ขอคั่นจังหวะเรื่องอาชญากรรม นำเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมาเสนอสักเรื่องก่อน เรื่องต่อไปเป็นเรื่อง ฆาตรกรเลือดเย็น ฆ่าหญิงหมกศพในป่าละเมาะข้างทาง ถอดเสื้อผ้าเปลือยศพ ให้ผู้สืบสวนไขว้เขวว่าเป็นการฆ่าข่มขืน หลักฐานเอกสารในตัวทิ้งหมด หวังที่จะไม่ให้ตำรวจรู้ว่าผู้ตายเป็นใคร ศพอยู่ทิศหนึ่ง ญาติพี่น้องอยู่อีกทาง ห่างกันเป็นร้อยกิโล จะตามหากันยังไง ญาติตามหาแบบพลิกแผ่นดิน เป็นการฆาตรกรรมอำพราง ฆาตรกรเป็นใคร จะถูกจับได้หรือไม่ กรุณาติดตาม เรื่องนี้รับรองว่าได้ความรู้ โดยเฉพาะกรณีคนหาย จะไปตามหากันที่ไหน เรื่องนี้ปฏิหาริย์เท่านั้นที่จะช่วยได้ เร็วๆนี้ครับ

ตอนที่ผมเรียนหนังสือที่โรงเรียนเตรียมอุดมพญาไท สมัยนั้นเรียกกันว่า เตรียมจุฬาฯ ผมไม่ทราบเหมือนกันว่ามันเกี่ยวพันกันอย่างไรจึงเรียกเช่นนั้น แต่ที่เห็นๆคือ เราติดพระเกี้ยวอันเล็กๆไว้ที่อกเสื้อ เรียกว่าพระเกี้ยวน้อย คล้ายกับพระเกี้ยวของนิสิตจุฬาฯ แต่ของนิสิตฯจะอันโตกว่า ตอนทำพิธีไหว้ครูเราก็ใช้สถานที่หอประชุมจุฬาฯ เปิดประตูรั้วด้านข้างเดินทะลุถึงกัน ตอนนี้ไม่ทราบว่าประตูนี้ยังมีอยู่หรือไม่ ผมเป็นนักกีฬารักบี้ทีมสีม่วงของโรงเรียน เวลาแข่งกีฬาสี (กีฬาประจำปีของโรงเรียน) ทีมของผมใช้ชื่อทีมว่า ทีมแตงร่มใบ ที่ตั้งชื่อเช่นนี้ก็เพราะแต่ละคนอ้อนแอ้น ผิวเหมือนคนไม่เคยโดนแดด ผลการแข่งขันเกือบที่โหล่ แต่ผมก็ยังติดอยู่ในทีมรักบี้ของโรงเรียนเตรียมฯ กีฬารักบี้เป็นกีฬาทีมที่หนักมาก ต้องวิ่งต้องซ้อมอย่างหนัก เคยลงแข่งขันประเภทเตรียมอุดมที่สนามศุภฯ เจอกับทีมวชิราวุธ แพ้เขาแบบไม่เป็นท่า พอไปอยู่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้เป็นนักกีฬารักบี้ของโรงเรียนอีก อยู่ทีมบี หรือเรียกง่ายว่าตัวสำรอง ต้องวิ่งและซ้อมหนักเช่นกัน มีโอกาสได้ลงแข่งกับทีมนายร้อย จปร.ครั้งหนึ่งที่สนามศุภฯ แพ้อีกเช่นเคย

