บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง
"ประสบการณ์คับด้ามปืน ของยอดนักสืบผู้การเอลวิส"
ตายอย่างหมาข้างถนน ตอนที่ 5 (ชอบสมสู่กับเมียคนอื่น)
หน้าหลัก ›› บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง ›› ตายอย่างหมาข้างถนน ตอนที่ 5 (ชอบสมสู่กับเมียคนอื่น)




ช่วงที่ผมรับราชการตำรวจอยู่ ๓๐ กว่าปี รู้เห็นการฆ่าฟันกันตายมาเป็นร้อยๆคดี สาเหตุส่วนใหญ่มักจะมาจากเรื่องชู้สาว คือชอบไป “สมสู่”กับภรรยาของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นภรรยาหลักหรือภรรยารอง ยุ่งแล้วอันตราย นักเสพบางคนบอกว่า ไม่รู้ว่าเขามีสามีแล้ว บางคนบอกว่าไม่ได้ถาม หรืออ้างส่งเดชว่า ไม่เห็นเจ้าตัวเขาบอก ผมก็เลยบอกว่า ถ้าเขาไปเล่นเมียตัวเองบ้างจะรู้สึกยังไง ผู้ชายส่วนใหญ่จะบอกว่า เป็นเรื่องของศักดิ์ศรียอมไม่ได้ อกเขาอกเราก็เช่นเดียวกัน ใครที่พลั้งเผลอไปรีบแก้ไข ไม่งั้นตายจริงๆนะจะบอกให้ แล้วจะตายอย่างหมาข้างถนนด้วย

ผมรับราชการอยู่ที่กองกำกับการ ๕ กองปราบปราม รับผิดชอบคดีที่เกิดขึ้นในจังหวัดภาคกลางส่วนใต้ รวมทั้งภาคใต้ทั้งหมด ตั้งแต่จังหวัดติดต่อกับกรุงเทพฯ ไปจนถึงใต้สุดแดนสยาม คือตั้งแต่จังหวัดสมุทรสาครไปจนถึงจังหวัดสงขลา ยะลา นราธิวาส เรื่องที่จะมาสู่กองปราบมักจะเป็นเรื่องร้องเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรม ปกติคดีความที่เกิดขึ้นจะเป็นหน้าที่ของตำรวจท้องที่เป็นผู้ดำเนินการ แต่ถ้าคู่ความเห็นว่าตำรวจท้องที่ไม่ให้ความเป็นธรรม เช่น ไม่สนใจสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ไม่ติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ จะด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม หรือเห็นว่า มีความเอนเอียงไปเข้าข้างคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง คู่กรณีที่เห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ชอบที่จะร้องเรียน คำร้องเรียนจะส่งไปไหนๆ นายกรัฐมนตรีบ้าง รัฐมนตรีมหาดไทยบ้าง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบ้าง คำร้องก็จะถูกส่งไปยังกองปราบปราม ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่จะตรวจสอบการทำงานของตำรวจท้องที่ (ปัจจุบันมีกองสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ขึ้นมาทำหน้าที่นี้อีกหน่วยหนึ่ง) เมื่อกองปราบปรามได้รับเรื่องแล้วก็จะออกไปสืบสวน ถ้าการสืบสวนได้ความว่าตำรวจท้องที่สอบสวนไม่ให้ความเป็นธรรม ก็จะขออนุมัติทำการสอบสวนคดีนั้นๆเสียเอง แต่ถ้าเห็นว่าตำรวจท้องที่ให้ความเป็นธรรมแล้ว ก็จะระงับการดำเนินการ แจ้งให้ผู้ร้องเรียนทราบ

