บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง
"ประสบการณ์คับด้ามปืน ของยอดนักสืบผู้การเอลวิส"
เรื่องที่สถาบันไม่ได้สอน
หน้าหลัก ›› บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง ›› เรื่องที่สถาบันไม่ได้สอน




30 กันยายน วันสุดท้ายของข้าราชการ ยศตำแหน่งคือหัวโขนถูกถอด เข้าสู่การเป็นประชาคนเดินดินธรรมดา เก่งและดีอย่างไร 60 เค้าก็ไม่เอาไว้ คนรุ่นใหม่ไล่ขึ้นมา อย่าได้ห่วงเรื่องงานคนมาใหม่อาจจะทำได้ดีกว่า หันมาใส่ใจกับชีวิตหลังเกษียณ เป็นการเริ่มต้นชีวิตจริง ชีวิตที่ต้องยืนบนขาตนเองไม่มีตัวช่วย เตรียมสู้กับความเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อเข้าสู่วัยทอง ความจริงก็คือเข้าสู่วัยชราหรือแก่ สุขภาพดีอย่างไรเมื่อถึงเวลาก็ต้องป่วยต้องตาย แต่ก่อนตายขอให้ได้ใช้ชีวิตอยู่แบบมีคุณภาพ โรงพยาบาลจะเป็นสถานที่สะท้อนให้เห็นภาพ อดีตมือปราบมากมายปัจจุบันเดินได้ก้าวสั้นๆก็ถือว่าดีแล้ว บางคนต้องจูงต้องประคอง บ้างต้องนั่งรถเข็น เป็นสัจธรรมหนีมันไม่พ้น ต่อไปชีวิตจะวัดกันที่สุขภาพ โปรดเตรียมตัว

เรื่องการใช้ชีวิตหลังเกษียณสถาบันโรงเรียนนายร้อย สถาบันกฏหมายไม่ได้สอน ต้องศึกษาค้นหาเอาเอง การเข้าสู่วัยทองเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งที่สำคัญที่สุดของชีวิต ผู้ไม่ได้อยู่ในวงราชการจะไม่ค่อยรู้สึก สำหรับผู้ที่รับราชการถ้าไม่เตรียมรับมือให้ดีอาจเสียศูนย์ วันแรกที่เกษียณแตกต่างกับชีวิตในราชการสิ้นเชิง ยศตำแหน่งสุดท้ายเอาไว้พิมพ์บนนามบัตรอวดคน บริวารที่เคยห้อมล้อมจะหาย ชีวิตเข้าสู่ความเป็นจริง หน่วยราชการบางหน่วยให้ข้าราชการที่จะเกษียณอายุมีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจ ๑ ปี ให้ไปเที่ยว พักผ่อน ละวางจากหน้าที่การงานเพื่อปรับสภาพจิตใจ แต่สำหรับผมลุยงานจนถึงวินาทีสุดท้าย เตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนแล้วก็ยังไม่พ้นโดนหางเลข

ประการแรก รู้สึกเหมือนตัวเราไร้ค่าเพราะไปเทียบกับก่อนเกษียณที่ถูกห้อมล้อมป้อยอจากคนที่หวังประโยชน์ พูดมีคนฟัง สั่งมีคนทำ เกษียณแล้วไม่มีใครฟัง สั่งใครไม่ได้ ใจหายที่ถูกโดดเดี่ยว เพื่อนที่ดีที่สุดคนเดียวคือคู่สมรส ลูกๆเค้าก็ไปมีครอบครัวมีภาระมากกว่าที่จะคอยสนใจเรา

ประการที่ ๒ ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนซึ่งเป็นเรื่องของธรรมชาติ ทั้งหญิงและชายเมื่อเข้าสู่"วัยทอง" ต่อมต่างๆในร่างกายหยุดผลิตฮอร์โมนทำให้ร่างกายทรุดโทรม ผิวหนังเหี่ยวย่น อารมณ์หงุดหงิด นอนไม่หลับ ถ้าไม่ศึกษาหาความรู้มาก่อนเดี๋ยวก็พาลมีเรื่องกับคนใกล้ตัวเพราะความไม่เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลง

ประการที่ ๓ ความเจ็บป่วย พิกลพิการ เริ่มมาเยือน คุณจะเคยเป็นนักกีฬา จะแข็งแรงอย่างไรไม่มีข้อยกเว้น เหมือนกับรถยนต์เก่าถึงแม้จะไม่ค่อยได้ใช้งานพอถึงเวลาเครื่องมันก็พัง จะดูแลรักษาสุขภาพอย่างดีก็มีอันเป็นไปได้ ตัวอย่างดาราสาวสวยในอดีต ก่อนเคยสวยหยาดเยิ้มแต่พออายุ ๘๐ เค้าความสวยไม่เหลือ นี่แหละสัจจะธรรม บางคนอยู่ดีๆเกิดเดินไม่ได้ขึ้นมาเฉยๆ บางคนหูตาฝ้าฟางมองไม่เห็น ไม่ได้ยินเสียงพูด อยู่ดีๆเกิดพูดไม่ได้ เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต อาจจะพิการหรือจบชีวิตไม่วันนี้ก็วันหน้า หลายคนจึงมุ่งเข้าวัด

ประการที่ ๔ ชีวิตมีแต่เพื่อนตาย เพื่อนกินเพื่อนเที่ยวไม่มี แต่ละเดือนจะได้รับข่าวเพื่อนคนโน้นเพื่อนคนนี้มีอันเป็นไป ชวนใครไปกินข้าวกลายเป็นเรื่องใหญ่ หาเพื่อนกินไม่ได้ ผู้สูงวัยไม่ค่อยอยากจะออกจากบ้านไปไหน

เรื่องเหล่านี้มันเกาะกินเข้าไปในหัวใจ ทำให้เกิดโรคชนิดหนึ่งที่เรียกว่า"โรคซึมเศร้า" อย่าคิดว่าไม่สำคัญ วัยหนุ่มสาวคนทำงานก็เป็น สุดท้ายของโรคนี้นำไปสู่การคิดสั้น อย่าคิดว่าตัวท่านไม่ได้เป็น ลองทบทวน ชอบอยู่คนเดียว ไม่สังคม ไม่สนใจตัวเองปล่อยโทรม ไม่แต่งตัว เบื่อโลก เบื่อที่จะทำงาน เบื่อคนใกล้ๆตัว หงุดหงิดเป็นประจำ เห็นอะไรขวางหูขวางตาไปหมด ไม่ค่อยสังสรรค์กับเพื่อนๆ คิดว่าตัวเองไร้ประโยชน์ ชอบเก็บตัว ดูทีวีอยู่แต่ในบ้าน ดนตรีไม่เคยฟัง หนังไม่เคยดู เพลงไม่เคยร้อง ฯลฯ ล้วนแต่เป็นชนวนไปสู่ซึมเศร้า รู้แล้วรีบแก้ ถึงไม่ตายก็จะดูแก่เกินวัย

ทำยังไงถึงจะหนีให้พ้นการซึมเศร้า ไม่ยาก อันแรกต้องทำใจให้ได้เสียก่อนว่า "เป็นสัจจะธรรม" ทุกคนเกิดมาต้องตาย จงเตรียมตัวตายและฝึกการตายเสียก่อน ทบทวนว่าตัวท่านพร้อมที่จะตายหรือยัง ห่วงอะไรอยู่ก็รีบจัดการให้เรียบร้อย เอาให้ถึงขนาดพร้อมที่จะเข้าสู่ความตายได้ทันที เท่านี้ท่านก็หลุดพ้นแล้ว พร้อมเสมอที่จะเผชิญกับความตาย จะไม่กลัวอะไรอีกต่อไปเพราะท่านพร้อมแล้ว สลัดความเศร้าหมองความซึมเศร้าออกไป ใช้ชีวิตบั้นปลายให้คุ้มค่าอย่างมีสติรอบคอบ (เป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำได้ยาก แต่ท่านต้องทำให้ได้เพราะเป็นเรื่องที่จะต้องเจอจริงๆ ไม่ช้าก็เร็ว)

การดูแลตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ

1.รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ไม่ใช่รับประทานแต่ของอร่อยถูกปาก ต้องรู้ว่าอะไรควรทานอะไรไม่ควรทาน อย่าตามใจปาก ลดปริมาณอาหารลง มื้อหนึ่งแค่กำปั้นตัวเองพอแล้ว ทานอาหารได้ถูกต้องครบหมู่รับรองว่าไม่ต้องไปพึ่งพาอาหารเสริม (ปรึกษานักโภชนาการบำบัด)
2.ออกกำลังกายให้เหมาะสมกับวัยโดยเฉพาะกายบริหารเพื่อความยืดหยุ่น ควรทำทุกวันในตอนเช้าเมื่อตื่นนอน เรียกว่ายืดเส้นยืดสาย มิฉะนั้นแล้วเส้นจะยึด อาจพิการได้ ควรเดินในตอนเช้าเพื่อรับแสงแดด แสงแดดยามเช้ามีประโยชน์ต่อผิวหนัง เพิ่มวิตามินดี วิตามินอี ไม่ควรออกกำลังกายโดยการวิ่งเพราะอาจเป็นอันตรายต่อข้อเข่าและอาจหัวใจวายเฉียบพลันได้ เรื่องออกกำลังกายนี่สำคัญ ต้องทำสม่ำเสมอ (ผลจากออกกำลังกายจะทำให้พักผ่อนนอนหลับสบาย) *ตัวช่วยในการออกกำลังกายมีมากมาย ค้นหาได้จาก Google ที่ผมใช้อยู่เป็นประจำคือ "เก้าอี้มหัศจรรย์ของคุณแสวง บุญชัยเดช" ถ้าไม่มีเรี่ยวแรงที่จะออกกำลัง แค่เพียงกำมือทั้งสองข้างแล้วปล่อย (กำแบๆ) ก็ใช้ได้ ส่วนการออกกำลังส่วนเท้า นอนเหยียดเท้า โน้มปลายเท้าเข้าหาตัวแล้วเหยียดปลายเท้าออก ทำสลับกันไปมา ก็ได้
3.เรื่องนอนไม่หลับเป็นเรื่องคู่กันกับสูงวัย ถ้าได้ออกกำลังกายถึงขั้นก็สามารถช่วยให้หลับไป แต่ถ้ายังนอนไม่หลับมีตัวช่วย (1) Melatonin อาหารเสริมจากอเมริกา ช่วยให้หลับ หาซื้อได้จาก Lazada (2) Valdoxan 25 mg (ยาคลายวิตกกังวล คลายซึมเศร้า ช่วยให้นอนหลับ) (3) ถ้ายังไม่หลับอีก พบหมอจิตเวช (ผมพบประจำ) หมอจะจ่ายยานอนหลับให้ ที่ผมทานอยู่คือ Lorazepam ทานตั้งแต่ 0.5 เดี๋ยวนี้เป็น 1 mg สองเม็ดแล้ว (เป็นเรื่องปกติธรรมดา เมื่อนอนไม่หลับก็ต้องทานยานอนหลับ)

ประการสุดท้าย เรื่องของอารมณ์ต้องอย่าให้เครียด วิธีที่จะไม่ให้เครียดง่ายๆครับ หาทางหัวเราะให้ได้สักวันละ ๑๐-๒๐ ครั้ง ต้องเป็นการหัวเราะจากอารมณ์ไม่ใช่แค่นหัวเราะ เวลาหัวเราะร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุข ทำให้ไม่แก่และอายุจะยืน อยู่ดีๆจะหัวเราะได้อย่างไร ก็ต้องดูหนังดูทีวีรายการตลกมีให้เลือกเยอะหรือไปฟังคนเล่าเรื่องตลก (คนเล่าเรื่องโจ๊กเก่งๆได้ดิบได้ดีไปหลายคน ไปไหนๆเพื่อนๆก็ชอบและมักจะถูกเรียกให้ไปเล่าเรื่องตลกอยู่เสมอ ก็เพราะคนอื่นๆอยากจะหัวเราะ)

อีกเรื่องที่ทำให้อารมณ์ดีไม่เครียดคือ "การร้องเพลง" ร้องดีไม่ดีก็ร้องเข้าไปเถอะ ร้องอยู่ที่บ้านไม่ไปรำคาญหูใคร เครื่องคาราโอเกะมีขายมากมายราคาไม่แพง การร้องเพลงทำให้ผ่อนคลาย เยือกเย็น อารมณ์ดี คนที่หงุดหงิดหรือมีอารมณ์โกรธจะร้องเพลงไม่ได้ การร้องเพลงยังช่วยฝึกสมอง ต้องจดจำเนื้อเพลง ต้องศึกษาทำนอง เข้าจังหวะให้ถูกต้อง นอกจากเพลิดเพลินยังลดความดันในหลอดเลือดด้วยและทำให้ห่างไกลจากโรค "อัลไซม์เมอร์"