ที่เล่ามานี้ กำลังจะบอกว่า การเล่นกีฬาหนักไปมีผลเอาตอนอายุมาก (ตอนแก่) คือข้อเข่าเสื่อมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ตอนที่อยู่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสี่ปี ต้องวิ่งทุกวัน ถูกทำโทษให้สก๊อตจั๊มก็บ่อย ทั้งหมดนี้เป็นผลร้ายต่อข้อเข่า การปวดข้อเข่าแสนจะทรมาน เวลานอนก็ปวด พลิกตัวทีต้องร้องโอย เวลาเดินไม่ต้องพูดถึง แสนทรมาน ต้องเดินกะย่องกะแย่ง เวลาเดินลงบันไดร้ายหนักกว่าตอนขึ้น ไป X-RAY ตรวจ พบว่าหมอนรองกระดูกเข่าชำรุด ขาดหายไปหมดแล้ว กระดูกขาท่อนบนกับท่อนล่างเสียดสีกัน ทำให้ปวดและเสียว ไปให้หมอที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ผ่าตัดแบบส่องกล้อง สอดหัวสว่านเข้าไปกรอกระดูกให้เรียบ ทำความสะอาด ดูดน้ำในข้อเข่าออก หายปวดไปได้สัก ๒ ปี กลับมาปวดใหม่อีก เหตุเพราะไม่ได้เปลี่ยนข้อเข่า ปรึกษาเพื่อนหลายคนที่มีปัญหาแบบเดียวกับผม บางคนก็บอกว่า ไปให้หมอเปลี่ยนเข่าเลยอย่ารีรอ เปลี่ยนแล้วสบายหายปวดไม่ทรมาน บางคนบอกว่า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆอย่าไปทำ เพราะตัวเขาไปทำมาแล้ว ก็ยังไม่หายปวด กลับหนักกว่าเดิม เดินแล้วเสียว ต้องไปผ่าตัดแก้ใหม่อีกหลายครั้ง ก็ยังไม่ดี เป็นสาเหตุให้ผมต้องรีรอกล้าๆกลัวๆ เลยต้องทนทุกข์ทรมานต่อไป ไม่ยอมเข้ารับการผ่าตัด
เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมได้รับการชักชวนจาก คุณดอน แดนสวรรค์ นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ ให้ไปชมการสาธิตพลังงานสกาล่า ที่กัวลาลัมเปอร์ พลังงานดังกล่าวผสมอยู่ในลาวาที่ปะทุออกมาจากภูเขาไฟ นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันนำลาวาที่มีพลังสกาล่า มาทำเป็นเหรียญให้สะดวกในการที่จะพกพาติดตัว เรียกว่า Quantum Pendant เจ้าเหรียญนี้มีพลัง สามารถบำบัดความเจ็บปวดข้อเข่าของผมได้ ผมไม่ค่อยจะเชื่อ แต่พอเห็นรายชื่อคณะคนไทยที่จะเดินทางไปกัวลาลัมเปอร์ครั้งนี้ เป็นผู้มีระดับ เป็นวีไอพีที่เชื่อถือได้หลายคน ผมจึงตกลงไปกับเขาด้วย
เป็นงานปีใหม่ (ตรุษจีน) ของบริษัท Fusion Excel International กัวลาลัมเปอร์ จัดขึ้นเมื่อคืนวันเสาร์ที่ ๒ กุมภาพันธ์นี้ จัดที่ห้องบอลรูมโรงแรมแห่งหนึ่ง จุคนได้ประมาณ ๘๐๐ คน มีหลายชาติ มาเลเซียเป็นหลัก อินโดนิเซีย ฟิลลิปปิน สิงคโปร์และไทย ทราบว่าคนที่จะเข้าร่วมอีกประมาณ ๔๐๐ คนไม่สามารถร่วมงานได้ เพราะไม่มีที่นั่ง คนไทยที่ไปร่วมงานนี้มี ๓๓ คน เลี้ยงอาหารจีนอย่างดี ชมการแสดงบนเวที หนีไม่พ้นการเชิดสิงโตต่อตัวบนที่สูง ร้องเพลง ไทยส่งการแสดงโชว์เป่าแซกโดย คุณเทวัญ ทรัพย์แสนยากร ภาพเหล่านี้สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://www.fusionexcel.com แล้วคลิกต่อเข้าไปดูที่ -Prominent Thais wearing QP และที่ –New Year Celebration Photos

