บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง
"ประสบการณ์คับด้ามปืน ของยอดนักสืบผู้การเอลวิส"
ตายอย่างหมาข้างถนน ตอนที่ 3 (ประเด็นการตายและข้อเสียของระบบการสืบสวน)
หน้าหลัก ›› บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง ›› ตายอย่างหมาข้างถนน ตอนที่ 3 (ประเด็นการตายและข้อเสียของระบบการสืบสวน)
ตายอย่างหมาตอนที่ ๓ ผมเพิ่มคำว่า “ข้างถนน”เข้าไปด้วย เพื่อให้เมื่อมีการเปรียบเทียบแล้วมองเห็นภาพชัดเจน ถ้าเป็นหมามีเจ้าของตาย เจ้าของจะทำพิธีศพหมายิ่งใหญ่ไม่แพ้พิธีศพคน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรักระหว่างหมากับเจ้าของว่ามากน้อยแค่ไหน หากเป็นหมาข้างถนน ท่านคงจะเคยเห็นซากหมาที่ถูกรถทับตายบนถนน รถยนต์วิ่งมากี่คัน ทับแล้วทับอีก คันแล้วคันเล่า จนศพหมาแบนติดถนน วันเวลาผ่านไปถ้าศพไม่กระเด็นออกนอกทางวิ่งของรถ จะเหลือแต่แผ่นหนังแห้งๆแบนๆบางๆ ไม่มีรูปทรงหมา คงมีแต่กลิ่นเหม็นสางๆ แต่ถ้าหากว่าถูกชนกระเด็นออกไปอยู่ข้างทาง จะเห็นภาพศพนอนตัวพอง ขากาง หนอนขึ้น ส่งกลิ่นเหม็น รถขับขี่ผ่านไปมาไม่มีใครสนใจที่จะจัดการศพ เอาไปเก็บไปฝัง จะมีก็เพียงเจ้าหน้าที่เทศบาลเท่านั้น และยังมีคนอีกจำพวกหนึ่งที่ค่อยช่วยสงเคราะห์เก็บซากศพหมาตายเหล่านี้ ผมเคยผ่านไปพบคนเก็บศพหมา เกิดศรัทธาถามว่าพวกเขาเป็นใครกัน จึงได้ทราบว่า เขาเก็บเอาไปเป็นอาหารเลี้ยงปลา แล้วเก็บปลาไปขายให้คนกินอีกที บางทีหมาตายข้างถนนก็ยังมีประโยชน์มากกว่าคน เรื่องที่ผมนำเสนอผู้อ่านเปรียบได้กับ “ตายอย่างหมาข้างถนน”

ความในตอนที่แล้วจบตรงที่ผมได้ภาพสะเก็ตคนร้ายซึ่งมีความเหมือน ๘๐ เปอร์เซ็น แต่จะเอาภาพสะเก็ตไปเปรียบกับใครล่ะ ความจริงเรื่องภาพสะเก็ตช่วยในการสืบสวนได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะชี้ชัดว่าเป็นใครแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นไม่ได้ ใช้เป็นแนวทางการสืบสวน ต้องหาพยานหลักฐานอื่นประกอบอีก ส่วนมากจะใช้ยืนยันในทางปฏิเสธ คือถ้าบอกว่า “คนนี้ไม่ใช่”ก็พอจะเชื่อได้ว่าไม่ใช่ร้อยเปอร์เซ็น เช่นกรณีที่ดูแล้วแตกต่างกับภาพสะเก็ตอย่างสิ้นเชิง แต่หากเปรียบเทียบแล้วดูคล้ายคลึง ก็ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าใช่หรือไม่ใช่

ประเด็นการตาย

เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นมากสำหรับการสืบสวนทุกเรื่อง กรณีของศุภมินทร์ฯมีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น คือประเด็นเรื่อง “ชู้สาว” ศุภมินทร์ฯเป็นนายตำรวจหนุ่ม รูปหล่อ หุ่นดี ผู้หญิงหลายคนได้พากันเข้ามามีสัมพันธ์กับศุภมินทร์ฯ เท่าที่ตรวจสอบพบมีอยู่ ๖ ราย

๑ อ. เป็นอดีตภรรยาของนายตำรวจ หย่าขาดจากสามีเดิมแล้ว

๒ ว. เป็นนักศึกษาปริญญาโทซึ่งกำลังศึกษาอยู่ด้วยกัน

๓ ป. เป็นเพื่อนนักศึกษาปริญญาโทเช่นเดียวกับ ว.

