บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง
"ประสบการณ์คับด้ามปืน ของยอดนักสืบผู้การเอลวิส"
ศพเปลือย ฆาตกรรมอำพราง ตอนที่ 1
หน้าหลัก ›› บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง ›› ศพเปลือย ฆาตกรรมอำพราง ตอนที่ 1




ตำรวจทางหลวงมีหน้าที่ดูแล รักษาความสงบเรียบร้อย ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เกิดขึ้นบนถนนหลวง ( ถนนหลวงในที่นี้หมายรวมถึง ทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงพิเศษ ) ซึ่งมีความยาวรวมกันประมาณ ๒๐,๐๐๐ กม. มีกำลังพลประมาณ ๑,๘๐๐ คน มีรถยนต์สายตรวจที่คอยตรวจตระเวนบนถนนเส้นทางต่างๆที่รับผิดชอบ รวมทั้งรถนำขบวนและอารักขา ประมาณ ๑,๐๐๐ คัน มีสถานีตำรวจทางหลวงรับผิดชอบดูแลเส้นทาง รวม ๓๗ สถานี และมีกองกำกับการ ทำหน้าที่ควบการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจทางหลวงต่างๆ

กองกำกับการ ๒ ตำรวจทางหลวง ดูแลรับผิดชอบถนนเพชรเกษม ตั้งแต่สุดเขตกรุงเทพฯ ไปจนถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในช่วงนั้นมี พ.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เป็นผู้กำกับการ ตลอดระยะเวลา ๒๔ ชั่วโมงในแต่ละวัน จะมีรถยนต์สายตรวจของตำรวจทางหลวง ขับตระเวนตรวจเส้นทาง รถยนต์สายตรวจคันหนึ่งๆ จะรับผิดชอบดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย บนถนนหลวงความยาวประมาณ ๕๐ ถึง ๑๐๐ กม. นอกจากนี้ยังมีชุดสืบสวนพิเศษ ทำหน้าที่สืบสวนปราบปรามอาชญากรรม ที่เกิดขึ้นบนถนนหลวง หรือใช้ถนนหลวงเป็นเส้นทางหลบหนี หรือใช้เป็นเส้นทางลำเลียงสิ่งผิดกฎหมาย หัวหน้าชุดสืบสวนพิเศษของ พ.ต.อ.รอยฯก็คือ ร.ต.อ.บรรพต เดชมา ร.ต.อ.บรรพตฯเป็นนายตำรวจผู้มีความสามารถผู้หนึ่ง เป็นผู้พิชิตคดีนี้ได้สำเร็จ ร.ต.อ.บรรพตฯมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ปัจจุบันได้รับแต่งตั้งเป็นสารวัตรสืบสวนปราบปราม สภ.เมืองพัทลุง ยศ พ.ต.ต.

จากความช่างสังเกตของชุดสืบสวน ร.ต.อ.บรรพตฯ พบว่ามีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน รุ่นซีฟีโร่ สีน้ำเงิน ด้านข้างรถติดตราสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บนหลังคารถติดสัญญาณไฟวับวาบ เหมือนกับรถยนต์สายตรวจทั่วๆไป กระจกรถติดฟิล์มดำมืด ท้ายรถติดสติกเกอร์ตัวเลข 002 และมีเสาวิทยุแบบเดียวกับที่รถราชการใช้ ติดอยู่ท้ายรถ ๓ เสา รถยนต์ยี่ห้อและสีดังกล่าวนี้ ใช้เป็นรถยนต์ประจำตำแหน่งผู้บังคับบัญชาตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามปกติตำรวจสายตรวจชั้นผู้น้อย จะไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับรถยนต์ของผู้บังคับบัญชา แต่ชุดสืบสวนลูกน้อง พ.ต.อ.รอยฯมองเห็นความผิดปกติ รถยนต์คันดังกล่าวนี้มักจะขับขี่บนถนนเพชรเกษมในช่วงดึกๆเกือบทุกคืน จึงได้รายงานพฤติการณ์ไปยังผู้บังคับบัญชาและได้รับคำสั่งให้ตรวจสอบ ผลการตรวจสอบ เลขรหัส 002 และหมายเลขทะเบียนรถนิสสันดังกล่าว ไม่ใช่รถยนต์ของทางราชการ รหัส 002 ไม่มีผู้บังคับบัญชาผู้ใดใช้ พ.ต.อ.รอยฯสั่งการให้ชุดสืบสวนและสายตรวจ ทำการตรวจรถยนต์คันดังกล่าวนี้หากพบเห็น และแล้วในวันหนึ่ง เมื่อรถยนต์นิสสันคันดังกล่าวขับขี่เข้าไปในพื้นที่รับผิดชอบของ พ.ต.อ.รอยฯ ตำรวจสายตรวจสั่งให้หยุดรถแล้วทำการตรวจ พบว่ามีผู้มากับรถยนต์ดังกล่าว ๓ คน เป็นชาย ๒ หญิง ๑ ตรวจดูบัตรไม่พบว่าผู้ใดเป็นเจ้าหน้าที่ ทราบชื่อบุคคลทั้งสามคือ ๑ นายสุชายฯ ๒ นายสุทินฯ ส่วนผู้หญิงเป็นภรรยาของนายสุชายฯ

