บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง
"ประสบการณ์คับด้ามปืน ของยอดนักสืบผู้การเอลวิส"
ฆ่าหั่นศพภาค2







คราวนี้มาถึงคดีที่หน่วยงานของผมพิชิตคดีฆ่าหั่นศพซึ่งผมได้บอกไปแล้วว่าคดีเกิดขึ้น 4 สามารถสืบสวนจับกุมคนร้ายได้ 2 สืบไม่ออกไม่ทราบคนตายเป็นใคร จับตัวคนร้ายไม่ได้ 2 คดี เรียกว่าคลี่คลายได้ 50%
คดีหั่นที่ 1 พบชิ้นส่วนศพชายในกระเป๋าเดินทางยี่ห้อฟิลล่าขนาดใหญ่สีน้ำเงิน 2 ใบ ถูกนำไปทิ้งไว้ใต้สะพานข้ามคลองบ้านม้า ท้องที่ สน.หัวหมาก เดชะบุญที่ใต้สะพานข้ามคลองใน กทม.จะมีมนุษย์ใต้สะพานอาศัยอยู่ ในคืนที่คนร้ายเอาศพไปทิ้งทำให้มนุษย์ใต้สะพานต้องสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะเสียงทิ้งของหนักๆดัง 2 ตุ๊บ แต่ก็ไม่ได้ตื่นมาดูทันทีเพราะยังไงก็คิดว่าเป็นของตายเช้าค่อยไปดูก็ได้ อีกประการหนึ่งคนชอบนำขยะทิ้งลักษณะเช่นนี้เป็นประจำ พอตอนเช้ามนุษย์ใต้สะพานไปเปิดกระเป๋าดูก็ต้องผงะเพราะเป็นชิ้นส่วนศพท่อนบนและท่อนล่าง ไม่มีหัวแขนขา ผมและผู้ใต้บังคับบัญชาต้องรีบไปดูชิ้นส่วนศพตามระเบียบ
สิ่งที่ตรวจพบในสถานที่พบศพ
1.กระเป๋าที่ใส่ศพ ยี่ห้อฟิลล่าสีน้ำเงิน 2 ใบ สภาพใหม่เอี่ยม ป้ายยี่ห้อและราคายังติดอยู่ (เข้าหลักทฤษฏี อาชญากรรมย่อมทิ้งร่องรอยเสมอ)
2.รอยหั่นศพ ดูจากรอยเนื้อที่ถูกตัดและรอยตัดที่กระดูกไม่เรียบ เป็นบั้งๆแบบใช้มีดเฉาะ การตัดศพไม่ใช่คนมีประสบการณ์ ไม่ใช่ฝีมือหมอแน่นอน
3.ชิ้นส่วนศพบอกให้ทราบเป็นชายร่างใหญ่ ผิวขาว มีขนยาวที่หน้าอกและตามตัวจำนวนมาก ขนออกสีทองน้ำตาล
4.อวัยวะเพศตัดขลิบเรียบร้อย โดยเฉพาะทวารหนักเบิกกว้าง มีร่องรอยของการถูกสัมผัสมากผิดปกติจากมนุษย์ธรรมดา
จากข้อมูลที่ตรวจพบจากที่เกิดเหตุพอประมวลได้ว่า ผู้ตายต้องเป็นฝรั่ง (ชาวต่างประเทศ อเมริกันหรือยุโรป) ร่างสูงใหญ่และชอบไม้ป่าเดียวกัน (ร่วมเพศทางทวารหนักโดยเป็นฝ่ายถูกกระทำ) พวกตุ๊ดหรือกระเทย การหั่นศพใช้มีด ส่วนกระเป๋าใส่ศพที่เป็นกระเป๋าเดินทางยี่ห้อ ฟิลล่าซื้อใหม่ป้ายยี่ห้อและราคายังติดอยู่
หนังสือพิมพ์ลงข่าวคดีเรื่องนี้ ภายในวันเดียวกันนั้นก็ทราบทันทีว่าผู้ตายเป็นชาวอังกฤษ เป็นหุ้นส่วนโรงแรมแห่งหนึ่งย่านหัวหมากซึ่งหายตัวไป ถึงแม้จะไม่มีใบหน้าให้ดูเพียงแค่ดูชิ้นส่วนศพที่พบก็พออุปมานได้ว่าเป็นชาวอังกฤษผู้นั้นจริงๆ เมื่อรู้ว่าผู้ตายเป็นใครข้อมูลอื่นก็ออกมาพรั่งพรู คือรู้ว่าผู้ตายเป็นเกย์ควีนส์ ชอบหนุ่มๆ รู้ที่พักว่าอยู่อพาร์ทเม้นท์แถวๆหัวหมาก ไปสอบถามที่อพาร์ทเม้นท์ดังกล่าวก็ทราบว่าครั้งสุดท้ายเห็นผู้ตายนั่งทานอาหารอยู่กับหนุ่ม 