๔ ป. เป็นลูกสาวนายตำรวจใหญ่ ทำงานอยู่บริษัทประกันชีวิต

๕ ม. เป็นนางแบบสาว เป็นเพื่อนคู่ใจคู่กายของนายตำรวจใหญ่ผู้หนึ่ง

๖ ต. เป็นภรรยาของนายตำรวจท่านหนึ่ง

สาเหตุของการฆ่าทั่วๆไป ส่วนใหญ่มาจากประเด็นเรื่องชู้สาว ผมมักจะตักเตือนคนหนุ่มที่ผมรู้จักมักคุ้น ให้มีความระมัดระวังเรื่องผู้หญิง อย่าผิดศีลข้อ ๓ คือประพฤติผิดลูกเมียผู้อื่น โดยเฉพาะเมียผู้อื่นข้อนี้ห้ามเด็ดขาด เพราะถ้าได้ความว่าถูกฆ่าตายเพราะไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้านเขา ผู้สืบสวนเขาจะคิดในใจว่า “สมน้ำหน้า” และไม่มีนักสืบคนไหนจะติดตามสืบสวนให้จริงๆจังๆ ผู้ชายทุกคนเกลียดเรื่องนี้มากจริงๆ

สำหรับการตายของศุภมินทร์ฯ ในบรรดาผู้หญิงที่ศุภมินทร์ฯเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยน่าจะเป็นสาเหตุให้ถูกฆ่าถึง ๒ ราย ก็เพราะชอบไปยุ่งกับเมียและ “กิ๊ก”ของนายตำรวจ เรื่องของสาเหตุก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องทำการสืบสวนอย่างลับๆ แต่ที่จะเปิดคดีได้ก็ต้องสืบให้รู้ว่าผู้ลงมือกระทำผิดหรือ “มือปืน”คือใคร การสืบสวนจึงเริ่มต้นที่สาเหตุแล้วโยงไปยังกลุ่มมือปืน

ข้อเสียของระบบการสืบสวน

ผมได้จั่วหัวเรื่องนี้ไว้ ก็เพราะช่วงที่ผมรับราชการอยู่ มีคดีเกิดขึ้นหลายท้องที่ โดยคนร้ายชุดเดียวกัน แผนประทุษกรรมเหมือนกัน แต่บรรดานักสืบแต่ละท้องที่ต่างคนต่างสืบ ไม่ได้ประสานกัน เหตุเพราะไม่รู้ ได้อาศัยหนังสือพิมพ์ลงข่าว พออ่านพบเข้าก็โทรศัพท์พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน แล้วเรื่องที่ไม่ได้เป็นข่าวก็คงจะมีอีก ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันเรื่อง ทำให้หูตานักสืบไม่กว้างไกล และอีกประการหนึ่งประชาชนที่เขามีข้อมูลคนร้าย เขาก็ไม่รู้จะไปติดต่อให้ข้อมูลกับใครที่ไหน ส่วนเรื่องความปลอดภัยของผู้ให้ข่าวก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง

ผมยังนึกชมผู้เสียหายรายหนึ่งที่เขาทนไม่ไหว ถูกโจรยกเค้า เขาเลยเปิด website “ www.jubjon.com” ใครมีข้อมูลเบาะแสก็โพสเข้าไป แต่มันก็อยู่ในวงจำกัด รู้กันในเฉพาะผู้ที่เล่น internet ชาวบ้านธรรมดาคงเข้าไม่ถึง อยากบอกไปถึงผู้เสียหายรายนี้จังเลย คนร้ายที่ไปยกเค้าบ้านท่านเขาต้องได้ข้อมูลจากแหล่งจำหน่ายของให้คุณแน่นอน อาจเป็นคนที่นำของไปส่งที่บ้านคุณก็ได้ อย่างนี้เขาเรียกว่า “โจรใบสั่ง” ลองย้อนไปอ่านเรื่องที่ผมเคยเขียนไปแล้ว