ผมได้รับหนังสือร้องเรียนจากสุภาพสตรีท่านหนึ่ง เป็นภรรยาของตำรวจชั้นประทวน ยศ จ.ส.ต.ซึ่งรับราชการตำรวจอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ผู้ร้องรายนี้ก็รับราชการเช่นกันแต่เป็นข้าราชการพลเรือน รับราชการอยู่ในจังหวัดเดียวกับสามี ผู้ร้องได้ร้องเรียนว่า ถูกเจ้านายในหน่วยงานเดียวกับเธอข่มขืนกระทำชำเรา เธอได้ไปร้องทุกข์แจ้งความกับตำรวจท้องที่แล้ว แต่ยังไม่เห็นเจ้านายเธอถูกเรียกไปดำเนินคดี ซ้ำยังพยายามที่จะ “สมสู่”กับเธออีก เธอเดือดร้อนมากเพราะสามีเธอรู้ เพื่อนที่ทำงานเดียวกันก็พากันซุบซิบนินทา เธออับอายคิดจะฆ่าตัวตาย ผมอ่านหนังสือคำร้องแล้วสงสาร นึกภาพออก ผู้ร้องคงจะรูปร่างหน้าตาดี ได้ความว่าหน่วยงานนี้จะต้องออกไปปฏิบัติงานค้างแรม เวลาออกหน่วยจะไปเป็นหมู่คณะ เจ้านายมักจะเลือกเธอให้ไปด้วยเสมอ ยามไกลผัวห่างเมียเจ้านายผู้นี้ก็ใช้เล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิง หาโอกาส “สมสู่”กับผู้ร้อง อะไรจะรู้ดีไปกว่าคน ไม่นานเข้าเรื่องก็ “หึ่ง”ไปเข้าหูผัวที่เป็นตำรวจ ถึงขั้นจะต้องหย่ากัน เรื่องอย่างนี้ถ้าไม่จับได้คาหนังคาเขา ใครหรือจะรับ ผัวตำรวจไม่ทิ้งลายนักสืบ แกล้งทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่แอบสะกดรอยตามพฤติการณ์ของเมียตนทุกฝีก้าว มีครั้งหนึ่งเกือบจับได้คาหนังคาเขา แต่จังหวะไม่พอดี ไม่งั้น “ตายเป็นหมาข้างถนน” ทั้งคู่ คือสามีแอบซุ่มดูที่ๆทำงานของภรรยา หมดเวลางานแล้ว พนักงานทยอยกลับบ้าน จ่าสังเกตเห็นว่า พนักงานคนอื่นๆกลับบ้านกันหมดแล้ว รถยนต์ของเจ้านายยังจอดอยู่ มันต้องมีอะไรกันในที่ทำงานแน่ จ่าใจร้อนพรวดเข้าไปในที่ทำงานของเมีย เจอเมียของตนอยู่กับเจ้านาย สองต่อสอง แต่เป็นการพูดคุยกันตามปกติ สงครามน้ำลายก็เกิดขึ้น จ่าพาเมียนั่งมอเตอร์ไซด์กลับบ้าน พอถึงบ้านก็มีการเจรจาขั้นแตกหัก จ่าบอกว่าทนไม่ไหวแล้ว คนเขารู้กันทั่ว มันเสียศักดิ์ศรี ให้เมียตัดสินใจจะ “หย่า”หรือจะ “อยู่” เมียคิดหนักเพราะห่วงลูก และอีกประการหนึ่งเจ้านายก็มีภรรยาแล้ว เมียจึงตัดสินในเอาทางผัวจ่า ว่าแล้วเรื่องก็ไปถึงโรงพัก เมียแจ้งความดำเนินคดีเจ้านายในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา คดีเกิดขึ้นหลายเวลาหลายสถานที่ ต่างกรรมต่างวาระ
เรื่องนี้รู้กันไปทั่วทั้งที่ทำงานผัวและที่ทำงานเมีย มันเป็นสงครามย่อยๆที่ต่อสู้กัน ฝ่ายหนึ่งเพื่อรักษาศักดิ์ศรี อีกฝ่ายหนึ่งสู้เพื่อความอยู่รอด เพราะถ้าได้ความว่าข้าราชการเป็นชู้กับภรรยาคนอื่น ถูกออกจากราชการสถานเดียว
ผมให้ลูกน้องสืบสวนหาข่าวข้อมูลลึกๆ มันเป็นอย่างไรกันแน่ ทำไมข้าราชการผู้นี้ถึงกล้าหาญชาญชัย ยุ่งกับเมียคนอื่นครั้งแล้วครั้งเล่า การสืบสวนได้ความว่า เมียจ่าเคยเป็นแฟนเก่าของข้าราชการผู้นี้ ก็คงจะเคย “ได้เสีย”กันมาก่อน ต่อมาฝ่ายหญิงไปแต่งงานกับจ่า เหตุการณ์ประจวบเหมาะ ข้าราชการแฟนเก่าดันย้ายมาอยู่หน่วยงานเดียวกับเมียจ่า ถ่านไฟเก่าก็เลยคุ ข้าราชการผู้นี้กินไม่เป็น ได้ครั้งแล้วจะเอาต่อเรื่อยๆ เรื่องมันก็เลยยุ่ง

ผมได้ประสานกับตำรวจท้องที่ว่า เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรม และต้องรีบทำก่อนที่จะมีการใช้ศาลเตี้ย ตำรวจท้องที่รับดำเนินการ ทางกองปราบระงับเรื่องไว้ก่อน คอยดูผลจากตำรวจท้องที่ ไม่นานตำรวจท้องที่ก็เรียกตัวเจ้านายของเมียจ่าไปสอบสวน บอกแล้วว่าเรื่องอย่างนี้ไม่คาหนังคาเขา ไม่มีใครรับสารภาพ เจ้านายปฏิเสธ (ผมว่าจ่ากับเมียจ่าใจร้อนไปหน่อย ลืมวางแผน มันน่าจะเตรียมกระดาษทิชชูติดตัวไปด้วย พอ “ร่วม”กับเจ้านายเสร็จ ก็เอากระดาษทิชชูป้ายเมือกในช่องคลอด ใส่ถุงพ๊าสติก เก็บใส่ตู้เย็นไว้เลย เหมือนอย่างที่สาวผู้หนึ่งทำกับอดีตนักการเมือง)