2 คน เป็นลูกครึ่งไทยอเมริกันกับชาวมิดเดิลอีสต์ จากการค้นห้องพัก (ตามข้อสังเกตที่ให้ไว้ตอนต้นคือใช้น้ำประปาเยอะผิดปกติ ผู้พักข้างห้องบอกว่าได้ยินเสียงเปิดน้ำฝักบัวทั้งคืน) พบว่ามีมีดนานาชนิดรวม 11 เล่ม ค้อน 1 อัน คราบเลือดจำนวนมากที่ในห้อง จากการสืบหาที่ขายกระเป๋า ก็พบร้านที่จำหน่ายซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ามีชื่อในท้องที่หัวหมาก อยู่ใกล้เคียงกับสถานที่ฆ่า ผู้ขายกระเป๋าจำรูปพรรณคนซื้อได้ จึงได้ทำการสะเกตภาพผู้ต้องสงสัย ในวันต่อมาก็จับกุมชายคนซื้อกระเป๋าได้ สอบสวนรับว่าเป็นผู้สมรู้ในการเคลื่อนย้ายศพ โดยเป็นผู้จัดหากระเป๋าใส่ศพแล้วเอาไปทิ้ง ส่วนผู้ฆ่าเป็นลูกครึ่งไทยอเมริกัน มีชื่อและถิ่นที่อยู่ชัดเจน Long island อเมริกา หนีไปเรียบร้อยแล้ว คดีนี้ยกเครดิตให้กับ “สืบสวนนครบาล4”
*เห็นไหม บอกแต่ภาค 1 แล้วว่า คดีฆ่าหั่นศพบางคดีก็ง่าย บางคดีก็ยาก ถ้าเข้าใจพื้นฐานของคดีแล้วสืบไม่ยาก สนุก ลับสมอง
คดีหั่นที่ 2 ศพหญิงห่อถุงพลาสติกสีดำขนาดใหญ่หลายใบถูกนำไปทิ้งไว้ที่ถังขยะริมถนนพัฒนาการ ท้องที่ สน.ประเวศ เป็นถังขยะของอู่ซ่อมเครื่องยนต์รถยนต์อยู่ใกล้สะพานข้ามคลองประเวศบุรีรมย์ ถังขยะดังกล่าวเด็กอู่ได้ยกมาตั้งที่ถนนหน้าอู่ในตอนเย็นเลิกงานเพื่อให้รถขนขยะของ กทม.มาเก็บในตอนกลางคืน ตอนเช้าของวันพบศพ เด็กอู่มาเอาถังขยะเข้าไปเก็บในอู่อย่างเช่นเคยปฏิบัติ รู้สึกเอะใจว่าเหตุใดรถขนขยะซึ่งเคยมาเก็บขยะตอนตี 4 ไม่ทำหน้าที่ กลับพบว่าขยะเพิ่มเต็มถัง เมื่อเอาไม้ทิ่มไปที่ถุงดำในถังขยะพบว่าหยุ่นๆ แสดงว่ามันไม่ใช่ขยะของทางอู่ซึ่งมีแต่ของแข็งๆ พลันฉีกถุงดำออกดูแล้วก็ต้องผงะ เพราะเป็นชิ้นส่วนมนุษย์ ผมต้องรีบไปดูศพตามระเบียบอีก คราวนี้เป็นชิ้นส่วนศพผู้หญิงท่อนบนกับท่อนล่าง ไม่มีศีรษะแขนและขา
ชิ้นส่วนศพที่พบบอกอะไรหลายอย่าง
1.ท่อนล่างของศพจากใต้เอวบริเวณท้องน้อยมีรอยเย็บอันเกิดจากการผ่าตัดที่ช่องท้อง เป็นทางยาวในแนวตั้ง คือผ่าลงจากแนวศีรษะลงไปทางปลายเท้า แนวยาวประมาณ 1 คืบ สอบถามผู้รู้ให้ความเห็นว่า ไม่ใช่ฝีมือศัลยกรรมของแพทย์เมืองไทย เพราะเมืองไทยผ่าตัดในแนวนอน คือขวางลำตัว ผู้รู้ให้ความเห็นว่าวิธีนี้เป็นการผ่าตัดของการแพทย์ที่ไม่ใช่สมัยใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นวิธีการของทางจีนแผ่นดินใหญ่
2.ตรวจที่อวัยวะเพศ โดยความร่วมมือจากแพทย์ผู้ชันสูตร พบว่าอวัยวะเพศของผู้ตายผ่านการร่วมเพศมามาก น่าจะเป็นหญิงขายบริการ ดูที่นมก็พบว่าตกแต่งทำมาให้ดูดีกว่าปกติ ขนในที่ลับก็ตัดแต่ง แน่ใจทันทีว่าเป็นหญิงขายบริการทางเพศแน่ ผิวขาวเกลี้ยงเกลา น่าจะเป็นหญิงจีนที่เข้ามาหากินในเมืองไทย
