ภัยของผู้หญิง 3 ใครที่ชอบนอนเปิดหน้าต่างต้องอ่าน
เรื่องจริงที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผู้เขียนดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ปลายปี 2543 เหตุเกิดในท้องที่ สน.อุดมสุข ท่านจะได้ทราบถึงภัยที่เกิดขึ้นกับผู้พักบนอาคารสูงที่อาจจะนึกไม่ถึง และ ทราบถึงแนวทาง วิธีการ สืบสวนสอบสวน จนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดในคดีนี้ได้
สาวโสดวัย 28 สวย หุ่นดี จบปริญญาตรี ทำงานเป็นพนักงานของธนาคารแห่งหนึ่งสาขาเซ็นทรัลบางนา ภูมิลำเนาอยู่อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เธอเลือกพักที่เรสซิเด๊นท์คอนโด อาคารสูง 12 ชั้น อยู่ติดกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 ท้องที่ สน.อุดมสุข พักอยู่ชั้นที่ 7 เหตุที่เธอเลือกพักที่นี่เพราะสะดวกในการที่จะเดินทางไปทำงาน และเพื่อให้น้องชายของเธอซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 ได้ร่วมพักอาศัยด้วย
ขออธิบายในส่วนของที่พักอาศัยของเธอคือเรสซิเด๊นท์คอนโดสักเล็กน้อย เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการคลี่คลายคดีนี้เป็นอย่างมาก กล่าวคืออาคารที่พักในย่านนี้เป็นอาคารสูงอยู่ติดๆกันหลายแท่ง เฉพาะแท่งที่สาวธนาคารพักอยู่ก็มีประชากรพักอยู่ประมาณพันกว่าห้อง ถ้าพักห้องละ 2 คน ก็มีคนแท่งละ 2,000 กว่าคน เมื่อรวมคนพักในอาคารสูงข้างเคียงด้วยก็เป็นหมื่นคน เรียกได้ว่าเป็นชุมชนใหญ่ทีเดียว
อาคารสูงในบ้านเราลักษณะของการก่อสร้างมีความไม่ปลอดภัย เอื้ออำนวยต่อการก่ออาชญากรรม ถ้าหากท่านไปยืนดูทางด้านหลังของอพาร์ทเม้นท์ตึกสูงจะเห็นว่า มีห้องพักเป็นคู่ที่สามารถปีนเข้าหากันได้ กล่าวคือแต่ละห้องจะมีระเบียงอยู่ชิดกันมีกำแพงบางๆกั้น ส่วนนี้แหละที่ก่อให้เกิดอาชญากรรมขึ้นได้ ส่วนอีกด้านหนึ่งจะปีนเข้าหากันไม่ได้เพราะจะมีผนังห้องน้ำเป็นกำแพง ปีนเข้าห้องข้างเคียงไม่ได้ ผมเคยสอบถามสถาปนิคผู้ออกแบบก็ได้คำตอบว่าอาคารสูงเช่นนี้ต้องเอาห้องน้ำจับคู่เข้าหากันเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินท่อโสโครก ห้องพักสองห้องสิ่งโสโครกจะรวมลงในท่อเดียวกัน ครั้นพอมีอาชญากรรมเกิดขึ้นกับห้องเหล่านี้มาก บรรดาเจ้าของอพาร์ทเม้นท์สูงๆ พยายามแก้ไขโดยการติดเหล็กดัดบ้าง ย้ายห้องน้ำไปอยู่ด้านในบ้าง ผลเสียหายของการย้ายห้องน้ำไปสร้างไว้ด้านในก็มีปัญหาทำให้กลิ่นที่ไม่เหมาะสมตลบอบอวล ท่านผู้อ่านได้ทราบประเด็นปัญหานี้แล้วก็ระมัดระวังกันเอาเองก็แล้วกัน