ทางผู้บังคับบัญชาของเจ้านายก็สอบสวนทางวินัย ระหว่างสอบสวนก็ได้ย้ายทั้งคู่ ไม่ให้ทำงานที่เดียวกัน ส่วนทางตำรวจท้องที่ก็เก่งพอสมควร สามารถรวบรวมพยานหลักฐานสั่งฟ้องเจ้านาย ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภรรยาตน คดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาล

การสืบพยานในชั้นศาลทำโดยเปิดเผย ต่อหน้าผู้เสียหาย(เมียจ่า)และจำเลย(เจ้านายของเมียจ่า) มีการนำพยานเข้าสืบ เรื่องเกี่ยวกับใต้สะดือของคนอื่นใครๆก็อยากรู้ สนใจฟัง แต่มันเหมือนการตอกย้ำความเจ็บปวดและคับแค้นใจให้กับจ่าและเมียของจ่า เป็นที่รู้กันว่า คดีข่มขืนจะไปหาประจักษ์พยานที่ไหน ก็คดีมันเกิดขึ้นในที่ลับ สองต่อสอง ไม่มีใครไปถ่ายภาพหรือวีดิโอไว้ ต้องอาศัยร่องรอยการฉีกขาดของอวัยวะ หรือมีการตรวจพิสูจน์ยืนยัน ดี.เอ็น.เอ.ในอสุจิที่พบในช่องคลอด แต่คดีนี้ไม่ได้วางแผนมาก่อน จึงขาดพยานหลักฐาน มีการสืบพยานกันในศาลหลายครั้ง จ่าผู้สามีไปฟังคดีทุกนัด จะเป็นการนัดสืบพยานครั้งไหนไม่ทราบ หลังสืบพยานเสร็จ เจ้านายผู้ตกเป็นจำเลยออกจากศาลหลังให้การเสร็จ เดินยิ้มย่องราวกับมองเห็นชัยชนะว่า “กูหลุดแน่” ส่วนจ่าผู้เป็นสามีของหญิงที่ถูกข่มขืน ยืนกัดกรามมือกำด้ามปืนแน่น ซ่อนตัวอยู่บริเวณทางออกจากศาล จ่าคงจะคิดในใจว่า “กูนี่แหละจะเป็นคนตัดสินคดีมึง” พอเจ้านายขับรถออกมาพ้นรั้วศาล เสียงปืนก็แผดลั่นดังรัวนับครั้งไม่ถ้วน เรียกว่ายิงจนหมดโม่ ลักษณะการยิงอย่างนี้เรียกว่า “ไม่เหลือ” ยมทูตเอาตัวไปแล้ว ขึ้นสวรรค์หรือลงนรกไม่รู้ ส่วนจ่าก็บึ่งมอเตอร์ไซด์คู่ชีพหายไป

เจ้านายจอมเจ้าชู้ชอบเล่นเมียคนอื่นก็จบชีวิตลงชนิด “ตายอย่างหมาข้างถนน” คดีนี้ทราบตัวผู้กระทำผิด จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากจ่า แต่พยานในสำนวนไม่มี เพราะทุกคนต่างพูดในใจว่า “ดีแล้ว มึงชอบเอาเมียคนอื่น ตายได้ก็ดี” ยังไงๆสำนวนการสอบสวนก็ออกหมายจับจ่า เพราะเชื่อมโยงสาเหตุได้ ส่วนจ่าก็หนีไป ใครเล่าจะไปติดตามจับจ่ามาดำเนินคดี บอกแล้วเรื่องอย่างนี้ไม่มีใครช่วยสืบให้ เอาเถอะถึงถูกจับตัวได้ ปฏิเสธเสียอย่างสู้คดีก็อาจจะหลุด เพราะไม่มีพยาน

คงเป็นอุทธาหรณ์สอนใจบรรดาเจ้าชู้ไก่แจ้ทั้งหลาย เราเตือนคุณแล้ว.
"คุณอังกูรเล่นหนังด้วยหรอ?"
"โห...ประกบคู่กับพี่เอกสรพงษ์ด้วย"
"คลาสสิคสุดๆ...อยากดูเต็มๆจัง"
และอีกมากมายสำหรับเสียงตอบรับ เนื่องจากล่าสุดทีมงานทำ VDO "เปิดปูมฮีโร่" มาให้ได้ชมกัน วันนี้ทีมงานจีงขอสมนาคุณแฟนๆ ตามเสียงเรียกร้องครับ เราใช้เวลาตามหาภาพยนตร์สุดคลาสสิคเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงมือแฟนๆ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ...

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์)

ตอน 1ตอน 2ตอน 3
ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 1 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 2 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 3
ติดตามกันมานาน
จนเป็นแฟนประจำกันก็มาก...
แต่หลายๆท่านคงยังอยากรู้จักคุณอังกูร (007) ในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกลงไป
ถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาเป็นฮีโร่ของเรา
ในวันนี้ เราจึงไม่รอช้าจัดเป็น VDO
ให้ชมกันอย่างจุใจ

(คลิ๊กที่ รูปเพื่อดูวีดีโอ)

พลังสกาล่าร์ ร้องทุกข์ที่นี้
จำนวนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์