เนื่องจากพอดึงผ้าพ๊าสติก หัวคนจะดันผ้าให้นูนขึ้น ดูแล้วเหมือนลูกมะพร้าว ใครมองผ่านก็จะเห็นเรือบรรทุกมะพร้าวอ่อนเต็มลำแล่นคู่กันไปสองลำ แต่ละลำมีเพียงคนขับเรือคนเดียวเท่านั้น


เรือแล่นไปใกล้ถึงจุดหมาย ผมเห็นเรือหางยาวตรวจการของบ่อนวิ่งรี่เข้ามา (ผมอยู่ในเรือมะพร้าวด้วย ใจไม่ดีกลัวมันจะรู้ตัว) ปรากฏว่าได้ผล เรือตรวจการวิ่งผ่านเข้ามาในระยะใกล้ คงเห็นแต่มะพร้าวเต็มเรือ มีเพียงคนขับเรือลำละ ๑ คนเท่านั้น ไม่ใช่เรือตำรวจแน่ เรือตรวจการก็ขับผ่านไป ไม่ได้สงสัยอะไร


เรือมะพร้าว ๒ ลำวิ่งตรงไปที่บ่อนการพนัน ผมสั่งให้เรือใช้ความเร็วต่ำ แล่นตามกันไปแบบช้าๆ มองเห็นมีคนดูต้นทางของบ่อนอยู่ที่ท่าเทียบเรือ ๑ คน พอเรือเข้าไปใกล้สังเกตเห็นยามต้นทางเริ่มสนใจเรือ ผมสั่งให้คนขับเรือหางยาวร้องขายมะพร้าวอ่อน เพื่อให้ดูมีเหตุผลที่จะนำเรือเข้าใกล้ท่าเทียบ ยามต้นทางตะโกนว่า “ไม่ซื้อ” ผมเตี๊ยมกับคนขับเรือไว้แล้วว่าพยายามพูดตื๊อจะขายมะพร้าวอ่อนให้ได้ ผมสังเกตดูโดยการเจาะผ้าพ๊าสติก ยามต้นทางไม่สงสัย เรือลำแรกเข้าเทียบท่า ทันทีที่เทียบเรือได้ ผ้าพ๊าสติกก็ถูกกระชากออกอย่างรวดเร็ว ตำรวจนอกเครื่องแบบในเรือลำแรกก็กระโดดขึ้นท่าเทียบ แต่เจ้ากรรมกระโดดขึ้นไปได้แค่ ๓ คนเท่านั้น คนอื่นๆที่กระโดตามตกน้ำเป็นแถว ก็เพราะเจ้าคนที่กระโดดขึ้นไปแรกๆ แทนที่จะจับเรือไว้ กลับต่างก็รีบวิ่งไปจับยามต้นทาง แรงที่กระโดดเป็นการถีบให้เรือห่างจากท่าเทียบ คนต่อไปที่โดดเลยตกน้ำ พอดีน้ำตื้นเนื่องจากอยู่ริมตลิ่ง คนที่เหลือเต็มใจโดดลงน้ำแล้วรีบขึ้นฝั่ง ผมเป็นหัวหน้าไม่ยอมลงน้ำ รอเรือเข้าเทียบท่าแล้วจึงขึ้นตามไป


การจับกุมสำเร็จเรียบร้อย นักเล่นหลบหนีไปได้เพียง ๒-๓ คน จับกุมนักพนันทั้งหญิงและชายได้ ๒๓ คน พร้อมอุปกรณ์การเล่นการพนันไฮโล ไพ่ป็อกแปดป๊อกเก้า ยึดวิทยุว็อกกี้-ท็อกกี้ที่ราชการตำรวจใช้ ๒ เครื่อง ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ตรวจสอบแล้วไม่มีข้าราชการตำรวจ ทำให้ผมสงสัยว่า พวกที่หลบหนีไปได้อาจเป็นตำรวจ หลบหนีไปได้จริงๆหรือลูกน้องผมปล่อยไปเพราะเห็นว่าเป็นพวกเดียวกันก็ไม่ทราบได้ ทั้งนี้เพราะว่าผมขึ้นไปทีหลัง ลูกน้องผมที่ขึ้นไปก่อนเขารายงานว่ามีบางคนหนีไปได้ก็ต้องเชื่อไว้ก่อน จับผู้ต้องหาส่งดำเนินคดีที่ สภ.อ.สามพราน


