อาการบ้านหมุน
โรคที่เขียนโดยคนป่วยซึ่งไม่ได้เป็นหมอแต่ต้องวิ่งหาหมอเพราะอยากให้หายป่วย หมอที่รักษาโรคนี้ถามแล้วยังไม่เคยป่วยเหมือนกัน แต่หมอรู้จากศึกษา รู้จากการรักษาคนอื่น เมื่อนำความรู้จากหมอและจากผู้ป่วยผสมผะสานกันผู้อ่านย่อมได้ประโยชน์
อาการบ้านหมุน ทางการแพทย์เรียก เวียนศีรษะ Vertigo เป็นครั้งแรกตกใจทุกคน บางคนเป็นมากบางคนเป็นน้อย บางคนเป็นแล้วหายไปเป็นปีกลับมาเป็นอีก ไม่ถึงตายแต่มันน่ารำคาญ จะว่าไม่อันตรายก็ไม่ถูก ขณะขับขี่ยานพาหนะก็ยังมีโอกาสเป็น ฉะนั้นอย่าไปเหมาว่าคนขับรถแหกโค้งหรือขับข้ามเกาะมาชน จะเป็นพวกเมาแล้วขับหรือหลับในอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ทำให้คิดไกลไปถึงกัปตันเครื่องบินที่กำลังควบคุมเครื่อง ถ้าเป็นอาการนี้ขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น โรคนี้ไม่มีการส่งสัญญาณให้รู้ก่อนล่วงหน้า ตรวจเลือดตรวจร่างกายไม่เจอ นึกจะเป็นก็เป็น เป็นโรคที่ประมาทไม่ได้เพราะเกิดจากหลายสาเหตุ มีทั้งร้ายแรงอาจถึงกับชีวิตและเรื่องจิบจ้อยแค่ทำให้รำคาญ ที่ร้ายแรงก็คือ อาจเกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ เกิดจากมีเนื้องอกในสมอง ที่ไม่ร้ายแรงก็คือ ประสาทการทรงตัวเสื่อมที่เราเรียกกันน้ำในหูไม่เท่ากันหรือหินปูนหูชั้นในหลุด สำหรับผมแค่ประสาทการทรงตัวเสื่อม
อาการ บ้านหมุน ถ้าเป็นมากจะรู้สึกเหมือนกับคนจะสิ้นใจ คนจะตายคงจะรู้สึกแบบเดียวกันนี้ ทุกอย่างมันหมุนเคว้งคว้างไร้ทิศทางอย่างรวดเร็ว ตัวเบาจนทรงตัวไม่อยู่ ตาลาย หูอื้อ การได้ยินเสียงน้อยลง จะเห็นคนอยู่ข้างๆอ้าปากผะงาบๆ แต่ความจริงพวกเขาตะโกนจะช่วยเรา มึนเวียนศีรษะ พูดจาเสียงแผ่ว ผมเป็นครั้งแรกเมื่อประมาณ 5 ปีขณะกำลังเดินหาซื้อผ้าที่ร้านนายจันศูนย์การค้าพาราก้อน รู้สึกตัวเบายืนไม่อยู่ ทรุดนั่งราบกับพื้นโดยอัตโนมัติ ควบคุมอวัยวะอะไรไม่ได้เลย นึกว่าตาย ยังพอมีสติภาวนาอย่าเพิ่งตาย ประมาณ 5 นาทีอาการค่อยลดน้อยลง หูเริ่มได้ยินคนที่มายืนมุงดูถามว่า คุณเป็นไรหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรนอกจากบอกไปว่า ไม่เป็นไร มีคนนำน้ำเย็นมาให้ดื่ม กลับบ้านโดยไม่บอกให้ลูกๆและภรรยาทราบ รุ่งขึ้นไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล พบว่าลิ้นหัวใจรั่วแต่ไม่มาก ตรวจระบบหูและการได้ยินก็ปกติ
เมษาปีนี้เองเกิดอาการบ้านหมุนอีก นึกว่าหายแล้วกลับมาอีกได้ไง คราวนี้เกิดขณะกำลังนอนประมาณ 5 นาทีก็หาย ประมาทไม่ได้แล้ว เข้าตรวจร่างกายครั้งใหญ่ทั้งหัวใจ สมองและน้ำในหู ผลการตรวจปกติอีก ต่อมาอีก 1 เดือนขณะนอนบนเตียงที่บ้านกลางดึก เกิดอาการบ้านหมุนคราวนี้รุนแรงมาก ความรู้สึกขณะเพดานบ้านหมุนเตียงที่นอนอยู่ก็ลอยขึ้น เมื่อลอยขึ้นไปสูงแล้วเตียงก็พลิกคว่ำ ผมต้องหล่นลงมาแน่ๆ เป็นใครๆก็ต้องร้อง ภรรยานอนอยู่ข้างๆตกใจ ครั้งนี้เป็นนานประมาณ 10 นาที พลิกตัวก็เป็น ลุกนั่งก็เป็น เดินจากเตียงจะไปเข้าห้องน้ำหัวทิ่ม รู้สึกว่าชีวิตช่างทุเรศสิ้นดี เช้ารุ่งขึ้นติดต่อเพื่อนที่เป็นหมอ หาผู้เชี่ยวชาญให้หน่อย เบื่อเต็มทีตรวจทีไรก็ปกติ คราวนี้ได้เรื่องเจอหมอหนุ่มๆ ในใจคิดหมอเด็กๆจะรู้เรื่องรึเปล่า ผิดคาด..