สำหรับเรสซิเด๊นท์คอนโดที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูงซึ่งด้านหลังจะติดกับพื้นที่ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 แต่เป็นส่วนที่เป็นบึงน้ำมีหญ้าคา,ผักปอดขึ้นอยู่อย่างหนาทึบ และเป็นบึงใหญ่มาก สาวธนาคารผู้นี้ก็เลือกห้องพักของเธอทางด้านที่ติดกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 เพื่อเธอจะได้ดูวิวและสูดอากาศบริสุทธิ์
ในช่วงที่เธอเช่าห้องอยู่ 2 ปีแรกห้องพักของเธอคึกคักมีคนเข้าออกซึ่งเป็นเพื่อนๆของน้องชาย ครั้นพอปีที่ 3 น้องชายของเธอต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงหัวหมาก นานๆจึงจะกลับมาเยี่ยมเยือนพี่สาว จึงทำให้ห้องของเธอดูเงียบเหงา
เธอเป็นคนหน้าตาและหุ่นดีก็ย่อมมีคนมาติดพันเป็นธรรมดา ในจำนวนนี้ก็มีทนายความผู้หนึ่งซึ่งมีที่พักอยู่ห่างไกลกัน นานๆจึงจะมาเยี่ยมเธอสักครั้ง ส่วนบรรดาชายที่อยู่ในคอนโดเดียวกันต่างก็พากันจ้องมอง และสนใจเธอ จึงเป็นเหตุให้ประตูห้องของเธอถูกเคาะกลางดึกบ่อยครั้ง เธอเคยบ่นให้ทนายซึ่งเป็นเพื่อนชายฟังถึงปัญหาเหล่านี้ เพื่อนชายของเธอก็กำชับให้ล็อคห้องไม่เปิดรับใครเด็ดขาด ถ้าเป็นคนรู้จักก็ต้องโทรคุยกันก่อน และทนายยังแนะนำให้เธอหาอาวุธไว้ใกล้ๆตัวเพื่อใช้ในยามคับขัน เธอจึงนำเอาอาวุธมีดซึ่งใช้สำหรับทำครัว เป็นมีดบางแหลมคมใบมีดยาวประมาณ 1 คืบไว้ที่ใต้หมอนยามเธอหลับนอนตลอดเวลา
สาวธนาคารผู้นี้เธอเป็นคนขยัน งานการไม่เคยขาด จะหยุดจะลาต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2543 เพื่อนๆที่ทำงานพากันประหลาดใจเพราะเธอขาดงานไป 1 วันโดยไม่ลาหรือบอกกล่าว เพื่อนพยายามติดต่อทางโทรศัพท์มือถือของเธอก็ติดต่อไม่ได้ ครั้นพอวันที่ 2 เพื่อนที่ทำงานตามมาหาเธอที่ห้องพัก ประตูห้องปิดล็อค มีกระดาษเขียนข้อความแปะไว้หน้าห้อง ไปไหนยะ ไปหาที่ทำงานก็ไม่พบ โทรก็ไม่รับ ติดต่อกลับด้วย จดหมายข้อความดังกล่าวไม่ได้บอกว่าจากใคร เพื่อนๆจากที่ทำงานเคาะประตูห้องก็ไม่เปิด จึงประสานไปยังผู้จัดการคอนโดที่พัก ผู้จัดการคอนโดโทรศัพท์ติดต่อไปยังน้องชายของเธอ ก็ได้รับการยืนยันว่าไม่ทราบว่าเธอไปไหน ที่บ้านดุง จว.อุดร ก็ไม่ได้ไป ผู้จัดการคอนโดจึงได้ใช้กุญแจสำรองไขห้องเข้าไปดู พบสาวธนาคารนอนจมกองเลือดอยู่บนเตียง มีรอยบาดแผลถูกของมีคมเชือดที่คอ ที่ต้นแขนซ้าย 2 แผล ต้นขาขวา 1 แผลและที่หน้าอกข้างซ้าย บาดแผลที่หน้าอกซ้ายลึกถึงหัวใจทำให้เธอสิ้นใจตาย