เมื่อพบว่าบุคคลในรถไม่ใช่เจ้าหน้าที่ แต่มีการตกแต่งรถแบบรถของทางราชการ มันต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ จึงนำรถยนต์และบุคคลทั้งสามไปตรวจค้นอย่างละเอียด พบว่านายสุชายฯและนายสุทินฯ มีบัตรข้าราชการตำรวจปลอม พบอุปกรณ์งัดแงะโจรกรรมรถ มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และมีวิทยุรับ-ส่งของตำรวจ

นายสุชายฯกับพวกถูกนำตัวไปทำการสอบสวน รับว่าไม่ได้เป็นตำรวจ แต่ปลอมบัตรตำรวจ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ คอยดักจับรถบรรทุกสิบล้อที่ผิดกฏหมายแล้วรีดไถเงิน พ.ต.อ.รอยฯสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา นำตัวนายสุชายฯกับพวกไปทำการตรวจค้นบ้านพัก โดยให้ประสานกับตำรวจท้องที่ ผลการตรวจค้นบ้านนายสุชายฯ พบสมุดใบเสร็จรับเงินค่าปรับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๕๒ เล่ม ตรายางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ปลอม) ๑ อัน พบป้ายทะเบียนรถยนต์หลายแผ่นป้าย ตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าว เป็นแผ่นป้ายรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม

จากที่นายสุชายฯรับว่าเป็นแก๊งตำรวจปลอมรีดไถรถบรรทุกสิบล้อ กลายเป็นแก๊งโจรกรรมรถยนต์เพิ่มเข้าไปอีก จึงได้มีการซักถามเพื่อติดตามเอารถยนต์ที่โจรกรรมกลับคืน ได้ความว่า นายสุชายฯเอารถยนต์ไปจอดไว้ที่บ้านภรรยา ข้อมูลเกี่ยวกับภรรยาของนายสุชายฯว่าเป็นใครบ้าง มีบ้านอยู่ที่ใด ถูกตำรวจซักถามอย่างละเอียด
นายสุชายฯเป็นผู้ที่มีความละเอียดอ่อนในด้านความรัก นำภาพภรรยาทั้ง ๖ คนเก็บใส่อัลบั้มภาพอย่างดี จึงไม่สามารถปิดบังตำรวจเกี่ยวกับภรรยาได้ มีภาพของพรรณีฯอยู่ด้วย ตำรวจให้นายสุชายฯเป็นผู้นำพาไปตรวจค้นบ้านภรรยาทุกคน การตรวจค้นผ่านไปแล้ว ๕ บ้าน ๕ ภรรยา บ้านพรรณีฯภรรยาคนที่ ๖ เป็นบ้านสุดท้าย ตำรวจซักถามหาตัวนางพรรณีฯ นายสุชายฯตอบอย่างมีพิรุธ ให้การวกวนเกี่ยวกับการหายตัวไปของภรรยาคนที่หก

