เมื่อชีวิตมาถึงโค้งสุดท้าย เป็นม้าแข่งสนามไทยก็เข้าโค้งวัดเบ็ญจฯ ตอนหนุ่มๆดันทะลึ่งพูด ขออยู่แค่ 80 พอ แพลบเดียวใกล้ถึงแล้ว อายุมากขึ้นพบสัจธรรม เห็นอะไรดีไม่ดีติชมได้ไม่กลัว แต่ก็ยังกลัวตาย ไปดูได้ที่ รพ.ตร. อดีตมือปราบมือวิสามัญเพียบ กลัวตายทั้งนั้น คนไม่กลัวเห็นมีคนเดียวพี่"ส"ของผม โดดตึกตัวปลิวเหมือนโดดร่ม บางคนแถ ไม่กลัวตายแต่กลัวทรมาน มันก็ครือกันแหละพี่ อดีตมือปราบที่เกรียงไกร อดีตนักกีฬาดัง เดี๋ยวนี้เดินก้าวสั้นๆ บ้างก็นั่งรถเข็น ยังดีกว่าพวกนอนติดเตียงอีกเยอะ เก่งยังไงก็แพ้สังขาร ขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติและแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจที่จัดห้อง VIP ไว้ให้กับผู้ที่เคยทำคุณให้กับหน่วยงาน นอกจากจะให้ความสะดวกสบายแล้วยังเป็นสถานที่พบปะ มือปราบเกือบทุกชีวิตสู่จุดหมายเดียวกันคือ รพ.ตร. 3เดือนตรวจสุขภาพครั้งนึง ถ้าสับวันให้ดีๆจะเจอกันหมด ถามข่าวคราวคนโน้นคนนี้ที่หายไป ข่าวเศร้าที่ได้รับคือเพิ่งจะลอยอังคารไป สักวันหนึ่งก็คงมีคนถามถึงตัวเราเช่นกัน *ฝากบอกยังมือปราบ มือลุยงานรุ่นน้องๆ ทำงานไปพักผ่อนไปด้วยนะ อย่าไปคิดว่าจะพักผ่อนตอนเกษียณเพราะคุณอาจได้พักแค่ที่โรงบาล และจงดูแลครอบครัวไปด้วยพร้อมๆกัน
*ออกจากบ้านก็พบปัญหา เป็นปัญหาที่หลายรัฐบาลอยากแก้แต่ก็แก้ไม่ได้เพราะมีอำนาจเพียงชั่วคราวและไม่ใหญ่จริง จะแก้ตรงนี้ก็ติดตรงโน้น ลูบหน้าปะจมูก ที่สำคัญอีกประการคือ พอลุกจากเก้าอี้ถูกเช็คบิล ต้องไปหาประเทศอยู่ไม่งั้นก็นอนคุก ปัญหาที่พบจนเบื่อหน่าย ก็คือ
ปัญหาการจราจรติดขัดใน กทม.
1.เสนอความเห็นนี้ไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ให้ขยายเมืองออกไปในแนวราบ ที่ว่างชานเมืองและจังหวัดใกล้เคียงยังมีอีกมาก เพียงจำกัดความสูงของอาคาร กำหนดให้ห้างสรรพสินค้าที่เกิดขึ้นต้องมีระยะห่างจากกัน ปัญหานี้ทุกคนรู้แต่ทำไม่ได้เพราะต้องขัดใจกับนายทุน ผู้มีอำนาจ และพวกปั่นราคาที่ดิน ลองจำกัดความสูงของอาคารไม่ให้เกิน 10 ชั้น (พอดีกับขีดความสามารถของการดับเพลิง) ราคาที่ดินจะลดฮวบแล้วเมืองจะขยายไปในแนวราบทันที หวังพึ่งรถไฟฟ้ารึ ทุกวันนี้ไปดูซี คนใช้บริการเบียดเสียดขนาดไหน ชั่วโมงเร่งด่วนคนรอขึ้นรถไฟฟ้าต่อคิวยาวลงมาถึงฟุตบาท ชานชะลาก็สั้น ขยายไม่ได้ รับขบวนรถได้เพียง 4 ตู้ ควรทำให้รองรับได้ 10-12 ตู้ ซึ่งก็เป็นไปไม่ได้ ปัญหาเรื่องการจราจรติดขัดกำลังเกิดขึ้นในจังหวัดใหญ่ๆก็เนื่องมาจากปัญหาเดียวกันคือ ไม่กระจายความเจริญออกไปในแนวราบ
2.เร่งจัดการระบบขนส่งมวลชน จะเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยแก้ไขปัญหาหารจราจรติดขัดใน กทม. ซึ่งรัฐบาลปัจจุบัน(คสช.)กำลังดำเนินการ เร่งระดมสร้างพร้อมๆกันหลายเส้นทาง เป็นการตัดสินใจแบบทหาร กล้าได้กล้าเสีย ยอมให้รถติดหนักไปทั่วกรุงเทพฯพร้อมๆกันเสียเลยทีเดียว พอสร้างเสร็จก็จะสบายไปพร้อมกัน อดใจรอหน่อยแค่ 5 ปีเอง รุ่นลูกๆหลานๆคงจะได้ใช้ เรื่องนี้ขอชม แต่ก็มีคนกล่าวหาว่ามีส่วนทำให้เกิดละอองฝุ่นทำให้อากาศเป็นพิษ โธ่ๆปัญหานี้มันเกิดขึ้นทั่วโลกเนื่องมาจากหลายสาเหตุปัจจัย สะสมมานาน อย่าไปโทษเรื่องสร้างรถไฟฟ้าเลย
3.การสร้างรถไฟฟ้าอาจจะช่วยลดจำนวนรถยนต์ที่เข้ามาวิ่งใน กทม.ในชั่วโมงเร่งด่วน แต่คนก็ยังจำเป็นต้องมีรถยนต์ส่วนตัวอยู่ดี เพราะรถไฟฟ้าไม่ได้มาจอดรับถึงหน้าบ้าน คิดว่ารัฐบาลคงไม่ลืมสร้างอาคารจอดรถขนาดใหญ่ไว้ ณ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าด้วย ชาวบ้านจะได้นั่งรถส่วนตัวไปจอดแล้วโดยสารรถไฟฟ้าเข้าเมือง
