บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง
"ประสบการณ์คับด้ามปืน ของยอดนักสืบผู้การเอลวิส"
อุ้ม.....(เปล่า) ฆ่า
หน้าหลัก ›› บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง ›› อุ้ม.....(เปล่า) ฆ่า




พอได้ยินคำว่า “อุ้ม” ความรู้สึกของผู้ที่ได้ยินจะแตกต่างกัน ถ้าเป็นเด็กเล็กอายุ ๗-๘ เดือนจะชอบให้ “อุ้ม”มาก ถ้าเป็นหนุ่มสาว ผู้ที่ชอบ “อุ้ม”จะเป็นฝ่ายคนหนุ่ม ส่วนฝ่ายสาวขึ้นอยู่กับความพอใจว่าอยากให้ถูก “อุ้ม”หรือเปล่า หนุ่ม ๆที่ว่าชอบนั้นก็คือ “อุ้ม”สาวขึ้นเตียง ถ้าเป็นคนป่วยคนพิการหรือผู้ได้รับบาดเจ็บช่วยตัวเองไม่ได้ก็มักจะชอบให้คนอื่นมา “อุ้ม” ผู้ประกอบธุระกิจการค้าก็มีการ “อุ้ม”กัน คือช่วยเหลือเกื้อกูลกิจการไม่ให้ประสบปัญหา รัฐบาลหรือการเมืองก็มีการ “อุ้ม” ผู้ที่แข็งแรงกว่า เข้มแข็งกว่า ต้องคอย “อุ้ม”ผู้ที่อ่อนแอกว่า เป็นเรื่องธรรมดาและมีความสำคัญ ถ้าไม่มีการ “อุ้ม”หรือคอยประคับประคองรับรองเจ๊งหรือพังพินาศสันตะโรทุกเรื่อง
หันมาดูทางด้านผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อยความมั่นคงของสังคมและประเทศชาติบ้าง การ “อุ้ม”ก็เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นเรื่องหนึ่ง รวมทั้งพวกโจร (กลุ่มมิจฉาชีพ พวกกระทำผิดกฏหมายทั้งหลาย) ก็ถือว่าการ “อุ้ม”เป็นหัวใจของการทำงานเช่นกัน แต่พวกที่อยู่ในข่ายที่จะถูก “อุ้ม” รับรองว่าหนาวๆร้อนๆ ไม่เป็นอันกินอันนอนก็แล้วกัน

ทำไมต้อง “อุ้ม”

ผมจะพูดเฉพาะด้านตำรวจซึ่งมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม เพราะผมเป็นผู้ที่เคยอยู่ในวงการ คนนอกวงการจะมารู้ดีได้อย่างไร ส่วนการ “อุ้ม”ของหน่วยงานอื่นๆเชื่อว่าน่าจะมี โดยเฉพาะกลุ่ม “โจร”มีแน่ร้อยเปอร์เซ็นต์และโหดด้วย แต่ผมจะไม่พูดถึง

ต้องยกกระแสพระราชดำรัส “………. ในสังคมเรานี้มีทั้งคนดีและคนไม่ดี เราไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ แต่เราต้องช่วยกันไม่ให้คนที่ไม่ดีมาปกครองประเทศ ไม่ให้มาก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้……..”
ตำรวจมีหน้าที่ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย เป็นเจ้าหน้าที่บ้านเมืองหน่วยแรกเลยที่จะเข้าไปสัมผัสกับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างใกล้ชิด ส่วนผู้มีหน้าที่ในการยุติธรรมอื่นๆ เช่น อัยการ ศาล ยังอยู่ไกลต้องใช้เวลาอีกนาน ยกตัวอย่างขะโมยขึ้นบ้านงัดแงะลักทรัพย์ ท่านเป็นเจ้าของบ้านเจ้าของทรัพย์พอทราบเรื่องท่านก็ต้องวิ่งโล่แจ้งตำรวจ เวลาท่านเดือดร้อนจะนึกถึงตำรวจทันที แต่เวลาท่านสุขสบายท่านก็ด่าตำรวจ แช่งชักหักกระดูก ดูถูกเหยียดหยามว่าเป็นพวกรีดไถ ถามจริง ๆเถอะ ถ้าท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ถูกต้องกฏหมายร้อยเปอร์เซ็นต์ ท่านจะยอมให้มีการรีดไถเกิดขึ้นรึ อย่างนี้เขาเรียกว่า “ลำตัดต้องพลัดกันว่า” “ทีใครทีมัน”