พ.ต.อ.รอยฯไม่ทราบมาก่อนเลยว่าพรรณีฯถูกฆ่า เช่นเดียวกับนายสุชายฯก็ยังไม่ทราบว่า ญาติของพรรณีฯพบศพพรรณีฯแล้ว พ.ต.อ.รอยฯต้องการขยายผลเรื่องการโจรกรรมรถ เมื่อนายสุชายฯให้การว่าภรรยาคนที่ ๖ หายตัวไป พ.ต.อ.รอยฯกลับคิดว่าสุชายฯปกปิดเรื่องซุกซ่อนรถที่โจรกรรม จึงได้ซักถามลึกถึงรายละเอียดโยงไปถึงพ่อแม่ญาติพี่น้องของภรรยาคนที่ ๖ ว่าเป็นใครอยู่ที่ใด พ.ต.อ.รอยฯติดตามสอบสวนญาติฯของพรรณีฯ จึงได้ทราบว่าพรรณีฯถูกฆ่าและญาติทุกคนสงสัยนายสุชายฯ พ.ต.อ.รอยฯประสานไปยังพนักงานสอบสวนกบินทร์บุรี ทราบว่าคดียังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะขออนุมัติดำเนินคดี พ.ต.อ.รอยฯจึงได้วางแผนโดยมารดาของพรรณีฯร่วมมือ
ชะตาชีวิตของนายสุชายฯอยู่ในกำมือของ พ.ต.อ.รอยฯ คดีอาชญากรรมที่นายสุชายฯทำไว้ ถ้านำมาเรียงกระทงความผิดแล้วหลายสิบคดี ต่างกรรมต่างวาระ เช่น คดีอ้างเป็นตนเป็นเจ้าพนักงานและปฏิบัติการเป็นเจ้าพนักงาน (อ้างตนเป็นตำรวจทางหลวงจับกุมรถบรรทุก ๑๐ ล้อ) ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม (ปลอมบัตรข้าราชการตำรวจ) กรรโชกเรียกเอาทรัพย์ (ปรับผู้ขับขี่รถบรรทุกหลายราย ตามหลักฐานใบเสร็จปลอม) ลักทรัพย์รับของโจร (ลักรถยนต์) จากหลักฐานแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ค้นพบได้ที่บ้านพัก เป็นป้ายทะเบียนของรถยนต์ที่หาย เพียงแค่พบแผ่นป้ายก็ดำเนินคดีได้แล้ว และยังพบรถยนต์ของกลางอีกหลายคัน ซุกซ่อนไว้ตามบ้านภรรยา นายสุชายฯรู้อนาคตของตนที่จะต้องถูกดำเนินคดีหลายสิบคดี ถ้าสู้คดีก็ต้องใช้เวลาหลายปี แต่ละคดีมีพยานหลักฐาน อาจจะติดคุกเรียงกระทงความผิด รวมกันแล้วอาจถึง ๕๐ ปี สุชายฯต่อรองขอให้ พ.ต.อ.รอยฯช่วยคดีโจรกรรมรถ ขอให้ส่งดำเนินคดีเฉพาะเรื่องใช้บัตรปลอม สิ่งที่นายสุชายฯกลัวและพยายามปกปิดคือเรื่องพรรณีฯหายตัวไป พ.ต.อ.รอยฯรู้แล้วว่าพรรณีฯตาย แต่ไม่พูดถึง เพียงแต่บอกสุชายฯว่า มีจำเป็นต้องสอบพรรณีฯ หากพรรณีฯมาให้การไม่ได้ก็ช่วยติดตามมารดาของพรรณีฯมาให้ปากคำแทน เมื่อได้สอบมารดาของพรรณีฯแล้วจะพิจารณาว่าสมควรจะช่วยอย่างไร โดยอาจจะส่งสุชายฯไปดำเนินคดีเพียงบางเรื่อง เวลาเดียวกัน พ.ต.อ.รอยฯก็ประสานกับมารดาของพรรณีฯว่า หากสุชายฯมาขอร้อง ก็ขอให้ช่วยเกลี้ยกล่อมสุชายฯ ให้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับพรรณีฯ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ โดยมารดาหวังเพียงนำศพจัดการตามประเพณี ไม่ติดใจเรื่องคดี

พ.ต.อ.รอยฯประสานกับทีมงานด้านเทคนิคของ ITV ติดไมโครโฟนไร้สายที่มารดาของพรรณีฯ ติดกล้องถ่ายโทรทัศน์ขนาดจิ๋วซ่อนไว้ในบ้านแม่ของพรรณีฯ ๑ ตัว ตั้งกล้องถ่ายซุ่มไว้ในที่ลับห่างจากบ้านแม่ของพรรณีฯอีก ๑ ตัว พร้อมกับอุปกรณ์ฟังเสียงในระยะไกล ทีมงานของ ITV มีความชำนาญเรื่องนี้มาก การติดตั้งอุปกรณ์ด้านเทคนิคเรียบร้อยก่อนถึงเวลานัดหมาย สุชายฯมาพบแม่ของพรรณีฯตามนัด