ผมและทีมงานพนักงานสอบสวนสืบสวนรวมทั้งแพทย์ไปชันสูตรพลิกศพและตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบว่าผู้ตายสวมกางเกงยีนส์ขาสามส่วน ไม่สวมเสื้อ พบเสื้อยืดขาวคอกลมบางๆถูกดึงฉีกขาดอยู่ข้างศพ กางเกงสามส่วนที่สวมใส่ถูกแกะกระดุมเอวและรูดซิปลงเล็กน้อย ตรวจสภาพร่างกาย (หมอผู้ตรวจ) ไม่มีร่องรอยการข่มขืนกระทำชำเรา ห้องที่เกิดเหตุติดเครื่องปรับอากาศแต่เครื่องปรับอากาศไม่ได้เปิด ประตูห้องด้านหลังเปิดสู่ระเบียงอากาศถ่ายเทเย็นสบาย ความที่ห้องพักของเธออยู่สูงชะโงกทางระเบียงด้านหลังมองลงข้างล่างเป็นบึงใหญ่ เนื้อที่หลายไร่ หญ้าคา ผักปอดขึ้นเต็มเขียวไปหมด ดูในห้องน้ำพบมีดปลายแหลมสำหรับทำครัวเปื้อนเลือดอยู่ที่อ่างล้างมือ มีคราบเลือดติดอยู่บริเวณขอบอ่างและมีรอยนิ้วมือปรากฎชัด ทรัพย์สินภายในห้องถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ตรวจสถานที่เกิดเหตุพบเห็นลักษณะนี้ พันธงได้เลยว่าคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ สาวเจ้าทรัพย์ตื่น จึงเกิดการต่อสู้กัน เป็นเหตุให้สาวเจ้าทรัพย์ถึงแก่ความตาย
การเก็บร่องรอยพยานหลักฐาน
1.อาวุธมีดเปื้อนเลือดสันนิษฐานว่าเป็นอาวุธที่ใช้แทง
2.คราบเลือดซึ่งอาจเป็นได้ทั้งเลือดสาวธนาคารและเลือดของคนร้าย เพราะเป็นการต่อสู้กัน จำเป็นต้องเก็บตัวอย่างเลือดไปเพื่อใช้ตรวจพิสูจน์ DNA
3.เนื้อเยื่อใต้เล็บของผู้ตาย ขูดเนื้อใต้เล็บและตัดเล็บผู้ตายไป เมื่อมีการสู้กันอาวุธสำคัญของฝ่ายหญิงคือเล็บ ฉะนั้นใต้เล็บผู้ตายน่าจะมีผิวหนังคนร้ายติดอยู่
4.บรรดาเส้นผมและขนต่างๆ บนเตียงนอนมีแยะทีเดียวแสดงว่าเธอไม่ค่อยได้เปลี่ยนผ้าปูที่นอนมีทั้งเส้นผมเหยียดตรงยาว สั้น และขนหยิกหยอย อาจเป็นขนเพชรหรือขนหน้าแข้ง เก็บไปหมด เพราะใช้ตรวจเปรียบเทียบได้
5.นักสืบจากกองกำกับการสืบสวนนครบาล 4 ยอดเยี่ยมมาก มีความรู้เกี่ยวกับตึกสูง นักสืบลูกน้องผมได้ตรวจดูสภาพห้องที่เกิดเหตุพบว่าที่ระเบียงด้านหลังสามารถปีนมาจากห้องข้างเคียงได้ จึงได้เรียกผู้จัดการคอนโดมาสอบถาม ได้ความว่าห้องข้างเคียงไม่มีผู้พัก ปิดทิ้งไว้นานหลายเดือนจึงขอให้เปิดห้องข้างเคียงดังกล่าวนี้ให้ดู กุญแจประตูห้องข้างเคียงเป็นกุญแจลูกบิดยังปิดล็อคอยู่ สังเกตเห็นมีรอยไขควงงัดที่ประตู พอเปิดประตูเข้าไป เปิดไฟฟ้าสว่าง พบรอยเท้าคน (รอยเท้าเปล่า) ซึ่งเหยียบไปบนฝุ่น ถ่ายภาพรอยเท้าโดยใช้ไม้บรรทัดที่มีสแกนวางทาบเพื่อทราบขนาด
ตั้งสมมุติฐานว่า คนร้ายจะต้องปีนเข้าห้องที่เกิดเหตุทางระเบียงด้านนอก จากห้องข้างเคียง และการปีนที่ปลอดภัยต้องใช้เท้าเปล่า ทั้งนี้เพื่อการสัมผัสและความอ่อนตัว ถ้าปีนทั้งสวมรองเท้าตกตายแน่ๆ เมื่อคนร้ายถอดรองเท้าเดิน เท้าคนร้ายสัมผัสพื้นห้องข้างเคียงที่ปิดทิ้งไว้เป็นเดือนฝุ่นแยะ ธรรมชาติของมนุษย์เมื่อจะทำอะไรที่รู้ว่าไม่ถูกไม่ต้องจะเกิดอาการเอ็กไซท์ทำให้มีเหงื่อจากฝ่าเท้า ทำให้ฝุ่นพื้นห้องเกาะที่เท้า ทำให้เกิดรูปรอยชัดเจน