ที่ผมเอาเรื่องนี้ขึ้นมาว่าก็เพราะเมื่อวันก่อนพรรคพวกที่รู้จักชอบพอกับผมถึง ๒ รายโทรมาหา ขอให้ช่วยเหลือ ถูกคนร้ายขึ้นบ้านทั้ง ๒ ราย ทรัพย์สินถูกยกเอาไปเกลี้ยง บ้านหนึ่งหลายแสนบาท อีกบ้านหนึ่งเป็นหลักล้าน พรรคพวกผมทั้ง ๒ รายบอกให้ผมช่วยบอกตำรวจให้ไปจับเด็กรับใช้ที สงสัยเด็กรับใช้จะเป็นตัวการเพราะเพิ่งรับเข้ามาใหม่จากสถานที่จัดหางาน และตอนเกิดเหตุคนรับใช้ก็หายไปด้วย

ผมเข้าใจว่าพรรคพวกผมคงจะบอกกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีให้ช่วยดำเนินการดังว่านั้นแล้ว พนักงานสอบสวนอาจจะมีข้ออ้างบางประการ ชาวบ้านไม่ทันใจ อยากให้ไปจับตัวผู้ต้องสงสัยมาเลยเดี๋ยวนี้ การปฏิบัติตามกฏหมายมันไม่ได้หรอกครับ ยิ่งรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ด้วยอีกว่า ทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าคดีถึงที่สุดศาลพิพากษาตัดสินให้เป็นผู้กระทำผิด การจับกุมคุมขังผู้บริสุทธิ์จะกระทำได้ต้องมีพยานหลักฐาน นั่นก็คือมีหลักฐานอะไรว่าเด็กรับใช้เป็นผู้กระทำผิด แต่เจ้าของบ้านเขารู้ดี เขาปักใจเชื่อเพราะมันมีแววส่อให้เห็นก่อนเกิดเหตุ แต่ข้อมูลน่าสงสัยเพียงแค่นี้มันไม่เพียงพอที่จะทำเรื่องขอให้ศาลออกหมายจับ (เมื่อสมัยก่อนปี ๒๕๔๐ สะดวกมากครับ ตำรวจออกหมายจับได้เอง เพียงแค่สงสัยว่าบุคคลกระทำผิดกฎหมายอาญาก็ออกหมายจับได้เลย รวดเร็วมาก พอทราบเหตุ สงสัยใคร โทรศัพท์รายงานหัวหน้าสถานี พอเจ้านายบอกว่า OK ก็ไปลากคอมาได้เลย พอรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.๒๕๔๐ ออกมา ทุกเรื่องต้องทำเป็นสำนวนเสนอไปยังศาล ขออนุมัติออกหมายจับ แล้วมันจะเอาหลักฐานที่ไหน เรียกว่ารัฐธรรมนูญใหม่สบายโจรเขาละ)

ผมเห็นใจจริงๆครับ ขโมยขึ้นบ้านลักทรัพย์ไปเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืนช่วงไม่มีคนอยู่บ้าน ให้ “กุญแจ” เฝ้าบ้าน เด็กรับใช้เพิ่งถูกให้ออกไป เด็กรับใช้อาจจะเอาไปจริง ๆ หรือบอกให้พรรคพวกมาเอาไป หรืออาจเป็นคนร้ายอื่นมาเอาไปก็ได้ ดังนั้นมันจึงต้องมีหลักฐานว่าคนร้ายเป็นใคร แล้วมันจะเอาพยานหลักฐานที่ไหนกัน บ้านท่านติดกล้องโทรทัศน์วงจรปิดไว้หรือเปล่า ถ้าติดตั้งไว้และกล้องบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ เห็นหน้าตารู้เป็นใคร อย่างนี้ใช้ได้เลย กรณีลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย ผมอยากจะบอกว่าลายนิ้วมือแฝงนี้มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนร้ายมันไปจับต้องวัตถุผิวมันเรียบ ถ้าเป็นสภาพบ้านทั่วไปก็คือกระจกบานประตู หน้าต่าง ที่โต๊ะเครื่องแป้ง บางคดีมันไม่มีลายนิ้วมือแฝงทิ้งไว้เลย บางคดีก็พอมีแต่มันก็ไม่ค่อยสมบูรณ์ ติดไม่เต็มนิ้ว และรอยนิ้วมือที่พบพอเอาไปตรวจเข้าจริงๆกลายเป็นรอยนิ้วมือของเจ้าของบ้าน