งานนี้ผมรายงานท่านเสรีฯได้เต็มปากเต็มคำเพราะทำงานได้สำเร็จ ไม่ถูกตำหนิ นี่แหละเป็นงานแรกที่ผมอาสาทำให้กับท่านเสรีฯ อย่ามองว่าการจับการพนันเป็นเรื่องเล็กๆนะครับ โดยเฉพาะบ่อนที่มีตำรวจท้องที่คอยเป็นหูเป็นตา คอยดูต้นทาง คอยส่งข่าวให้นักการพนันหลบหนี มันไม่ใช่ของง่ายๆ


สำหรับตัวผมเอง ผมต้องชมคนขับรถของผม มันหัวไว คิดได้ก่อนผม มันหาวิธีตบตาคน ให้ผมนำคนตั้ง ๓๐ คนเดินทางเข้าจับกุมการพนัน ผ่านด่านสังเกตการณ์ของบ่อนไปได้โดยไม่มีการสงสัย ตอนที่ผมทดลองดูก่อนปฏิบัติการจริง เวลาเอาผ้าพ๊าสติกคลุมหัวแล้วดึงให้ตึงๆ หัวคนมันกลมดันผ้าพ๊าสติกนูนขึ้นมา มองดูเหมือนกับลูกมะพร้าวจริงๆ


บรรดานักสืบรุ่นใหม่ๆ หากท่านเป็นแฟนคลับ webผม ท่านได้แนวคิดในการที่จะนำกำลังคนจำนวนมากเข้าจู่โจมปฏิบัติการโดยไม่ให้เป้าหมายรู้ตัว จะใช้วิธีที่ผมเคยใช้นี้ก็ได้


ผมขอแถมเรื่องการนำกำลังเข้าจับกุมการพนันที่เล่นกันกลางทุ่งนา รายนี้ที่อำเภอกำแพงแสน นครปฐม เปิดบ่อนเล่นกลางทุ่งนา ปลูกเพิงชั่วคราวแต่เล่นกันถาวร ถ้าตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมยามต้นทางจะมองเห็น เพราะตำรวจต้องนั่งรถยนต์เข้าไป ยามจะมองเห็นก่อนเป็นระยะห่างกว่ากิโล ผมใช้วิธีเอาตำรวจไว้ในกะบะรถบรรทุก ๑๐ ล้อ แผงข้างรถบรรทุก ๑๐ ล้อเป็นแผ่นไม้ทึบ บังไม่ให้เห็นว่ามีคนอยู่ข้างใน แล้วผมเอากะชุกหมูวางบนหลังคาเก๋งรถบรรทุก ทำให้ดูเหมือนเป็นรถรับซื้อหมู ได้ผลครับ ยามต้นทางนึกไม่ถึง พอรถบรรทุก ๑๐ ล้อวิ่งเฉียดๆไปใกล้ๆบ่อนในระยะใกล้ประมาณ ๑๐๐ เมตร ผมสั่งรถชะลอความเร็ว ให้ตำรวจโดดลงไล่กวดจับ ได้นักพนันหลายสิบคน การไล่จับนักเล่นพนันบ่อนภูธรนี่สนุกดีนะครับ.
"คุณอังกูรเล่นหนังด้วยหรอ?"
"โห...ประกบคู่กับพี่เอกสรพงษ์ด้วย"
"คลาสสิคสุดๆ...อยากดูเต็มๆจัง"
และอีกมากมายสำหรับเสียงตอบรับ เนื่องจากล่าสุดทีมงานทำ VDO "เปิดปูมฮีโร่" มาให้ได้ชมกัน วันนี้ทีมงานจีงขอสมนาคุณแฟนๆ ตามเสียงเรียกร้องครับ เราใช้เวลาตามหาภาพยนตร์สุดคลาสสิคเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงมือแฟนๆ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ...

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์)

ตอน 1ตอน 2ตอน 3
ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 1 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 2 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 3
ติดตามกันมานาน
จนเป็นแฟนประจำกันก็มาก...
แต่หลายๆท่านคงยังอยากรู้จักคุณอังกูร (007) ในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกลงไป
ถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาเป็นฮีโร่ของเรา
ในวันนี้ เราจึงไม่รอช้าจัดเป็น VDO
ให้ชมกันอย่างจุใจ

(คลิ๊กที่ รูปเพื่อดูวีดีโอ)

พลังสกาล่าร์ ร้องทุกข์ที่นี้
จำนวนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์