ภัยของผู้หญิงมีความหมายเป็น 2 นัย นัยแรกหมายถึงผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อ นัยที่สองหมายถึงผู้หญิงเป็นตัวทำให้เกิดภัย แต่จะขอกล่าวถึงภัยที่เกิดกับผู้หญิงหรือผู้หญิงตกเป็นเหยื่อก่อน เพราะมีเป็นจำนวนมากที่ผู้หญิงถูกทำร้าย ถูกละเมิด ถูกทารุณต่างๆ นาๆ ที่ตกเป็นข่าวก็แยะ ที่ไม่เป็นข่าวก็มาก เรื่องที่จะนำมาบอกกล่าวเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง ไม่ใช่นิยายที่แต่งขึ้น ท่านลองคิดดูกว่าถ้าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวท่าน ท่านจะแก้ไขสถานการณ์หรือรับมือกับมันอย่างไร ไม่ใช่การแสดงหนังหรือละครนะครับ เมื่อท่านตกอยู่ในภาวะคับขัน ท่านจะตัดสินใจอย่างไร หากเป็นเรื่องที่ท่านยังไม่เคยมีประสบการณ์ ท่านตัดสินใจพลาดอาจหมายถึงการสูญเสียชีวิตหรืออวัยวะ ฉะนั้นเรื่องที่นำเสนอจะเป็นแนวทางการรับมือหรือแก้ไขสถานการณ์ที่มีผู้ใช้มาแล้ว ขอให้เป็นประสบการณ์ของท่าน รู้มากย่อมได้เปรียบ

สถานการณ์ที่ 1 เป็นเรื่องของวิศวกรสาวใจเด็ด รับมือกับไอ้โจรหื่นกาม เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2544 ในช่วงที่ผู้เขียนดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับการตำรวจ กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 รับผิดชอบกำกับดูแลในการปฏิบัติหน้าที่ของสถานีตำรวจนครบาล หัวหมาก, ลาดพร้าว, โชคชัย, วังทองหลาง, บึงกุ่ม, บางชัน, ประเวศ และอุดมสุข เหตุเรื่องนี้เกิดขึ้นในท้องที่ สน,ลาดพร้าว

คุณสายใจ อายุ 24ปี วิศวกรสาวหน้าตาดี หุ่นทรมานใจ เธอทำงานให้กับบริษัทคอมพิวเตอร์ เกี่ยวกับการสื่อสารโทรคมนาคมแห่งหนึ่ง เธอเป็นคนมีฐานะดี วันปกติธรรมดาเธอจะพักอยู่กับบิดามารดา ย่านถนนรามอินทรา แต่ในวันศุกร์, เสาร์, อาทิตย์ เธอจะมาพักอยู่แต่ผู้เดียว ที่บ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น อยู่ในซอยแถวถนนนวมินทร์ บ้านทาวน์เฮ้าส์นี้เธออยู่แต่ผู้เดียว เพราะเธอต้องการความสงบเพื่อใช้เวลาทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ในซอยที่เธอพักในวันสุดสัปดาห์นี้ ไม่ใช่ซอยเปลี่ยว เป็นซอยที่มีห้องแถว (ทาวน์เฮ้าส์) เรียงชิดติดกันสองฟากซอยไม่ต่ำกว่าฟากละ 20 ห้อง ทาวน์เฮ้าส์ของเธอจะอยู่ต้นๆ ซอย เธอปฏิบัติตัวเช่นว่านี้มาช้านาน ทุกครั้งที่เธอจะมาพัก เธอก็จะขับรถเก๋งมาจอดไว้หน้าบ้าน

ลักษณะของทาวน์เฮ้าส์ หรือเรียกง่ายๆ ว่าห้องแถว เป็นลักษณะการก่อสร้างแบบเก่า กล่าวคือด้านหลังของห้องแถวจะมีกำแพงกั้น กำแพงนี้ก็จะเดินถึงกัน บนสันของกำแพงตั้งแต่ปลายซอยยันต้นซอย
ถัดจากห้องของวิศวกรสาวสวยหุ่นบาดใจนี้ไปอีกประมาณ 10 ห้องในแถวเดียวกัน ก็เป็นห้องแบ่งเช่า ซอยเป็นห้องเล็กห้องน้อย ประมาณ 3-4 ห้อง มีหนุ่มวัยตกมันพักอยู่หลายคน ในจำนวนนี้ก็มีนายหื่นศักดิ์ อายุ 23 ปี ชายโสดเช่าพักอยู่ด้วย

ทุกครั้งที่สายใจเดินทางมาพักที่ห้องแถวแห่งนี้ เธอจะมาช่วงกลางคืนประมาณ 2-3 ทุ่ม หลังจากเธอเลิกทำงานตามปกติ เธอจะตรงรี่มาที่บ้านนี้ จอดรถหน้าบ้านแล้วเธอก็จะเข้าห้องน้ำชำระกายเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อทำงานคอมพิวเตอร์ต่อ เวลาเดียวกันหนุ่มโสดวัยกระทิงที่อยู่ท้ายซอย ดูเหมือนจะรู้เวลาการมาและทำกิจกรรมของเธอ จึงไม่แปลกอะไรที่ห้องน้ำของเธอ ซึ่งอยู่บริเวณชั้นล่าง จึงมีรูถ้ำมองเต็มไปหมด แต่สาวสายใจเธอไม่เคยได้สังเกต เพราะไม่เคยเฉลียวใจ