ย้อนมาพูดถึงศูนย์กลางข้อมูลคนร้าย ทำไมสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ทำตัวเป็นศูนย์กลาง เอาแค่ในกลุ่มตำรวจด้วยกันเองก่อนก็ได้ แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น แผนประทุษกรรมและรูปพรรณคนร้าย เหตุเกิดที่ไหนต้องให้ตำรวจฝ่ายสืบสวน ทุกโรงพักในประเทศ รู้ทั่วกันหมด มันก็ต้องใช้ระบบ internet เท่านั้น ทุกวันนี้พยายามจะหาดูก็ไม่พบ จะมีก็แต่หมายจับบุคคลที่ต้องการตัว ไอ้นั่นมันปลายแถวแล้ว รู้ตัวคนร้ายแล้วยังไม่มีปัญญาตามจับ และที่ไม่รู้ตัวคนร้ายมีอีกเท่าไหร่ ในส่วนของประชาชนก็ควรจะมีการเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับอาชญากรรม ทางโทรทัศน์ หรือวารสาร ถ้าเป็นโทรทัศน์ ขอให้ปักหลักอยู่ช่องใดช่องหนึ่ง จัดให้มีเวลาออกอากาศที่แน่นอน อย่าสะเปะสะปะ ช่องโน้นบ้างช่องนี้บ้าง คนเขาตามไม่ถูก และควร ใช้ผู้ดำเนินรายการมืออาชีพ เผยแพร่ให้ประชาชนรู้และขอความร่วมมือ ใช้เงินงบประมาณหลวง อย่าหาสปอนเซอร์เวลา ไม่มีใครให้สปอนเซอร์เพราะมันไม่ใช่ละครน้ำเน่า ถ้าเป็นวารสารก็ขอให้บริการฟรี

ที่ผมกล่าวมาเสียยืดยาวเพราะมันไปเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าศุภมินทร์ฯ ซึ่งต้องอาศัยการประสานข้อมูลกัน ผมบอกท่านแล้วว่า ผมได้พยานสำคัญหลังจากเกิดเหตุแล้วร่วมเดือน ผมได้ยี่ห้อรถจักรยานยนต์ของคนร้าย เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ หมายเลขทะเบียนจำได้ ๒ ตัว (เลขทะเบียนมีอยู่ ๔ ตัว) แต่ผมเปิดเผยไม่ได้ว่ามันได้มาอย่างไร ผมมีสัจจะรับปากใครไว้ต้องทำ ไม่เหมือนนายตำรวจบางคน หวังแต่ผลคดี ต้องการเพียงจะจับคนร้ายให้ได้ พยานถูกฆ่าตายก็ชั่งมัน แบบนี้ผมไม่เอา

ผมตรวจสอบไปยัง สน.โชคชัยซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบสืบสวนสอบสวนคดีเรื่องนี้ ได้ความว่าหลังจากเกิดแหตุแล้วประมาณ ๓-๔ วัน มีพลเมืองดีแจ้งว่า พบรถจักรยานยนต์ซูซูกิสีแดง ทะเบียน๒ บ ๕๒๔๔ กทม. จอดทิ้งในซอยห่างจากที่เกิดเหตุประมาณครึ่งกิโลเมตร ตำรวจเอาจักรยานยนต์ดังกล่าวไปเก็บไว้ที่ สน. ชั้นต้นพนักงานสอบสวน สน.โชคชัยสงสัยว่า รถจักรยานยนต์ดังกล่าวเป็นพาหนะคนร้ายฆ่าศุภมินทร์ฯ แต่ขาดพยานหลักฐานเชื่อมโยง จึงไม่สามารถนำรถจักรยานยนต์ เข้าสู่สำนวนการสอบสวนได้

ผมสอบถามไปยัง สน.โชคชัยถึงผลการตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์ดังกล่าว ได้รับการยืนยันว่า เป็นหมายเลขทะเบียนปลอม หมายเลขทะเบียนดังกล่าว เป็นทะเบียนของรถยนต์ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่เกี่ยวข้องกันเลย ผมซักถามต่อถึงการตรวจสอบหมายเลขเครื่องและเลขตัวรถ ว่าตรวจสอบแล้วหรือไม่ว่าเป็นของผู้ใด ได้รับการยืนยันว่าได้ตรวจสอบกับกองทะเบียนแล้ว หมายเลขเครื่องและเลขตัวรถจักรยานยนต์ดังกล่าว ยังไม่มีการนำไปจดทะเบียน การสืบสวนของ สน.โชคชัยสะดุดอยู่เพียงแค่นี้ เหตุที่ไม่ได้สืบสวนต่ออาจเป็นเพราะไม่แน่ใจว่ารถจักยานยนต์ซูซูกิ ๒ บ ๕๒๔๔ กทม จะเกี่ยวข้องกับการสังหารศุภมินทร์ฯหรือไม่ สำหรับผมมีพยานยืนยันว่าใช่ แต่บอกแล้วไงว่า ผมรับปากกับผู้ปกครองของพยานว่าจะรักษาความลับ ไม่เปิดเผยว่าพยานเป็นใคร ผมบอกให้ตำรวจ สน.โชคชัยเก็บรักษารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไว้ให้ดี มันเป็นยานพาหนะของคนร้าย ส่วนพยานหลักฐานเชื่อมโยง เป็นหน้าที่ๆผมจะต้องทำต่อไป