ถึงตอนสำคัญของงาน มีการสาธิตพลังสกาล่า บรรยายความเป็นมาเป็นไปโดยศาสตราจารย์ผู้หนึ่ง เป็นภาษาอังกฤษ มีหนังสือแจกให้อ่านด้วย ทำให้พอเข้าใจ โอ้โฮ มันจะวิเศษอะไรปานนั้น พอสรุปอานุภาพของพลังดังกล่าวได้ ๑๐ ข้อ

๑ ช่วยต้านการอักเสบติดเชื้อ

๒ เพิ่มปริมาณออกซิเจนในโลหิต

๓ ทำความสะอาดสารพิษในเลือด ในเซลล์ไขมัน อนุภาคของโปรตีน ฯลฯ ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มพลังงาน

๔ ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง เนื่องจากเซลล์มะเร็งเป็นเซลที่มีพลังงานต่ำ พลังสกาล่าจาก Quantum Pendant จะทำให้เซลล์มะเร็งฝ่อและตายไปในที่สุด

๕ ล้างสารพิษให้กับเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย

๖ เสริมสร้างพลังงาน โดยการปรับเปลี่ยนคลื่นความถี่ของเซลล์ ให้เหมาะสมในการต้านโรค

๗ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับดีเอนเอ และปกป้องดีเอนเอจากการถูกทำลาย

๘ ลดแรงตึงผิวของน้ำ จึงช่วยให้กระบวนการดูดซึมและการย่อยอาหาร และขับสารพิษออกจากเซลล์รวดเร็วขึ้น

๙ ช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น และช่วยสร้างความสมดุลให้กับสมองทั้งสองซีก ได้รับการพิสูจน์โดยการวัดผล ECG

๑๐ ทำงานโดยไม่มีการกดประสาท

แค่นี้ผมก็ตกใจจะแย่ กลัวหมอจะหมดทางหากิน ต่อมาก็มีการสาธิตพลังสกาล่าจาก Quantum Pendant เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นจริงๆ มีการทดสอบหลายๆอย่าง ผู้ที่รับการทดสอบก็คือคนที่ไปร่วมงาน คนไทยถูกเชิญขึ้นไปรับการทดสอบหลายคนรวมทั้งตัวผมด้วย พบว่าเมื่อเรามี Quantum Pendant อยู่กับตัว จะมีพลังเกิดขึ้นมากกว่าปกติ เช่นนักก๊อล์ฟตีลูกก๊อล์ฟได้ไกลกว่าเดิม ร่างกายรับแรงกดได้มากกว่า ยึดพื้นได้มากครั้งกว่า ความอ่อนตัวดีกว่า ผมได้รับเชิญให้ไปทดสอบความอ่อนตัว ในตอนที่ผมขึ้นไปทดสอบบนเวที ยังงงๆ แยกไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น (ยังไม่ศรัทธา หรือพูดง่ายๆ ยังไม่เชื่อ) พองานเลิกออกจากห้องที่จัดงาน ทำไมคนต่อคิวกันยาวหน้าห้องงาน ปรากฏว่าคนรุมซื้อ Quantum Pendant ยอดขายในวันดังกล่าวเป็นเงินไทย ๔๐ ล้านบาท ในจำนวนนี้ไม่มีคนไทย เพราะคนไทยขาใหญ่ ต้องไปชมและซื้อที่บริษัท