อธิบายง่ายครับ พวกหนุ่มกระทิงทั้งหลายรู้เวลาก็จะพากันเดินย่องมาบนรอบกำแพงด้านหลังบ้าน และแอบจัดการทำทางสะดวกขึ้นลง เจาะรูห้องน้ำคอยท่าไว้ก่อน เพราะวันปกติบ้านนี้จะปิดทิ้งไว้ไม่มีคนดูแล
ในวัดเกิดเหตุ สายใจก็เดินทางมาที่ห้องแถวแห่งนี้ และปฏิบัติตัวตามกิจวัตรที่เคยทำ เธอดูเสมือนว่าไม่มีอะไร ทุกอย่างเหมือนปกติ แต่สำหรับหื่นศักดิ์ กระทิงเปลี่ยวคงจะไม่ปกติ เพราะถ้ำมองดูสาวเจ้าอาบน้ำมาหลายเหลา จนกระทั่งตีห้าครึ่งของวันเกิดเหตุ ซึ่งตรงกับคืนวันอาทิตย์ต่อวันจันทร์ ขณะที่สายใจอาบน้ำชำระกายที่ห้องน้ำชั้นล่างเสร็จ นุ่งผ้าเช็ดตัวกระโจมอกเปิดประตูห้องน้ำออกมา เธอก็ถูกหื่นศักดิ์ใช้ท่อนแขนอันกำยำล็อคคอ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งของหื่นศักดิ์ ถือมีดปลายแหลมจี้ที่ลำตัวของสายใจ พร้อมกับมีเสียงสำทับดูๆ ว่า “อย่าร้องนะ” แล้วหื่นศักดิ์ก็ล็อคคอพาสายใจเดินขึ้นไปชั้นที่ 2 ของบ้าน ซึ่งเป็นห้องนอนของสายใจ

ที่หื่นศักดิ์เข้าไปล็อคคอสายใจนั้น หื่นศักดิ์ไม่ได้เข้าไปแบบธรรมดา หื่นศักดิ์มีถุงน่องผู้หญิงใส่คลุมหัวไปด้วย นัยว่าหื่นศักดิ์ คงดูภาพยนตร์แอ็คชั่นฝรั่งมากไปหน่อย ความจริงถุงน่องสุภาพสตรีนั้นก็หยิบจากถุงน่องของสายใจที่ตากไว้ใกล้ๆ ห้องน้ำนั่นเอง สายใจรู้ตัวดีว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น เธอพยายามรวบรวมสติและคิดหาวิธีที่จะรับมือกับหื่นศักดิ์อย่างไร

ถ้าเปรียบขนาดร่างกายแล้ว หื่นศักดิ์ตัวโตกว่าสายใจมากทีเดียว แต่การศึกษาและประสบการณ์ของสายใจมากกว่า สายใจไม่ขัดขืนยอมทำตามหื่นศักดิ์ แต่ในใจเธอคงคิดแล้วว่าจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร หื่นศักดิ์พาสายใจนอนบนเตียง แล้วหื่นศักดิ์ก็นำถุงน่องสตรีอีกข้างหนึ่ง มัดแขนของสายใจไว้ สายใจไม่มีอาการขัดขืน ยอมนอนบนเตียงแล้วเธอแกล้งทำหอบ (ความจริงเธอมีโรคหอบหืดประจำตัว) สายใจบอกกับหื่นศักดิ์ว่า “จะยังไงก็ได้ ขออย่าทำร้ายหนู แต่ตอนนี้หนูหอบหืด ยาอยู่บนโต๊ะ หน้าห้องน้ำข้างล่างช่วยหยิบให้ด้วย” หื่นศักดิ์ตายใจคิดว่ายังไงวันนี้ได้กินของดี หลังจากแอบดูมานาน จึงรีบลงไปหยิบยาชั้นล่าง ขณะที่หื่นศักดิ์เดินลงไป สายใจก็รีบแก้มัดออก ซึ่งการมัดก็ไม่ได้แน่นหนาอะไร เธอหยิบปืนพกบาเร็ตต้าขนาด 6.35 มม. ที่ซ่อนไว้หัวนอนออกมาถือเตรียม
หื่นศักดิ์ถือซองยาจากชั้นล่างขึ้นมา พร้อมมืออีกข้างหนึ่งปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงหวังเผด็จสวาท ขณะอยู่ในระยะห่างประมาณ 2 วาเศษ สายใจก็ใช้มือขวากำปืนบาเร็ตต้าพร้อมเหนี่ยวไกปืนยิงใส่หื่นศักดิ์ 1 นัด กระสุดพลาด หื่นศักดิ์โยนถุงยาทิ้งพร้อมกำมีดพุ่งตรงเข้าใส่สายใจ ส่วนสายใจตั้งสติอีกครั้งคราวนี้เธอจับปืนด้วยมือทั้งสองข้าง มือขวากำด้ามปืน มือซ้ายกำทับมือขวาอีกที เธอคิดว่าคราวนี้ถ้าพลาดอีกหมายถึงความตายของเธอ ก่อนที่หื่นศักดิ์จะเข้าประชิดตัว เสียงปืนก็ดังอีกครั้งหนึ่ง เธอรู้สึกเจ็บที่นิ้วกลางมือซ้าย เวลาเดียวกันก็เห็นหื่นศักดิ์ ถอยหลังพร้อมเผ่นหนีลงบันได้ไป เธอถือปืนตามไปดูที่บ้านชั้นล่างไม่พบหื่นศักดิ์ เธอจึงรีบโทรศัพท์บอกพ่อแม่ และแจ้งตำรวจ ผู้เขียนจึงได้ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ และพบเห็นรายละเอียดตามที่ได้เล่าให้ฟัง พบว่าหื่นศักดิ์ไปนอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้นบ้านห้องแถวถัดไปอีก 1 ห้อง เข้าใจว่าหื่นศักดิ์ เดินหนีกลับห้องพัก โดยไปตามสันกำแพงหลังห้องแถว แล้วหมดแรงตกกำแพงไปตายอยู่ที่ห้องถัดจากห้องที่เกิดเหตุ พบรอยกระสุนปืนเข้าที่บริเวณทรวงอกของหื่นศักดิ์ 1 แห่ง กระสุนฝังใน สภาพศพหื่นศักดิ์ถอดเข็มขัดกางเกงและรูดซิบกางเกงยังไม่สุด แสดงถึงความรีบร้อนที่จะหนีจากที่เกิดเหตุก่อนพบจุดจบ