เรื่องนี้สาวผู้เสียหายก็ตายไปแล้ว จะรู้ถึงวิธีที่เธอจัดการรับมือกับคนร้ายได้อย่างไร ตอบว่ารู้ เรื่องนี้เป็นเรื่องตัวอย่างที่ผมเก็บนำไปสอนนักสืบรุ่นน้องและประชาชนทั่วๆไป ได้ทั้งแง่คิดในการป้องกันตัวและเทคนิคการสืบสวนด้วย
คดีนี้ได้ตั้งประเด็นการสืบสวนไว้ 2 ประเด็น
1.ประสงค์ต่อทรัพย์ ประเด็นนี้ก็มีบุคคลที่จะต้องต้องตรวจสอบมากมายเช่น พวกที่ชอบลักทรัพย์ตามอาคารสูง เพราะรู้จุดอ่อนของอาคาร พวกติดยาเสพติด
2.ประเด็นชู้สาว ประเด็นนี้ค่อนข้างกว้าง มีข้อมูลว่ามีคนเคาะประตูห้องเธอช่วงกลางดึกแทบทุกคืน
ทั้งสองประเด็นมีความเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ผู้จะลงมือกระทำได้จะต้องรู้ข้อมูลของเธอว่าเธออยู่คนเดียว และรู้ลักษณะห้องเธอเป็นอย่างไร คนที่จะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเธออาจจะเป็นคนในคอนโดเดียวกัน คนคอนโดข้างเคียง กลุ่มคนรู้จักที่เคยเข้าออกห้องของเธอ เพียงสมมุติฐานนี้ผู้ต้องสงสัยก็เป็นพันแล้ว จะสืบหาอย่างไร เป็นหน้าที่ของตำรวจฝ่ายสืบสวนที่เกี่ยวข้อง เริ่มต้นจากบุคคลในคอนโดเดียวกันก่อน สงสัยใครก็เรียกมาสอบขอตัวอย่างเส้นผมและเส้นขนไปตรวจ วัดขนาดรอยเท้า เป็นวิธีเดาสุ่ม ไม่ได้ผลก็เลยต้องพัก
การสืบสวนอีกช่องทางหนึ่งจากทรัพย์สินของผู้ตายที่หายไป มีสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น เงินสดไม่ทราบจำนวนหายไปพร้อมกระเป๋าใส่เงินซึ่งมีบัตรประจำตัวประชาชนและบัตรอื่นๆติดไปด้วยรวมทั้งโทรศัพท์มือถือของเธอด้วย
เรื่องทำท่าจะเงียบหาย การสืบสวนหาคนร้ายไม่คืบหน้า เวรกรรมมีจริง ชะรอยวิญญาณของผู้ตายเคียดแค้นพยาบาท ตราบใดที่ผู้กระทำผิดยังลอยนวลวิญญาณผู้ตายจะไม่สงบหรือไปสู่สุขคติ เป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ ผมได้บอกไว้แต่ต้นๆเรื่องแล้วว่า หลังคอนโดที่เกิดเหตุเป็นบึงใหญ่เต็มไปด้วยหญ้าคาและผักปอด เนื้อที่รวมกันแล้วประมาณ 2-3 ไร่ ทิ้งรกร้างมาเป็นสิบปีนับแต่สร้างมหาวิทยาลัยราม 2 นัยว่าขุดดินเพื่อถมที่สร้างมหาวิทยาลัย อยู่ดีๆผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 ก็ระดมคนทำความสะอาดลอกคูคลองรอบๆมหาวิทยาลัย รวมทั้งด้านที่ติดกับคอนโดที่เกิดเหตุด้วย โดยใช้คนงานชายหญิงประมาณ 20 คน