สมัยที่ผมยังปฏิบัติหน้าที่อยู่มักจะให้กำลังใจกับเจ้าของบ้าน ผมสั่งให้ลูกน้องลอกลายนิ้วมือแฝงเข้าไว้ก่อน สมบูรณ์ไม่สมบูรณ์ลอกเข้าไป เอาไว้เวลาจับคนร้ายได้จริงๆรับสารภาพก็เอาเจ้าลายนิ้วมือแฝงที่ว่าไม่สมบูรณ์นี้ทำให้มันสมบูรณ์ ท่านอาจเป็นงงว่าทำได้ยังไง ก็ไม่ยาก เวลาเรียกผู้ต้องหามาสอบ เลี้ยงน้ำมันสักถ้วย และไอ้เจ้านิ้วมือที่ติดข้างแก้วน้ำนั่นแหละเป็นลายนิ้วมือแฝงที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ อย่างนี้เขาเรียกว่าวิชาโจร

เรื่องขโมยขึ้นบ้านนี่ถ้าท่านไม่โดนกับตัวเองจะไม่รู้สึกหรอกครับ โดนเมื่อไรจะนึกถึงข้อเขียนของผม ทีนี้ก็มาถึงเรื่อง “อุ้ม” พรรคพวกผมที่ของหายบอกว่า “ยังงี้ให้ตำรวจไป อุ้ม มาได้ไหม” ผมบอกว่าหมดสมัยแล้ว ตำรวจไม่มีใครกล้าทำ พรรคพวกผมแสดงอาการท้อแท้และเบื่อหน่ายที่จะเป็นคนไทย ผมเลยบอกว่า “ยังไม่สิ้นหวัง ยังมีพวกโจรรับจ้างอุ้มอยู่บ้าง แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายน๊ะ” ตอนนี้พรรคพวกผมเอาไปคิด ยังไม่ให้คำตอบ

เรื่อง “อุ้ม”นี่ตำรวจมือปราบที่ไหนเขาก็ทำกัน แต่จะให้เขามารับหรือมาพูดให้ฟังยากส์ส์ส์ เดี๋ยวติดคุก มิฉะนั้นแล้วบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อยอย่างนี้หรอก ถ้าท่านมีหน้าที่ต้องสร้างความสุขความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับสังคม แต่ปรากฏว่าประชาชนที่ท่านดูแลได้รับความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า หาความสุขไม่ได้ เนื่องจากมีไอ้โจรห้าร้อย พวกนักเลงอันธพาลมารังแก วิญญาณผู้พิทักษ์สินติราษฎร์จะเข้าสิงทันที เป็นไงเป็นกัน “กูทนไม่ได้แล้วโว๊ยที่ไอ้พวกวายร้ายมันอยู่เหนือกฏหมาย” เมื่อมันไม่มีหลักฐานมันก็ต้อง “อุ้ม” แต่ต้องดูให้แน่ ไม่ผิดตัว การปฏิบัติการ “อุ้ม”ใช้วิธีจู่โจมไม่ให้รู้ตัว ไม่ให้มีพยานหลักฐาน เหมือนกับภาพยนต์แอ๊คชั่นของฝรั่งที่ท่านเคยชมอย่างไงอย่างงั้นเลย