ส่วนสายใจเธอมีอาวุธปืนเป็นเพื่อนคู่กายอยู่ใต้หมอน และเธอมีสติดีเตรียมรับมือกับเหตุการณ์และแก้สถานการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม เสียแต่ที่ว่าเธอไม่เคยซ้อมยิงปืนมาก่อน ไม่รู้จะไปยิงที่ไหน ลั่นไกปืนครั้งแรกกระสุนไม่ถูกที่หมาย นัดที่สองเธอจึงจับปืนด้วยมือทั้งสองข้าง เจ้ากรรมนิ้วกลางมือซ้ายดันไปขวางลำกล้องปืน ผลคือต้องไปให้หมอเย็บบาดแผลถึง 12 เข็มด้วยกัน แผลฉกรรจ์พอดู

ตำรวจทุกคนที่ไปสอบสอนและตรวจที่เกิดเหตุต่างชื่นชมเธอ และยอมรับว่าเธอรับมือกับอาชญากรหื่นกามได้ดีมาก การสอบสวนให้ความเป็นธรรม สำนวนการสอบสวนเด็ดขาดสั่งไม่ฟ้องเธอในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา โดยเธอป้องกันตัวตามกฎหมาย และไม่เกินสมควรแก่เหตุ

โชคเธอดีจริงๆ เริ่มตั้งแต่การใช้อาวุธปืนบาเร็ตต้ารุ่นนี้เป็นปืนออโตเมติด การบรรจุกระสุนทำง่าย คือกระสุนอยู่ในแม็กกาซีนแล้ว ยังมีกระสุนอีกนัดอยู่ในลำกล้องกระดกขึ้น แล้วใส่กระสุนได้ง่าย สะดวกกว่ารุ่นอื่นที่จะต้องกระชากลูกเลื่อน ต้องใช้แรง และมีเสียงดังที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ขึ้นลำ” บาเร็ตต้ารุ่นนี้เวลายังต้องง้างนกปืนก่อน (ปืนรุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวกับที่ภรรยาผู้เขียนใช้อยู่)

เสียดายที่สายใจเธอไม่เคยมีโอกาสซ้อมยิงปืน เพราะไม่รู้จะไปยิงที่ไหน เลยถือโอกาสบอกบรรดาสุภาพสตรีใน กทม. ที่เห็นๆ มีอยู่ 3 ที่ ที่แรกที่สนามยิงปืนกรมการรักษาดินแดน แหล่งที่สองสนามยิงปืนแห่งประเทศไทย อยู่ที่สนามกีฬาหัวหมาก แหล่งที่สามสนามยิงปืนวังกานนท์อยู่ที่กองปราบปราม ซอยโชคชัย 4 ทั้งหมดเปิดให้ประชาชนยิงได้

ท่านผู้อ่านได้แนวทางการแก้ปัญหาของสาววัยรุ่นไปแล้ว ต่อไปจะให้ท่านได้ทราบคือการแก้สถานการณ์ของสาวใหญ่บ้าง ส่วนตัวท่านเองเมื่อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้จะแก้ไขสถานการณ์อย่างไรก็ลองพิจารณาดู