กลางวันๆหนึ่งขณะที่คนงานลอกคูคลองก็มีผู้พบถุงพลาสติกใบหนึ่งข้างในมีสิ่งของ ถุงพลาสติกถูกมัดผูกปากถุงน้ำเข้าไม่ได้ อยู่ในพงหญ้าหลังคอนโดสูงที่เกิดเหตุ คนงานนำถุงมาเปิดดู พบบัตร ATM บัตรประชาชนผู้ตาย โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องและจี้ห้อยสร้อย คนงานส่งเสียงเอะอะตะโกนบอกกัน ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าเมื่อประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมามีการฆาตกรรมเกิดขึ้นบนคอนโดใกล้บึงน้ำแห่งนี้ จากการพบสิ่งของทำให้เกิดไทยมุง เหตุการณ์ดังกล่าวนี้หาได้พ้นความสังเกตของ จ.ส.ต.สมพงษ์ฯตำรวจสน.อุดมสุขซึ่งมาปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายในมหาวิทยาลัยรามฯ2ไม่ จ.ส.ต.สมพงษ์ฯรีบมายังจุดที่คนงานพบสิ่งของ พบในถุงยังมีเสื้อลักษณะเป็นเสื้อนักกีฬาเปื้อนเลือดอยู่ด้วย จ.ส.ต.สมพงษ์ฯทราบทันทีว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมบนคอนโดชั้น7ที่อยู่ติดกับบึงน้ำ จึงได้นำถุงสิ่งของที่พบส่งให้ผู้บังคับบัญชา
ทฤษฎีของอาชญากรรม อาชญากรรมย่อมทิ้งร่องรอยเสมอ" การคลี่คลายคดีอยู่ที่ความสามารถของผู้สืบสวนจะค้นหาพบหรือไม่ เป็นเรื่องที่ผมได้รับการศึกษามาตั้งแต่สมัยโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ทำนองเดียวกับเรื่องที่กำลังเล่านี้ตรงตามทฤษฎีของอาชญากรรม
สิ่งของที่พบถูกส่งถึงทีมงานสืบสวน กองกำกับการสืบสวนนครบาล ๔ ซึ่งมี พ.ต.อ.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์ เป็นหัวหน้า จุดที่สำคัญที่สุดคือเสื้อกีฬาเปื้อนเลือด มีตราของมหาวิทยาลัยรามคำแหงและมีเบอร์ การสืบสวนมุ่งตรงไปที่เจ้าของเสื้อ ไม่ช้าก็ทราบว่าเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย เป็นนิสิตคณะวิศวฯ หยุดเรียนและหายตัวไปเวลาใกล้เคียงกับเกิดเหตุที่สาวธนาคารถูกฆ่า ประวัติของนักศึกษาผู้นี้ถูกเรียกมาตรวจ ทราบว่าเป็นคนอยู่จังหวัดสกลนคร เป็นเพื่อนกับน้องชายผู้ตายและเคยไปที่ห้องผู้ตาย เคยยืมเงินผู้ตาย ทีมงานนักสืบมุ่งสู่จังหวัดสกลนคร ไม่ช้าไม่นานก็ได้ตัว นำมาสอบสวนซักถาม ครั้งแรกปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ แต่ครั้นผู้ซักถามนำเสื้อกีฬาเปื้อนเลือดออกมาให้ดูจึงรับสารภาพ เรียกว่าจำนนด้วยพยานหลักฐาน แก้ตัวไม่ออก ผลการตรวจ DNA เนื้อเยื่อใต้เล็บผู้ตายยืนยันตรงกับผู้ต้องหา รอยเท้าที่พบในห้องข้างเคียงกับห้องที่เกิดเหตุก็ตรงกับร้อยเท้าของผู้ต้องหา
*คำรับสารภาพของผู้ต้องหารายนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน จะได้รู้ถึงวิธีการคนร้ายและการแก้ปัญหาของผู้ตายขณะที่เธอรู้ว่ามีผู้บุกรุกยามวิกาล