การ “อุ้ม”จึงต้องมีการสะกดรอยติดตามเป้าหมาย เพื่อหาจังหวะ “อุ้ม”ขณะที่ไม่มีคนรู้เห็น ยานพาหนะที่ใช้ต้องอำพราง ทะเบียนปลอม ติดสติคเกอร์เพื่อให้คนพบเห็นไขว้เขว ตัวบุคคลที่ปฏิบัติต้องปิดหน้าปิดตาไม่ให้รู้ว่าเป็นใคร ขนาดดูว่าปลอดคนแล้วบางรายยังเสือกมีคนเห็น ก็เลยต้องอุ้มแถมไปอีกด้วย การ “อุ้ม” จึงทำให้ต้องมี “เซฟเฮ๊าส์” คือต้องมีสถานที่เก็บตัว ลับเฉพาะ มิดชิด เหยื่อที่ถูก “อุ้ม”จะถูกปิดตาไม่เห็นเดือนตะวัน ไม่รู้อนาคต จะเป็นหรือตายไม่รู้ เรามีชุดซักถาม รับรองว่าเมื่อผู้ถูก “อุ้ม”โดนซักถามแล้ว ไม่มีมนุษย์ตนใดปฏิเสธได้ วิธีการเป็นเช่นไรเราไม่บอก ชุดซักถามจะรู้ว่าผู้ถูกซักถามพูดจริงหรือโกหก จากคำให้การเช่นว่านี้ทำให้ผู้สอบสวนได้พยานหลักฐาน รู้ตัวผู้เกี่ยวข้อง จนสามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้ ถ้าปฏิบัติตาม ป.วิอาญาอย่างเดียว ถุย……ผู้ร้ายเต็มเมืองไปหมด

ปัญหาที่เกิดขึ้นก็มีครับ เช่นสอบกันหนักมือไปหน่อยจนสินค้า “บุบสลาย” ไม่สามารถเอาไปวางขายตามท้องตลาดได้ มันก็เลยต้องเอาไปทำลายหรือรีไซเคิล บางทีคนโดน “อุ้ม” ไม่รู้เรื่องจริงๆ ก็ต้องมีวิธีจำหน่ายสินค้าชำรุด วิธีใครวิธีมัน ไม่มีใครเขาเล่าให้ฟังหรอกครับ ถึงยุคนี้ดูแลตัวเองก็แล้วกัน รู้เท่าทันวิธีการคนร้าย หาทางป้องกัน ไม่ยุ่งยากอะไร คอยติดตามอ่าน “รู้ไว้ไม่ตายโหง”ก็พอจะช่วยได้ และระวังอย่าให้ถูก “อุ้ม” ไม่ว่าโดยโจรหรือโดยใคร มันมีวิธีป้องกันครับ จะป้องกันไม่ให้โดน “อุ้ม”ได้ยังไง ถ้าสนใจก็จะเขียนบอกกล่าวให้.
"คุณอังกูรเล่นหนังด้วยหรอ?"
"โห...ประกบคู่กับพี่เอกสรพงษ์ด้วย"
"คลาสสิคสุดๆ...อยากดูเต็มๆจัง"
และอีกมากมายสำหรับเสียงตอบรับ เนื่องจากล่าสุดทีมงานทำ VDO "เปิดปูมฮีโร่" มาให้ได้ชมกัน วันนี้ทีมงานจีงขอสมนาคุณแฟนๆ ตามเสียงเรียกร้องครับ เราใช้เวลาตามหาภาพยนตร์สุดคลาสสิคเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงมือแฟนๆ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ...

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์)

ตอน 1ตอน 2ตอน 3
ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 1 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 2 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 3
ติดตามกันมานาน
จนเป็นแฟนประจำกันก็มาก...
แต่หลายๆท่านคงยังอยากรู้จักคุณอังกูร (007) ในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกลงไป
ถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาเป็นฮีโร่ของเรา
ในวันนี้ เราจึงไม่รอช้าจัดเป็น VDO
ให้ชมกันอย่างจุใจ

(คลิ๊กที่ รูปเพื่อดูวีดีโอ)

พลังสกาล่าร์ ร้องทุกข์ที่นี้
จำนวนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์