ผมสั่งให้ตำรวจลูกน้องนำเลขเครื่องและเลขตัวรถจักรยานยนต์ ไปตรวจสอบกับบริษัทตัวแทนที่สั่งรถจักรยานยนต์ซูซูกิ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย

โป๊ะเช๊ะเลย ตรวจปุบก็เจอปับ เพราะรถจักรยานยนต์รายนี้ผู้ซื้อๆด้วยเงินสด ทางบริษัทผู้จำหน่ายจึงได้จดชื่อและที่อยู่ของผู้ซื้อไว้ ปรากฏว่าผู้ซื้อคือนายไพรวัลย์ฯ บ้านอยู่ที่จังหวัดศรีษะเกษ ผมให้ลูกน้องรีบไปเอาตัวนายไพรวัลย์ฯมาสอบสวนโดยด่วน

ผมดีใจที่คดีเริ่มได้ร่องรอยที่จะสืบสาวต่อไปจนถึงตัวคนร้าย ศุภมินทร์ฯจะได้ไม่ตายอย่างหมาข้างถนน แต่ปรากฏว่าอีก ๒ วันต่อมา ลูกน้องผมที่ไปสืบค้นถึงบ้านนายไพรวัลย์ฯบอกว่า ได้ไปพบกับพ่อแม่ของนายไพรวัลย์ฯที่ศรีษะเกษแล้ว พ่อแม่นายไพรวัลย์ฯเล่าให้ฟังว่า นายไพรวัลย์ฯถูกตำรวจนครบาลจับกุมตัวไปดำเนินคดีที่นครบาล ในข้อหาลักทรัพย์-รับของโจร และตำรวจชุดดังกล่าวได้ยึดเอารถจักรยานยนต์ซูซูกิสีแดงของนายไพรวัลย์ฯไปด้วย พ่อและแม่นายไพรวัลย์ฯยืนยันว่า รถจักรยานยนต์ดังกล่าวยังใหม่เอี่ยม ติดป้ายทะเบียนสีแดง (ป้ายชั่วคราว ยังไม่ได้ไปจดทะเบียนรถใหม่)

ผมสั่งให้ลูกน้องไปค้นหลักฐานที่ตำรวจท้องที่ เป็นระเบียบปฏิบัติ เมื่อตำรวจต่างท้องที่ไปตรวจค้นจับกุมคนร้ายในท้องที่ใด จะต้องแจ้งให้ตำรวจท้องที่ทราบและจะต้องมีตำรวจท้องที่ร่วมปฏิบัติด้วย ลูกน้องผมรีบไปที่สถานีตำรวจท้องที่คือ สภ.อ.ขุขันธ์ พบหลักฐานบันทึกประจำวันว่ามีตำรวจนครบาลไปทำการตรวจค้นบ้านนายไพรวัลย์ฯ จับกุมตัวนายไพรวัลย์ฯไปดำเนินคดีที่กรุงเทพฯ แต่ไม่ได้ระบุเรื่องที่ยึดรถจักรยานยนต์ซูซูกิของนายไพรวัลย์ฯไปด้วย เพียงแค่นี้ผมก็พอมองเห็นทางแล้วว่าตำรวจชุดนี้คิดอย่างไรกับเจ้ารถจักรยานยนต์คันนี้