ผู้ต้องหารับว่า เป็นเพื่อนกับน้องชายผู้ตาย เคยไปที่ห้องผู้ตายหลายครั้ง เคยยืมเงินจากผู้ตาย และรู้ว่าผู้ตายมีทรัพย์ ตอนระยะหลังๆก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาติดยาเสพติด ไม่มีเงินซื้อยาเสพติด ผู้ต้องหารู้ว่าผู้ตายพักอยู่ผู้เดียวและข้างห้องของผู้ตายเป็นห้องว่าง ผู้ต้องหาทราบดีว่าจากห้องว่างข้างเคียงสามารถปีนเข้าไปยังห้องผู้ตายได้ วันเกิดเหตุผู้ต้องหางัดห้องข้างเคียงเข้าไป แล้วปีนเข้าห้องที่เกิดเหตุทางระเบียงด้านหลัง คืนเกิดเหตุผู้ตายไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ แต่เปิดประตูทางด้านระเบียงรับลม ผู้ต้องหาเข้าไปในห้องผู้ตายแล้วค้นเอาทรัพย์สินของมีค่า ผู้ต้องหาให้การว่าผู้ตายตื่นแล้วเปิดไฟเห็นผู้ต้องหาจำได้ ถามว่า เข้ามาทำไม ผู้ต้องหาจึงเข้าปล้ำข่มขืน คิดว่าเมื่อถูกข่มขืนแล้วคดีคงจะเงียบเพราะความอาย แต่ตรงกันข้ามผู้ตายหยิบมีดซึ่งซ่อนไว้ใต้หมอนออกมาป้องกันตัว เกิดแย่งมีดกัน ผู้ต้องหาแย่งมีดได้จึงใช้มีดแทงผู้ตายถึงแก่ความตาย
เหตุที่ผู้ต้องหาเอาสิ่งของทิ้งในคูน้ำหลังคอนโด เนื่องจากเสื้อยืดที่ผู้ต้องหาสวมใส่เปื้อนเลือดจึงถอดใส่ถุง แล้วสวมเสื้อของผู้ตายซึ่งเป็นเสื้อยืดออกจากห้องที่เกิดเหตุไป ส่วนกระเป๋าสตางค์ที่มีบัตร ATM บัตรประชาชนของผู้ตายรวมทั้งโทรศัพท์มือถือและจี้ห้อยสร้อยของผู้ตายนั้น ผู้ต้องหากลัวจะเป็นหลักฐานในการสืบสวนจึงไม่เอาติดตัวไป โดยใส่รวมในถุงพลาสติก ผูกปากถุงแล้วโยนจากห้องที่เกิดเหตุชั้น 7 ลงกลางบึงหญ้ารกด้านหลังคอนโด ผู้ต้องหาคงได้ไปแต่เงินสดและสร้อยคอทองคำ
*สิ่งที่ท่านผู้อ่านจะได้จากเรื่องนี้
1.การเลือกห้องพักของชาวแฟลตหรืออพาร์ทเม้นท์ ควรระวังการปีนจากระเบียงทางด้านหลัง จากห้องที่อยู่ติดกันตามรายละเอียดที่ได้กล่าวไปแล้ว ถ้าจำเป็นต้องพักอาศัยในห้องลักษณะนี้ ก็เตรียมการป้องกันเสีย
2.ไม่จำเป็นจริงๆ อย่าพาบุคคลอื่นไปรู้จักบ้าน รู้จักห้องนอน สถานที่ๆนัดพบเพื่อทำธุระกิจควรใช้สถานที่อื่นที่ไม่ใช่บ้าน
3.อย่านอนเปิดประตูหน้าต่าง อย่าได้คิดว่าไม่มีคนกล้าปีน
4.กลอนประตูด้านในต้องมี และจะต้องเป็นกลอนชนิดแข็งแรง
5.ประตูหน้าต่างควรติด ALARM เสียงดัง เสียงจะทำให้คนร้ายตกใจกลัวและหลบหนีไป
6.กรณีของสาวธนาคารผู้นี้ ควรจะแกล้งทำหลับจะปลอดภัย เหตุที่คนร้ายต้องฆ่าเพราะผู้เสียหายเห็นหน้าและจำได้
ข้อน่าชมเชยสาวธนาคารก็คือ เธอเป็นผู้หนึ่งที่ระมัดระวังตัวกลัวโดนจู่โจมข่มขืน เพราะเธอนอนอยู่ในชุดมีกางเกงในและสวมกางเกงยีนส์รัดรูปขาสั้นทับ ป้องกันไว้หลายชั้น เธอเสียชีวิตเพราะเธอรู้จักคนร้ายและคนร้ายต้องการข่มขืนเพื่อปิดปาก หากเธอแกล้งยอมสักเล็กน้อยและระหว่างคนร้ายปฏิบัติกามกิจ ค่อยเอามีดเสียบที่ลำตัวคนร้าย คิดว่าเธอคงจะมีชีวิตรอดอยู่จนบัดนี้