ถ้าท่านทั้งหลายได้ดูภาพที่ ITV บันทึกไว้ ท่านจะต้องเห็นพ้องกับผมว่า แม่ของพรรณีฯน่าจะได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง คุณแม่เล่นบทอย่างเป็นธรรมชาติ การใช้ถ้อยคำและอากัปกริยาอย่างกลมกลืน คุณแม่ตีหน้าตาย พูดจาทักทายสุชายฯอย่างปกติธรรมดา ทุกถ้อยคำพูดเต็มไปด้วยความรักความเห็นใจ บอกว่าทำใจได้แล้ว ขอเพียงอย่างเดียวอยากเอาศพไปจัดการตามประเพณี ไม่ลืมบอกว่าพรรณีฯมาเข้าฝัน ว่าถูกฝัง หายใจไม่ออก ขอให้ช่วยขุดขึ้นมา บรรยากาศการพูดคุยเป็นกันเอง แบบแม่คุยกับลูก ในที่สุดสุชายฯก็รับสารภาพกับแม่ยายพร้อมร้องไห้ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ โดยเล่าให้ฟังว่า เหตุที่ทะเลาะกันเพราะสุชายฯเอาเงินของพรรณีฯไปใช้จนหมด เกิดการทุบตีจนพรรณีฯได้รับบาดเจ็บ สุชายฯไปอยู่กับภรรยาคนอื่น ส่วนพรรณีฯก็มีงานทำใหม่ มีเพื่อนชายจากที่ทำงานมาติดพันขับรถรับ-ส่ง นายสุชายฯทราบเกิดอารมณ์หึงหวง

วันเกิดเหตุสุชายฯมารับพรรณีฯไปพักที่พัทยา ๑ คืน เพื่อจะพูดจาปรับความเข้าใจกัน รุ่งขึ้นมีโทรศัพท์เข้ามือถือของพรรณีฯ หลังจากพรรณีฯได้รับโทรศัพท์แล้วก็ขอกลับ กทม. นายสุชายฯเชื่อว่าแฟนใหม่ของพรรณีฯโทรมา จึงไม่ยอมกลับ เมื่อสุชายฯไม่กลับพรรณีฯจะขอกลับเอง ในที่สุดสุชายฯขับรถพาพรรณีฯกลับ กทม. ระหว่างทางสุชายฯขับรถเข้าซอยซึ่งเป็นที่เปลี่ยว ซักถามพรรณีฯถึงชายคนใหม่ พรรณีฯไม่ยอมรับ เกิดทะเลาะกันในรถ สุชายฯใช้มือบีบคอพรรณีฯ ด้วยความโกรธบีบแรงไปหน่อย พรรณีฯแน่นิ่งไป ครั้งแรกสุชายฯจะพาเข้าโรงพยาบาล แต่กลัวพรรณีฯตายตนเองจะต้องติดคุก จึงขับรถพาพรรณีฯไปทิ้งไว้ข้างทางแถวกบินทร์บุรี

ข้อมูลการสนทนาระหว่างสุชายฯกับแม่ของพรรณีฯ ถูกบันทึกทั้งเสียงและภาพ และถูกรวบรวมส่งพนักงานสอบสวน ในที่สุดพนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับนายสุชายฯ ฐานฆ่าผู้อื่น หลักฐานทางคดีมิใช่มีเพียงคำรับของนายสุชายฯเท่านั้น ต้องชมเชยพนักงานสอบสวนกบินทร์บุรี ได้ตัดปลายนิ้วของศพพรรณีฯซึ่งมีเล็บไว้ด้วย ผลการตรวจสอบ ดี.เอ็น.เอ.ที่เนื้อเยื่อใต้เล็บพรรณีฯ ตรงกับ ดี.เอ็น.เอ.ของนายสุชายฯ
ชั้นสอบสวนนายสุชายฯรับสารภาพ ว่ากระทำไปโดยไม่มีเจตนาจะฆ่า แต่พอถึงชั้นศาลพิจารณาคดี นายสุชายฯกลับคำ ปฏิเสธต่อสู้คดี และได้มีประกันตัวไปในชั้นศาล ครั้นถึงวันนัดฟังคำพิพากษา นายสุชายฯหลบหนี ไม่ไปฟังคำพิพากษา ศาลจังหวัดกบินทร์บุรี ออกหมายจับ ตามหมายจับที่ ๘๑/๒๕๕๐ ลงวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๐ (ภายในอายุความ ๒๐ ปี) และอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย จำคุกนายสุชายฯตลอดชีวิต (ที่อยู่ของจำเลยหรือผู้ต้องหานี้ หมู่ที่ ๑๑ แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.)