4.เมื่อถนนเริ่มว่างก็จะมีพื้นที่ให้รถประจำทาง ขสมก.วิ่งได้ ปรับปรุงสภาพรถให้ดี เพิ่มจำนวนรถให้มากขึ้น ผู้ขับขี่และพนักงานประจำรถต้องปรับปรุง ให้มีมรรยาทในการขับรถ พูดจาและใช้กิริยา และบริการผู้โดยสารเสมือนญาติ คัดสรรเลือกคนเข้าทำงาน ให้เงินเดือนสูง โดยไม่ต้องขึ้นค่าโดยสารเพราะถือเป็นบริการของรัฐ (รัฐบาลจ่ายเงินอุดหนุน)
5.ให้มีบริการรถรับจ้างอย่างเสรี เช่น Grab, Uber, รถแท็กซี่, มอเตอร์ไซด์รับจ้าง ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการได้
ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความเรียบร้อยของสังคมและความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินประชาชน
ปัญหานี้พุ่งตรงไปที่ตำรวจ ถ้าติดตามข่าวจะพบว่ามีเรื่องเกี่ยวพันกับตำรวจเกิดขึ้นทุกวัน เรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรม เรื่องไม่ดำเนินการหรือทำงานล่าช้า การปล่อยปะละเลยดูจะเป็นเรื่องธรรมดาๆ เพราะเป็นหน้าที่ของตำรวจแต่ฝ่ายเดียว ลองเปลี่ยนให้งานเหล่านี้ไปอยู่ในหน้าที่ของหน่วยงานอื่นดูบ้าง อาจจะเกิดปัญหาหนักขึ้นกว่านี้ก็ได้ ตำรวจทำหน้าที่นี้มานาน มีความชำนาญ ช่ำชอง ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคล ระบบกลไกการบริหารมีการปรับปรุงแก้ไขมาโดยตลอด ตรงไหนไม่ดี บกพร่องก็แก้ แต่ก็มีคนพยายามเข้ามาแก้กฎเกณฑ์เพื่ออำนวยประโยชน์ให้กับพรรคพวก เห็นชัดเจนว่าทั้งหมดอยู่ที่ตัวบุคคลทั้งสิ้น แก้ปัญหาเรื่องตัวบุคคลได้ก็จบ
มีการปรับปรุงโครงสร้างตำรวจ ประกาศออกมาแล้วแต่ชาวบ้านอย่างเราๆไม่ได้ประโยชน์เท่าใดนัก จะมองไม่เห็นถึงผลของการเปลี่ยนแปลง ยังไม่ส่งผลโดยตรงถึงประชาชน เป็นการปรับรูปแบบการบริหารงานของตำรวจเสียมากกว่า ขโมยยังชุม โจรก็ยังคงเข้าบ้าน ตำรวจไปที่เกิดเหตุช้า เหมือนเดิม จึงเกิดคำถามว่า "ปรับปรุงโครงสร้างตำรวจแล้วประชาชนได้ประโยชน์อะไร" ประชากรตำรวจมากขึ้นจนหาตำแหน่งลงไม่ได้หรืออย่างไร? เวลาเดียวกันจำนวนประชากรในแต่ละเมืองก็มากขึ้น จำนวนสถานีตำรวจเท่าเดิม ดูแลบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ไม่ทั่วถึง ทำให้เกิดความรู้สึกว่าตำรวจกับประชาชนมีความห่างไกล ทำไมไม่เพิ่มจำนวนสถานีตำรวจให้มากขึ้น การปรับปรุงโครงสร้างตำรวจควรจะเอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับประชาชน
1.เพิ่มสถานีตำรวจย่อยหรือสถานีตำรวจชุมชน ให้มีอยู่ตามหมู่บ้านหรือชุมชนต่างๆ มีนายตำรวจเป็นหัวหน้า มีกำลังออกตรวจตราพื้นที่ พร้อมออกไประงับเหตุทันทีเมื่อได้รับแจ้ง มีอำนาจสอบสวนและไกล่เกลี่ยกรณีพิพาท ถ้าเป็นแบบนี้ประชาชนจะได้ประโยชน์และรู้สึกอบอุ่น
2.ให้มีคณะกรรมการประชาชนในพื้นที่คณะหนึ่ง ประกอบด้วยผู้มีคุณวุฒิ ผู้มีความรู้ มีความเหมาะสม โดยให้ประชาชนในพื้นที่เลือกกันเอง คณะกรรมการชุดนี้มีสามารถให้คำแนะนำและเสนอแนะการปฏิบัติงานต่อหัวหน้าสถานีตำรวจได้ และให้มีอำนาจเสนอแนะรายชื่อตำรวจที่เหมาะสม ที่สามารถเข้ากับประชาชน ยังหน่วยงานบังคับบัญชา ให้แต่งตั้งมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจชุมชนนั้นๆ
ถ้าเป็นลักษณะนี้ประชาชนจะรู้สึกอบอุ่นและจะได้รับประโยชน์โดยตรง ผู้มีอำนาจกล้าทำไหมล่ะ ทั้งหมดนี้เป็นความรู้สึกของตำรวจเก่าเมื่อชีวิตมาถึงโค้งสุดท้าย.