ทิ้งท้ายอีกเรื่อง อย่า"ปล่อยตัว"เด็ดขาด ดูแลตัวเองอย่าให้อ้วน อย่าให้มีหน้าท้อง ระวังเรื่องการรับประทานอาหาร ลดอาหารจำพวกแป้ง ทานปลา,ผักและผลไม้ให้มากและควบคุมปริมาณ (มื้อหนึ่งแค่กำปั้นตัวเองพอ) ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ครีมบำรุงผิวต้องใช้บ้าง ไม่ต้องใช้มากแบบผู้หญิง ผิวหนังผู้หญิงกับผู้ชายมันก็เหมือนกัน จะใช้แบบไหนก็ลองปรึกษาภรรยาดู สำคัญอย่าปล่อยให้หัวล้าน (จะเสียความมั่นใจ) ผู้ชายกลัวอยู่สองเรื่อง 1.Sex เสื่อม 2.หัวล้าน
เรื่อง Sex มียากระตุ้นเยอะแต่ระวังให้ดีมันมีผลต่อหัวใจ เพื่อนผมทาน VIGRA เข้าไปตาเกือบบอดเพราะยาตัวนี้ขยายหลอดเลือด ที่นัยน์ตามีเส้นเลือดฝอยเล็กๆจำนวนมากถูกขยายไปด้วย เส้นเลือดฝอยที่ลูกนัยตาแตก (สนใจก็สืบเสาะกันเอาเองนะครับ)
เรื่องหัวล้านนี่ก็เรื่องใหญ่ ตอนเกษียณไปได้สัก 6 เดือนเส้นผมบนศีรษะร่วงจนแทบจะนับเส้นที่เหลือได้ ต้องขอบคุณหมออู๊ดนพศักดิ์ฯ รพ.ตร.ที่ช่วยไว้ ปัจจุบันเส้นผมบนศีรษะของผมยังดีอยู่ ทาน Biotin กับ Zinc เป็นประจำ ตัวที่เป็นพระเอกคือ*Minodil-3% ช่วยกระตุ้นรากผม(หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป) ทำให้เส้นผมงอก แนะนำยาบำรุงเส้นผมอีก 1 ตัว Neo Hair Lotion ของคุณหมอไพบูลย์ฯ รพ.ตร. (หาซื้อได้จาก Lazada)

*ต้องแต่งตัวให้ดีอยู่เสมออย่าปล่อยให้ดูโทรม ตามสมัยอย่าให้เชย ออกงานสังคมบ่อยๆ สร้างจุดเด่นให้กับตัวเองบ้าง เช่น ร้องเพลงงานการกุศล (บริจาคเงินร้องเพลง)

*ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ จะเล่นกอล์ฟ ร้องเพลงหรือตั้งก๊วนแชร์แล้วแต่ถนัด ขอเพียงอย่าเก็บตัวเงียบอยู่กับบ้าน หาเพื่อนเข้ากลุ่มสังสรรค์กันทุกเดือน ตั้งกลุ่มเพื่อนนักเรียนเก่า ที่ทำงานเก่า พบกันเดือนละครั้งกินข้าวร้องเพลง คุยกันแต่เรื่องสนุกๆ เรื่องเศร้าไม่เอา เรื่องการเมืองไม่พูด ชีวิตจะไม่เครียด

ทั้งหมดนี้เป็นรางวัลให้กับชีวิต จงใช้ชีวิตแต่ละวันให้คุ้มค่า ทำให้ชีวิตทุกๆวันมีรสชาติและสีสันแล้วชีวีจะเป็นสุข สุขภาพจิตดี ไม่เจ็บป่วย.
"คุณอังกูรเล่นหนังด้วยหรอ?"
"โห...ประกบคู่กับพี่เอกสรพงษ์ด้วย"
"คลาสสิคสุดๆ...อยากดูเต็มๆจัง"
และอีกมากมายสำหรับเสียงตอบรับ เนื่องจากล่าสุดทีมงานทำ VDO "เปิดปูมฮีโร่" มาให้ได้ชมกัน วันนี้ทีมงานจีงขอสมนาคุณแฟนๆ ตามเสียงเรียกร้องครับ เราใช้เวลาตามหาภาพยนตร์สุดคลาสสิคเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงมือแฟนๆ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ...

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์)

ตอน 1ตอน 2ตอน 3
ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 1 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 2 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 3
ติดตามกันมานาน
จนเป็นแฟนประจำกันก็มาก...
แต่หลายๆท่านคงยังอยากรู้จักคุณอังกูร (007) ในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกลงไป
ถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาเป็นฮีโร่ของเรา
ในวันนี้ เราจึงไม่รอช้าจัดเป็น VDO
ให้ชมกันอย่างจุใจ

(คลิ๊กที่ รูปเพื่อดูวีดีโอ)

พลังสกาล่าร์ ร้องทุกข์ที่นี้
จำนวนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์