หมอเก่ง ให้ขึ้นนอนบนเตียงลักษณะพิเศษสามารถลดระดับส่วนศีรษะ ส่วนลำตัวและเท้าได้ หมอให้นอนราบไหล่สองข้างแนบพื้นเตียง บิดศีรษะให้หูด้านขวาแนบที่นอน โอ้โฮห้องหมุนติ้วเลย หมอบอกปล่อยให้หมุนไปจนหายอาการ สักพักหยุดหมุน หมอจับศีรษะบิดจนหูด้านซ้ายแนบที่นอนบ้าง อ้าวหมุนอีกแล้ว ปล่อยให้หมุนไปจนหมดอาการ จับให้นั่งก้มศีรษะ ห้องก็หมุนอีก หมอบอกว่าเป็นอาการของหินปูนชั้นในของหูหลุดและได้จัดท่ากายภาพให้หินปูนกลับเข้าที่แล้ว หมอสั่งให้กลับบ้าน ผมกลับด้วยความงงๆว่าหมอรู้ได้ยังไงว่าหินปูนกลับเข้าที่ แต่สิ่งที่ผมได้จากการพบหมอหนุ่มครั้งนี้คือวิธีการจัดการเมื่อบ้านหมุน ซึ่งผมรู้วิธีเอาชนะโรคนี้ได้ โรคนี้ยังอยู่กับผมตลอดไปและผมก็มีความสุขที่จะอยู่กับมัน
เรียนรู้วิธีที่จะอยู่กับโรคนี้ดีกว่า อาการบ้านหมุนจะเกิดเมื่อมีการเปลี่ยนอริยะบถ แต่ก็ไม่แน่ ขนาดนอนอยู่เฉยไม่ได้เปลี่ยนท่าอะไรเลยก็ยังเป็น สรุปว่าไม่แน่นอน แต่การเปลี่ยนอริยะบถมีโอกาสเกิดอาการมากกว่า
การเปลี่ยนอริยะบถให้ทำช้าๆ จากนั่งเป็นลุกขึ้นยืน ค่อยๆยืนแล้วค้างจังหวะนิดหนึ่ง ไม่มึนศีรษะแล้วค่อยออกเดิน ถ้ามึนจงยืนในท่าที่มั่นคงแล้วนับ 1ถึง 3 หายมึนแล้วออกเดิน ถ้ายังมึนก็จงยืนให้มั่นนับต่อไปไม่เกิน 10 อาการก็จะหาย เหตุผลที่ให้นับเลข เพื่อให้เกิดสติว่าจะต้องทำอะไร และครั้งต่อๆไปเลขที่นับจะสั้นลงๆ
จาก ยืน เดิน นั่ง จะไม่ค่อยเกิดอาการ จะมีอาการเมื่อเข้าสู่ท่านอนและจากนอนเมื่อลุกนั่ง การนอนให้ค่อยๆล้มตัวลงนอน จะนอนตะแคงหรือนอนหงายมีโอกาสบ้านหมุนทั้งสิ้น ไม่ต้องตกใจ เมื่อเกิดอาการหมุนให้บิดศีรษะครั้งละ60องศา ประมาณ 5-6 นาทีก็จะหยุด ลองนอนหงายศีรษะตรงบ้าง ถ้ามีอาการหมุนก็ปล่อยให้หมุนจนหมดอาการ ตะแคงศีรษะซ้ายขวาสลับกัน อาการจะหายไปเอง แต่ถ้ารำคาญ เมื่อล้มตัวลงนอนในท่าใดแล้วเกิดอาการ ให้รีบบิดศีรษะเปลี่ยนทิทางทันที อาการจะหยุด สมมุติว่านอนตะแคงขวาเกิดหมุน ให้รีบหมุนศีรษะเป็นนอนหงาย ถ้านอนหงายยังมีอาการก็หมุนศีรษะตะแคงซ้าย แค่สามท่านี้รับรองว่าหยุดหมุน อธิบายง่ายๆคือเป็นการปรับระดับน้ำและหินปูนในหู ส่วนเวลาลุกจากที่นอนให้นั่งก่อนแล้วนับ 1 ถึง 3 ถ้าไม่มีอาการหมุนแล้วลุกขึ้นยืน ถ้ามีอาการหมุนให้นั่งก้มหน้าสักพักจะหายแล้วจึงค่อยๆยืน ไม่มีอาการก็ก้าวเดิน ถ้ามีอาการก็ยืนให้มั่นคงจนหายหมุน ถ้าไม่หายก็อย่าเดินมันเลย นอนต่อ สักพักค่อยเริ่มต้นนั่ง, ยืน, เดินใหม่อีกครั้ง แล้วท่านจะอยู่กับโรคนี้ได้อย่างมีความสุข.