3.ตำรวจลูกน้องผมคนหนึ่งเอาถุงดำที่ใส่ศพไปตรวจ พบชิ้นส่วนของกล่องใส่แปรงสีฟันยี่ห้อ NINE TWIN ACTION อยู่ที่ก้นถุงแล้วเก็บเอามาเป็นหลักฐาน ชั้นแรกยังนึกกันไม่ออกว่าเจ้าเศษกล่องแปรงสีฟันจะช่วยคลี่คลายคดีได้อย่างไร ลูกน้องผมคนนี้เก่งจริง (ขอโทษที่จำชื่อเค้าไม่ได้แต่ผมยอมนับถือว่าฝีมือระดับปรมาจารย์) จากเศษกล่องแปรงสีฟันสามารถเชื่อมโยงไปหาสถานที่ฆ่ารายนี้ได้ นับว่ามีส่วนช่วยในการคลี่คลายคดีเป็นอย่างยิ่ง โดยจากข้อมูลที่ผมได้ให้ไว้แล้วในภาค 1 ว่า คนร้ายจะใช้แปรงสีฟันในการขัดถูลบรอยเลือดตามซอกเล็กซอกน้อยแม้กระทั่งซอกเล็บเพื่อลบร่องรอย พอดีกับแปรงยี่ห้อนี้ทำในประเทศไทย จึงได้ระดมกำลังสืบหาแหล่งผลิต ไม่ช้าก็ทราบว่าอยู่แถวๆถนนเทพารักษ์ สมุทรปราการ ไปถามที่โรงงานว่าส่งไปจำหน่ายที่ใดบ้าง ได้คำตอบว่าไม่ได้ส่งขายตามท้องตลาด แต่มีโรงแรมและอพาร์ทเม้นท์ที่มีบริการให้เช่าห้องรายวันซื้อเหมาไปให้กับลูกค้าที่มาพักเป็นของแถม พอได้ชื่อโรงแรมและอพาร์ทเม้นท์มาก็ระดมหาข้อมูลตามโรงแรมและอพาร์ทเม้นท์เหล่านั้น แต่ก็มีหลายแห่งด้วยกันจึงต้องเสียเวลา อย่างไรก็ตามเรื่องของกล่องแปรงก็เป็นข้อมูลช่วยให้การค้นหาเป้าหมายแคบเข้า
4.จากทฤษฎีพื้นฐานของการฆ่าบนตึกสูงและจากจุดที่พบชิ้นส่วนศพ สามารถคาดคะเนว่าจุดที่ฆ่าน่าจะเป็นแถวตึกสูงแถวต้นๆถนนพัฒนาการ ทีมนักสืบก็ได้ออกสอบถามบรรดาอพาร์ทเม้นท์แถวถนนพัฒนาการที่มีแปรงยี่ห้อ NINE TWIN ACTION ไว้บริการลูกค้า ก็พบอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งอยู่แถวถนนพัฒนาการ สอบถามหาว่ามีผู้หญิงจีนสาวผิวขาวซึ่งพักอยู่บ้างหรือไม่ พบว่ามีพักอยู่จริงๆ และ 2-3 วันก่อนที่นักสืบจะมาถามเธอได้หายตัวไป ตรวจดูมิเตอร์น้ำห้องพักของเธอปรากฏว่ามีการใช้น้ำผิดปกติ มิเตอร์ขึ้นสูง จึงขอดูในห้องพักพบว่ามีร่องรอยคราบโลหิต ทำให้ทราบได้ว่าห้องดังกล่าวน่าจะเป็นห้องที่เกิดเหตุฆ่า แต่ใครเป็นคนฆ่าต้องสืบหาต่อไป
อย่างที่ผมบอกแล้วว่า เมื่อทราบว่าผู้ตายเป็นใครเท่ากับสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ผลการสอบสวนทราบว่าหญิงผู้ตายเป็นนักร้องจีนที่คาราโอเกะแถวท้องที่ สน.