แต่ก็มีเพียงคำพิพากษาเท่านั้น สุชายฯยังคงลอยนวล อาจจะไปสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับบรรดาสิงห์รถบรรทุก หรืออาจจะไปล่อหลอกผู้หญิงอีกไม่รู้กี่ราย จะมีใครบ้างที่จะติดตามเอาฆาตรกรเลือดเย็นผู้นี้ มารับโทษตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนโยกย้าย ไปตามวิถีราชการไทย บางคนอาจจะเกษียณอายุราชการไป แต่ความสูญเสียมิได้หายจางไปจากความรู้สึกของแม่และญาติๆ หวังว่า พ.ต.อ.รอยฯซึ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง และ พ.ต.ต.บรรพตฯ จะคงติดตามล่าฆาตรกรนี้ต่อไป

สิ่งที่ผู้อ่านควรระวังอีกประการหนึ่งก็คือ เมื่อท่านขับรถในยามค่ำคืน ท่านถูกเจ้าหน้าที่เรียกให้หยุดรถ ท่านจะทราบได้อย่างไรว่า เป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือเจ้าหน้าที่ปลอม มีข้อสังเกตดังนี้ การตั้งด่านตรวจจะต้องมีป้ายเป็นตู้ไฟบอกชัดเจนว่าเป็นด่านตรวจ มีเจ้าหน้าที่แต่งเครื่องแบบ มีจำนวนไม่น้อยกว่า ๑๐ นาย มีนายตำรวจเป็นหัวหน้าด่าน และจะต้องมีป้ายเขียน บอกว่าใครเป็นหัวหน้าด่านตรวจ ถ้าจอดรถซุ่มในที่มืดๆแล้วใช้ Spot light กวัก เรียกให้จอด ต้องดูให้ดีเสียก่อนว่า เป็นรถยนต์สายตรวจของตำรวจทางหลวงหรือไม่ รถตำรวจทางหลวงจะต้องมีตราสัญลักษณ์ตำรวจทางหลวง และมีหมายเลขข้างรถ ท่านต้องจำหมายเลขข้างรถไว้ให้ดี ระวังอาจจะเป็นรถของสุชายฯก็ได้
เหตุการณ์และสถานที่ เป็นไปตามความเป็นจริง ชื่อผู้เกี่ยวข้อง (เว้นชื่อเจ้าหน้าที่) เป็นชื่อสมมุติ ท่านผู้อ่านครับ ถ้ามีข้อมูลฆาตรกรผู้นี้ กรุณาติดต่อผมโดยตรง 081-8212825 มีรางวัล ขอบคุณครับ.
"คุณอังกูรเล่นหนังด้วยหรอ?"
"โห...ประกบคู่กับพี่เอกสรพงษ์ด้วย"
"คลาสสิคสุดๆ...อยากดูเต็มๆจัง"
และอีกมากมายสำหรับเสียงตอบรับ เนื่องจากล่าสุดทีมงานทำ VDO "เปิดปูมฮีโร่" มาให้ได้ชมกัน วันนี้ทีมงานจีงขอสมนาคุณแฟนๆ ตามเสียงเรียกร้องครับ เราใช้เวลาตามหาภาพยนตร์สุดคลาสสิคเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงมือแฟนๆ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ...

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์)

ตอน 1ตอน 2ตอน 3
ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 1 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 2 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 3
ติดตามกันมานาน
จนเป็นแฟนประจำกันก็มาก...
แต่หลายๆท่านคงยังอยากรู้จักคุณอังกูร (007) ในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกลงไป
ถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาเป็นฮีโร่ของเรา
ในวันนี้ เราจึงไม่รอช้าจัดเป็น VDO
ให้ชมกันอย่างจุใจ

(คลิ๊กที่ รูปเพื่อดูวีดีโอ)

พลังสกาล่าร์ ร้องทุกข์ที่นี้
จำนวนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์