ผมให้ตำรวจอีกชุดหนึ่ง ไปตรวจสอบหลักฐานการดำเนินคดีนายไพรวัลย์ฯ ที่สถานีตำรวจนครบาล อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ย่านถนนสุขุมวิท ได้หลักฐานว่า มีการจับกุมตัวนายไพรวัลย์ฯไปดำเนินคดีฐานลักทรัพย์-รับของโจรจริงๆ มีนายตำรวจลงชื่อเป็นผู้จับกุมเยอะเลย แต่ที่ สภ.อ.ขุขันธ์ระบุชื่อตำรวจที่ไปปฏิบัติการเพียง ๓ คนเท่านั้น เอาละเรื่องได้หน้าได้ตาที่ไหนๆเขาก็ทำกัน ทั้งนี้ผู้เสียหายรายนี้เป็นเศรษฐีคหบดีร่ำรวยมาก ถูกยกเค้างาช้างคู่งามกับทรัพย์สินอย่างอื่น ตำรวจนครบาลสืบสวนเก่ง จับกุมคนร้ายในกรุงเทพได้ ๑ คนซัดทอดไปถึงนายไพรวัลย์ฯ จึงได้ตามไปเอาตัวมา แต่รถจักรยานยนต์ของนายไพรวัลย์ฯไม่ได้ลงบัญชีของกลางคดีอาญา เพราะทรัพย์สินของคหบดีที่ถูกยกเค้ามันเป็นงาช้าง โดนแปรสภาพไปหลายทอด เอางาช้างไปขาย เอาเงินสดที่ได้จากการขายงาช้างไปแบ่งกัน แล้วจึงเอาเงินสดจำนวนนี้ไปซื้อรถจักรยานยนต์

ตำรวจเปรียบเสมือนกรรมการกลาง เมื่อได้ความว่าทรัพย์ที่หายถูกแปรสภาพเช่นนี้ สามารถที่จะยึดเอาไปขายแล้วเอาเงินคืนผู้เสียหายไป ทำได้ครับ ผมเคยทำมาแล้ว แต่ผู้เสียหายรายนี้เขาไม่สนใจหรอก เป็นนายธนาคารมีเงินเป็นพันๆล้าน ส่วนผู้ต้องหาถูกจับก็รับสารภาพ ยอมคืนรถเพราะเอาเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปซื้อ สรุปรถในลักษณะนี้เราเรียกว่า “รถเชลย” เอาไปใช้ยังไงก็ได้

เรื่องมันไม่ธรรมดาเสียแล้ว ผมมีรายชื่อตำรวจที่เกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์ซูซูกิที่ยึดมาจากนายไพรวัลย์ฯ แต่มันไปเกี่ยวข้องกับการฆ่าศุภมินทร์ฯได้อย่างไร

ท่านผู้อ่านครับ เรื่องการสืบสวนของตำรวจไทย ยิ่งว่าภาพยนตร์สืบสวน CSI ทาง UBC ที่คนดูติดกันงอมแงม เพียงแต่ว่าไม่มีใครกล้าเอามาเปิดเผย มันอันตรายครับ คดีแต่ละเรื่องที่สืบกัน ไม่รู้ว่าตายไปกันกี่คน บางเรื่องตายแล้วถึงเปิดคดีได้ แต่บางเรื่องเอากันถึงตายก็ยังไม่สามารถเปิดคดีได้ และคดีนี้ก็มีการตายครับ ท่านผู้อ่านก็คอยติดตามผมด้วย ถ้าผมถูก “อุ้ม”หรือเป็นอะไรไป เอกสารเรื่องนี้โดยละเอียดผมเก็บไว้ รอส่งมอบให้กับ “เปาบุ้นจิ้น” ยังไงๆก็อย่าปล่อยให้ “ตายอย่างหมาข้างถนน”ไปด้วยอีกคนก็แล้วกัน

ระวัง ! ตอนต่อไปอันตรายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย.
"คุณอังกูรเล่นหนังด้วยหรอ?"
"โห...ประกบคู่กับพี่เอกสรพงษ์ด้วย"
"คลาสสิคสุดๆ...อยากดูเต็มๆจัง"
และอีกมากมายสำหรับเสียงตอบรับ เนื่องจากล่าสุดทีมงานทำ VDO "เปิดปูมฮีโร่" มาให้ได้ชมกัน วันนี้ทีมงานจีงขอสมนาคุณแฟนๆ ตามเสียงเรียกร้องครับ เราใช้เวลาตามหาภาพยนตร์สุดคลาสสิคเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงมือแฟนๆ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ...

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์)

ตอน 1ตอน 2ตอน 3
ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 1 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 2 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 3
ติดตามกันมานาน
จนเป็นแฟนประจำกันก็มาก...
แต่หลายๆท่านคงยังอยากรู้จักคุณอังกูร (007) ในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกลงไป
ถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาเป็นฮีโร่ของเรา
ในวันนี้ เราจึงไม่รอช้าจัดเป็น VDO
ให้ชมกันอย่างจุใจ

(คลิ๊กที่ รูปเพื่อดูวีดีโอ)

พลังสกาล่าร์ ร้องทุกข์ที่นี้
จำนวนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์