คำขอบคุณจากอดีตนักโทษประหาร
หลังงานพิธีราชาภิเษก เสียงโทรเข้าจากเบอร์ไม่คุ้นเคย "หวัดดีครับพี่ ผมออกมาแล้ว อยากขอบคุณพี่" เสียงไม่คุ้นจึงถามกลับ "ใครครับเนี่ย" "ผมตึ๋ง ผู้พันตึ๋งครับ" ความจำถูกเรียกกลับ "ไอ้ตึ๋ง มึงออกมาแล้วรึ อย่าหวนกลับเข้าไปอีกนะ ครั้งก่อนก็ได้ข่าวออกมาทีแล้วนี่" "คราวนี้ไม่มีอีกแล้วครับ ครั้งก่อนไปเป็นเพื่อนพรรคพวก" ผู้พันตึ๋งจำเลยในคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ศาลพิพากษาเด็ดขาดประหารชีวิต แต่ด้วยมีเหตุอันควรปรานี ได้ลดหย่อนและต่อมาได้พักโทษโดยมีเงื่อนไข แต่ไม่นานต้องกลับเข้าสถานจองจำใหม่ สอบถามได้ความว่าไปเป็นเพื่อนผู้มีพระคุณเพื่อทำธุระบางประการ ไม่ได้ออกอาวุธอะไรเลยทั้งสิ้น เพียงแค่ปรากฏกายอิสรภาพของเขาก็หมด เพราะต้นทุนทางสังคมเหลือต่ำกว่าศูนย์ กลับเข้าไปครั้งที่สองคงจะได้คิดแล้วละ ตึ๋ง..เองต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะไต่ขึ้นมาจากศูนย์เพราะสังคมไทยเป็นประเภทฝังใจ เชื่อตามเขาบอก เชื่อโดยไม่ทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง พูดให้ปากฉีกก็ไม่มีใครเชื่อ ต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ อดทน อดกลั้น ซึ่งเองอาจจะหมดชีวิตไปเสียก่อนก็ได้ แต่สำหรับกูและอาจมีคนอื่นอีกที่รู้ว่า "มึงบริสุทธิ์" แม้จะถูกศาลพิพากษาลงโทษก็ตาม โปรดอ่านคำพิพากษาให้ดี จะใช้คำว่า "...พิเคราะห์ตามพยานหลักฐานแล้ว เชื่อว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริง...." ประเด็นสำคัญที่ทำให้ศาลพิพากษาตัดสินขึ้นกับพยานหลักฐานและการนำสืบ
*ไม่ต้องการให้ใครมาเชื่อ แต่ด้วยเหตุผลที่เป็นผู้หนึ่งที่ร่วมทำการสืบสวนสอบสวนในสำนวนนี้ ได้เห็นสถานที่เกิดเหตุ ตรวจสถานที่เกิดเหตุ สอบสวนปากคำผู้ต้องหาและพยานที่เกี่ยวข้อง จากประสบการณ์ที่ทำคดีมามากมายจึงเชื่อว่า ไอ้ตึ๋งบริสุทธิ์ แต่มีการเปลี่ยนคณะผู้สอบสวน มีการได้ร่องรอยพยานหลักฐานใหม่ พยานหลักฐานดังกล่าวจะไม่พูดถึงเพราะเป็นคดีที่ศาลพิพากษาตัดสินไปแล้ว
ผู้พันตึ๋งไม่ได้เป็นญาติผม ไม่ได้รู้จักคุ้นเคยมาก่อน ผมยังเกรงๆ หากช่วงที่สืบพยานในชั้นศาล ทนายจำเลยอ้างผมเป็นพยาน ผมคงลำบากใจในการที่จะต้องไปให้การต่อศาล แต่คนอย่างผมรู้เห็นอย่างไรต้องว่าไปตามนั้น โชคดีที่ไม่ได้ถูกอ้าง คำขอบคุณจากนักโทษประหารที่ผมได้รับ เป็นความรู้สึกพิเศษจากใจจริงของผู้ให้ที่รู้ว่า ไม่ใช่มีเพียงฟ้าดินที่รู้เห็น สำหรับผู้ที่ได้รับคำขอบคุณก็มีค่าเกินบรรยาย ผมถามต่อไปอีกว่า "แล้วมึงรู้ไหม ใครเป็นคนทำ" คำตอบคือ "รู้ครับ" ผมบอกตัดบท "เออๆพอแล้ว ไม่ต้องขยายความ" พร้อมให้ศีลให้พร ขอให้ใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายอย่างมีความสุขกับครอบครัว ปล่อยวางไม่จองเวรจองกรรม ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกรรมทั้งสิ้น "เวรย่อมระงับโดยการไม่จองเวร"