วังทองหลาง เมื่อตามไปยังสถานที่ทำงานก็ทราบทันทีว่าชื่อ-นามสกุลใด ข้อสันนิษฐานตอนต้นถูกเผงที่วิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นหญิงมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ มีสามีและลูกแล้ว การผ่าตัดที่ท้องเพื่อทำคลอดทำในประเทศจีนตรงตามผู้รู้ให้ความเห็น เธอผ่าตัดทำ Repair อย่างดี ความยากจนทำให้เธอมาขุดทองเมืองไทย ผลปรากฏว่าทำเงินดี ลูกค้าติดเยอะ ไม่ยอมกลับบ้านที่เมืองจีน ผัวมาตามเกิดทะเลาะกันที่ๆทำงาน เพื่อนๆที่ทำงานของหญิงรู้เห็น สันนิษฐานว่าอาจตามไปทะเลาะกันที่ห้องพักของฝ่ายหญิงที่ถนนพัฒนาการอีกแล้วฝ่ายหญิงเกิดเสียชีวิต จึงต้องมีการหั่นศพเพื่อสะดวกในการขนย้ายไปทิ้ง ในที่สุดก็สามารถจับตัวสามีของหญิงผู้ตายนี้ได้
เป็นที่น่าเสียดาย สืบกันแทบแย่ เหนื่อยกันทั้งกองฯกว่าจะได้ร่องรอยหลักฐานและจับกุมผู้ต้องหาได้ ชั้นสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพแต่ปฏิเสธสู้คดีในชั้นศาล สู้คดีกันเป็นปี ที่สุดศาลพิพากษายกฟ้อง ความเห็นของศาลเป็นอย่างไร ทัศนาได้ตามที่ น.ส.พ.ไทยรัฐเสนอข่าว
คดีหั่นที่ 3 เป็นหญิง ชิ้นส่วนถูกหั่นใส่ถุงดำไปทิ้งไว้ในป่าห่างจากถนนศรีนครินทร์ประมาณ 50 เมตร อยู่ในท้องที่ สน.ประเวศ บริเวณที่ทิ้งศพไม่มีบ้านเรือนหรืออาคารร้านค้า ต่อมาเกิดไฟไหม้ป่าละเมาะตรงที่ทิ้งศพ (ผมว่าคนร้ายที่ทิ้งศพ อาจจะกลับมาเผาป่าละเมาะบริเวณนั้น เพื่อทำลายศพก็ได้) ผลทำให้กลิ่นศพเน่าจางไปมีแต่กลิ่นควันไฟ แต่เจ้ากรรมพวกรถซาเล้งเก็บของตามกองขยะดันไปคุ้ยเขี่ย เจอเศษศพเข้าจนได้ คราวนี้มึนตึบเพราะศพไหม้ดำเป็นตอตะโกพอให้เหลือร่องรอยชิ้นส่วนที่มีอวัยวะเพศให้ดูจึงรู้ว่าเป็นหญิง อย่างอื่นจะอาศัยเป็นประโยชน์ในการสืบสวนไม่ได้เลย เรียกว่าร่องรอยข้อมูลน้อยกว่าคดีอื่นๆ จนป่านนี้ยังไม่รู้ว่าผู้ตายเป็นใครเลย แล้วจะรู้ว่าใครเป็นคนร้ายได้ยังไง จึงเป็นคดีที่มืดมน
*คดีนี้จึงถือว่ายาก มีแต่ก้อนเนื้อบริเวณเชิงกรานซึ่งไหม้เกรียม เพียงแต่รู้ว่าเป็นหญิง คดีนี้มัน 10 ปีกว่าแล้ว ยังไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามถนน ถ้าเป็นปัจจุบันน่าจะสืบออกเพราะเดี๋ยวนี้ตำรวจเก่งและตัวช่วยก็มาก
คดีหั่นที่ 4 เป็นศพหญิงใส่ถุงพลาสติกดำ ถูกนำมาทิ้งรวมอยู่กับกองขยะกองใหญ่ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสถานบริการอาบอบนวดชื่อดัง ถนนพระราม 9 ท้องที่ สน.วังทองหลาง ในสมัยนั้นรอบๆสถานอาบอบนวดแห่งนี้เป็นที่ว่าง เต็มไปด้วยขยะ กองเป็นภูเขา ปัจจุบันโล่งเตียนไปหมดแล้ว ระวังนะใกล้บ้านใครมีกองขยะถาวรอยู่พวกฆ่าหั่นศพจะเอาศพไปทิ้งเพราะกองขยะมันจะกองเรียงรายเกะกะเต็มไปด้วยถุงดำดูไม่ผิดปกติ โดยเฉพาะกลิ่นเหม็นเน่าศพกับกลิ่นเหม็นขยะคล้ายๆกัน กองขยะมักจะมีศพแมวศพหมาทิ้งปนอยู่ด้วย ศพรายนี้เน่าอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ ชิ้นส่วนศพถูกค้นพบโดยพวกซาเล้งอีก นักคุ้ยเขี่ยขุดหาขุมทองจากขยะ นัยว่ามีซาเล้งหลายเจ้า พอคุ้ยเจอแล้วรีบเผ่นไม่แจ้งตำรวจ รายสุดท้ายมีความเป็นพลเมืองดีอยู่บ้างจึงไปแจ้ง แต่ก็สายไปหน่อย หนอนขึ้นเฟะ หนอนตัวอ้วนใหญ่ด้วย ผมว่าต้องเกิน 7 วันแน่ ลูกกะตาโบ๋หมดแล้ว ร่องรอยที่จะดูจากอวัยวะเพศดูไม่ไหว อ้วกแตกไปหลายครั้ง รู้แต่ว่าเป็นเพศหญิง จากการวิเคราะห์ของทีมสืบสวนลูกน้องผมสรุปว่า คนร้ายน่าจะเคยเที่ยวสถานอบนวดย่านนั้นจึงรู้ว่ามีกองขยะถาวรกองใหญ่ นำชิ้นส่วนมากับรถยนต์ใช้เส้นทางด่วนลงพระราม 9 นำมาทิ้งที่กองขยะนี้ คนในละแวกที่พบชิ้นส่วนคงจะไม่ใช้จุดนี้เพราะอยู่ใกล้กับถนนมียวดยานผ่าน ฉะนั้นจุดเกิดเหตุฆ่ามาได้ทั่วกรุงเทพ อาจจะเป็นแถวฝั่งธนบุรี หรือที่ใดก็ได้ ทางด่วนมันถึงกันหมด เรียกว่าเปิดช่องงดการสืบสวนไว้ก่อนเลย การตั้งสมมุติฐานอาจถูกหรือผิดก็ได้ แต่ที่แน่ๆผมกับหมอก็ขย้อนกันไปหลายที คดีนี้ปิดลงในเวลารวดเร็ว คือไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร และไม่ทราบคนร้าย
ข้อดีข้อเสียจากเรื่องนี้ มีหลายด้านแล้วแต่มุมมองและความคิด พวกที่เป็นนักสืบอาจได้ประสบการณ์เพิ่ม พวกที่อยากจะฆ่าคนก็จะได้รอบคอบ ปัจจุบันใครยังกล้าทำคุก100 % กล้องวงจรปิดยังกับตาสัปรด สำหรับชาวบ้านทั่วๆไปคงไม่อยากให้มีกองขยะใหญ่ๆแบบถาวรอยู่ใกล้บ้านแน่ๆ.



"คุณอังกูรเล่นหนังด้วยหรอ?"
"โห...ประกบคู่กับพี่เอกสรพงษ์ด้วย"
"คลาสสิคสุดๆ...อยากดูเต็มๆจัง"
และอีกมากมายสำหรับเสียงตอบรับ เนื่องจากล่าสุดทีมงานทำ VDO "เปิดปูมฮีโร่" มาให้ได้ชมกัน วันนี้ทีมงานจีงขอสมนาคุณแฟนๆ ตามเสียงเรียกร้องครับ เราใช้เวลาตามหาภาพยนตร์สุดคลาสสิคเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงมือแฟนๆ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ...

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์)

ตอน 1ตอน 2ตอน 3
ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 1 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 2 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 3
ติดตามกันมานาน
จนเป็นแฟนประจำกันก็มาก...
แต่หลายๆท่านคงยังอยากรู้จักคุณอังกูร (007) ในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกลงไป
ถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาเป็นฮีโร่ของเรา
ในวันนี้ เราจึงไม่รอช้าจัดเป็น VDO
ให้ชมกันอย่างจุใจ

(คลิ๊กที่ รูปเพื่อดูวีดีโอ)

พลังสกาล่าร์ ร้องทุกข์ที่นี้
จำนวนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์