รุ่งขึ้นพวกเราไปเยี่ยมที่สำนักงานใหญ่ Fusion Excel International ซึ่งอยู่ในกัวลาลัมเปอร์ มีการให้ความรู้เกี่ยวกับพลังสกาล่า มีการทดสอบโชว์พลังเช่นเดียวกับในงานเมื่อคืนที่ก่อน แล้วเลือกชมสินค้า มีมากมายหลายอย่าง เป็นต้นว่า Quantum Pendant (ลาวาภูเขาไฟที่ทำเป็นเหรียญสำหรับห้อยคอ) นาฬิกาข้อมือทั้งหญิงและชาย มีหินลาวาที่มีพลังสกาล่าฝังอยู่ที่ตัวเรือน เลตข้อมือด้านที่ติดผิวหนังฝังลาวา รวมทั้งกระติกน้ำที่ผิววัสดุกระติกมีลาวา หลายคนเลือกซื้อตามใจชอบ ส่วนผม ในตอนกลางคืนที่มีงาน ได้รับเชิญขึ้นไปร้องเพลง (แต่ละชาติส่งตัวแทนขึ้นไปปร้อง มีการประกวด ผมได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง ได้รับ Quantum Pendant ๑ อันกับกระติกน้ำพลังสกาล่าอีก ๑ ใบ)

ผมกลับไปถึงบ้านไม่รอช้า เอาเจ้า Quantum Pendant ซึ่งเดิมผมแขวนไว้ที่คอ เอาไปแปะไว้ที่หัวเข่าข้างขวา ซึ่งเป็นข้างที่ปวดมาก ปิดทับตรงจุดที่ปวด โดยใช้พลาสเตอร์หมอสำหรับติดผ้าก๊อต ติดทิ้งไว้ ๑ คืน รุ่งขึ้นความเจ็บปวดหายไป และยังรู้สึกว่าร่างกายมีพลังวังชาเพิ่มขึ้น ลุกขึ้นมาทำงานทำการได้อย่างกระฉับกระเฉง ไม่ง่วงเหงาหาวนอนซึ่งมักจะเป็นอาการติดพันตอนที่เพิ่งลุกจากที่นอนของผม การเดินเหินคล่องแคล่ว เหมือนกับไปกินยาขยัน (แอมเฟตามิน) ผมรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง เจ้าตัวQuantum Pendant นี่เอง ผมรีบติดต่อคุณดอนฯ สั่งซื้อมาจำนวน ๓๖ เหรียญทันที ผมนึกถึงบรรดาญาติพี่น้องของผม ที่มีอาการเจ็บป่วยเช่นเดียวกับที่ผมเป็น พวกเขาจะได้ไม่ทุกข์ทรมานอีกต่อไป ผมเดินสายแจกจ่ายให้พวกเขาไปทดลองใช้ หากพบว่าสุขภาพร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ให้ช่วยบอกผม ไม่ลืมที่จะดูคนครับ เป็นญาติพี่น้องให้ไปเลย คนยากจนซึ่งเป็นผู้ที่ผมรู้จักก็จะให้ไป บางคนไม่แน่ใจว่ามันจะดีจริงหรือเปล่า ขอไปทดลองก่อน ทดลองแล้วได้ผลขอไปเลย ที่ไม่ได้ผล คืนมาก็หลายรายใน ผมอยากทดลองและก็ช่วยคนไปด้วย ผมได้แจกจ่ายเหรียญ Quantum ให้กับบุคคลต่างๆรวมทั้งตัวผมเอง จนเหรียญหมดเกลี้ยง ต้องไปรับเพิ่มมาจากคุณดอนฯอีก เพราะผู้ที่นำไปทดลองแล้วรู้สึกดีขึ้นไปบอกต่อ โทรมาขอไปทดลอง ผมก็ต้องวิ่งเอา Quantum Pendant ไปให้ใช้ วันหนึ่งๆเวลาหมดไปกับเรื่องเหล่านี้ ผมไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย แต่กลับมีความสุขและสบายใจที่ได้ช่วยคน ผมพยายามสอบถามอาการจากผู้ที่เอาเหรียญไปทดลอง บางคนก็บอกว่าดี บางคนบอกว่าเฉยๆ บางคนบอกว่าขอลองต่อ บางคนบอกว่าหายบ้างถูกขะโมยบ้าง
แต่ละคนรู้สึกไม่เหมือนกัน มันต้องลองดู.