คำขอบคุณลักษณะนี้เคยได้รับจากคดีห้างทองฯ ซึ่งเป๋นคดีปริศนาคาใจของสังคม ข้องใจมาจนทุกวันนี้ ผมเป็นคณะผู้สอบสวนชุดแรกซึ่งสรุปความเห็นว่า เป็นการกระทำตนเองตาย สังคมไม่เชื่อทั้งๆที่ร่องรอย พยานหลักฐานชัดเจน เชื่อมโยง โดยปราศจากข้อสงสัย แต่ก็มีการรื้อฟื้นคดีสอบสวนใหม่ โดยชุดสืบสวนสอบสอบสวนที่ไม่เคยได้ไปดูสถานที่เกิดเหตุ ไม่เห็นสภาพของที่เกิดเหตุ เห็นแต่ภาพถ่าย แต่..สามารถออกหมายจับกุมผู้กระทำผิดได้ เก่งเกินมนุษย์ธรรมดา เมื่อคดีถึงที่สุดศาลพิพากษายกฟ้อง จำเลยในคดีนี้ก็ได้กล่าวคำขอบคุณผม ซึ่งก็ได้บอกไปว่า ทำไปตามหลักฐาน แบบมืออาชีพทำ (ไม่ต้องอธิบายมาก มือระดับเดียวกันจะเข้าใจ) การสอบสวนต้องเที่ยงธรรม ถูกต้อง สามารถอธิบายได้ มิฉะนั้นสังคมจะอยู่ไม่ได้
มีผู้บริสุทธิ์กี่คนที่ต้องรับโทษจากคำพิพากษา บอกแต่แรกแล้วว่า ศาลจะพิจารณาจากร่องรอยพยานหลักฐานที่คู่ความนำสืบ นำมาพิจารณา ชั่งน้ำหนัก ความน่าเชื่อ ความเป็นไปได้ แล้วจึงพิพากษาไปตามพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนมีความสำคัญเป็นลำดับหนึ่ง ร่องรอยพยานหลักฐานเป็นของจริงในคดีนั้นๆหรือว่าสร้างขึ้น ยกตัวอย่างคดีที่เกิดขึ้นเมื่อ 50 ปี (เป็นคดีขาดอายุความแล้วทั้งสิ้น)
ท้องที่แห่งหนึ่งในภูธร มีคดีลักทรัพย์เกิดขึ้นมาก หัวหน้าสถานีถูกตำหนิในที่ประชุม นับเป็นเรื่องที่เสียหน้า บรรดาสายสืบถูกคาดโทษ แน่นอนที่สุดชุดสืบสวนของแต่ละสถานีล้วนเป็นจอมยุทธ์ เร่งรัดการทำการสืบสวนจับกุม วันหนึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืนมาส่ง พร้อมของกลางเหล็กไขควงปากแบนขนาดใหญ่ เป็นเครื่องมือที่ใช้งัดแงะหน้าต่างบ้านที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหารับสารภาพ สอบถามถึงทรัพย์สินที่ได้ไปเป็นเงินสดเอาไปใช้หมดแล้ว จึงพาไปชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับ ชี้ได้ถูกต้อง ตรวจสอบร่องรอยงัดแงะที่บานหน้าต่างที่เกิดเหตุ เข้ากันได้พอดีกับเครื่องมืองัดแงะที่ยึดได้จากผู้ต้องหา ชั้นพิจารณาในศาลจำเลยปฏิเสธ สืบพยาน จำเลยสู้แบบอนาถา ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ประกอบจำเลยรับสารภาพในชั้นสอบสวน เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด พิพากษาลงโทษจำคุก สิ้นคำพิพากษาจำเลยได้สร้างความตกใจกลางศาล ลุกขึ้นพูดเสียงดัง "กูไม่ได้ทำผิด มาลงโทษกูแบบนี้....." (พูดต่อด้วยคำหยาบมากมายก่อนที่ตำรวจคุมจำเลยจะสั่งให้ระงับถ้อยคำ) จำเลยถูกเพิ่มโทษฐานดูหมิ่นศาลอีก 6 เดือน *ผมได้ทราบก็ไม่สบายใจ คนเราไม่ถึงที่สุดไม่เอาหัวชนฝาเช่นนี้ เรียกชุดจับกุมมาซักถามได้ความว่า เป็นพวกติดยาเสพติด ไม่มีอาชีพรายได้ ชอบลักขโมย จึงคว้าเอาตัวมา เมื่ออยากยาเสพติดจะให้ทำอะไรทำ ให้เซ็นอะไรก็เซ็น (กรรมจริงๆ แม้จะเป็นคนไม่ดีแต่ต้องมารับโทษในความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ มันบีบคั้นความรู้สึกมาก) เวรกรรมมี อีกไม่นานสายสืบผู้นี้ก็ถูกมือปืนลอยยิงตาย
อีกสักเรื่อง เป็นฝีมือของเจ้านายหัวหน้าสถานีลุยเอง สมัยก่อนคดีอุกฉกรรจ์หัวหน้าสถานีจะเป็นผู้รับผิดชอบสอบสวน มีคดีคนงานโรงสีข้าวฆ่ากันตาย โดยใช้ตะขอเหล็กสำหรับเกี่ยวกระสอบข้าวสารเวลาแบกขึ้นบ่า เกี่ยวกระชากที่ลำคอหลอดลมขาด ตายในที่เกิดเหตุ คนงานผู้ชายมี 50 กว่าคน เลิกงานกินเหล้าแล้วทะเลาะกัน สอบสวนไม่มีผู้ใดรับ ไม่มีพยานรู้เห็น คนในวงเหล้าถูกเรียกสอบและถูกยึดตะขอเหล็กประจำตัวไปตรวจ ด้วยความไวของผู้กองแต่ไม่อาจรอดสายตาผมไปได้ ผู้กองเอาตะขอเหล็กของคนงานร่างบึกที่ให้การวกวน ตะวัดปลายตะขอไปที่กองเลือดผู้ตาย แล้วยึดตะขอเหล็กจากผู้ต้องสงสัยทั้งหมดไปตรวจสอบ ในที่สุดคนงานร่างบึกแต่สมองเล็กก็ถูกจับดำเนินคดีข้อหาฆ่าคนตาย ผลการตรวจพิสูจน์พบเลือดของผู้ตายที่ตะขอเหล็กของผู้ต้องหาผู้นี้ ผมอึ้ง ทึ่ง ถามผู้กองซึ่งเป็นรุ่นพี่ว่า ท่านรู้ว่าใครเป็นคนร้ายได้อย่างไร ผู้กองยิ้ม หัวเราะในลำคอ ประสบการณ์ ไอ้น้อง (แมร่งคล้ายๆกับคดีไอ้ตึ๋งเลยว่ะ)
*ผลคดีชั้นศาลเป็นประการใดไม่ทราบ ผมและผู้กองต่างโยกย้ายไปรับราชการที่อื่น อีก 23 ปีต่อมาผมก็ได้รับข่าวเศร้า ผู้กองผู้มากประสบการณ์ขับรถชนต้นไม้ถึงแก่ความตาย
ยุคอันธพาลครองเมืองตำรวจมีบทบาทสำคัญมาก ถ้าฝีมือไม่ถึงบ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ ประชาชนจะอยู่อย่างไม่มีความสุข หวาดผวา ต้องใช้หลักพระบรมราโชวาท "ในบ้านเมืองมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองเป็นปกติสุขเรียบร้อย จึงไม่ใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีโอกาสก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้"
ที่สถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งมีคดีปล้นฆ่าชิงรถบรรทุกเกิดขึ้นเป็นประจำ เกือบจะทุกวัน เจ้าของรถมักจะไม่ค่อยแจ้งความเพราะรอไถ่รถคืน ส่วนตำรวจท้องที่ต้องไปชันสูตรพลิกศพกันทุกคืน สถิติคดีถูกรายงานระดับเหนือประกอบกับมีคำร้องเรียน ผู้กองหัวหน้าสถานีมืออ่อนถูกย้าย ส่งคนใหม่ๆฝีมือระดับพระกาฬลงมา คดีปล้น ลัก ชิงรถบรรทุกยังมีอยู่ แต่ทุกครั้งที่มีการไถ่ถอนรถ ผู้ที่เป็นตัวการรับไถ่ถอนตายทุกราย หนำซ้ำยังป้ายเขียนติดหน้าอกอีกว่า "ผมตายเพราะเป็นนายหน้าไถ่ถอนรถ อย่าเอาอย่างผม" ตายลักษณะนี้ไม่กี่ศพคดีปล้นฆ่าชิงรถบรรทุกก็หมดไป
*ตำรวจทุกคนที่เติบโตก้าวหน้าในชีวิตราชการล้วนแต่มีที่มาที่ไป ทุกคนมีทีเด็ดของตนที่จะ ควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีโอกาสก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ บางอย่างที่ตำรวจทำไปก็เพราะมีหน้าที่ๆจะต้องทำให้บ้านเมืองสงบสุข มีอีกร้อยแปดพันประการที่ตำรวจจำต้องทำเพื่อให้ประชาชนอยู่อย่างผาสุก นอนตาหลับไม่ต้องสะดุ้งผวา เป็นเรื่องที่ไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ ขาดตำรวจดีที่สามารถแล้วคุณจะรู้สึกเช่นเดียวกับ แกงจืดจึงรู้คุณเกลือ ฉันท์นั้น.