ยุคนี้เกิดยากตายง่าย คนรุ่นใหม่ไม่นิยมแต่งงานแต่รักที่จะมีเพศสัมพันธ์ ยาคุมกับถุงยางขายดี ที่เกิดมาได้ส่วนหนึ่งมาจากความผิดพลาด ไม่ได้เหมาทั้งหมดนะที่ตั้งใจก็มี สรุปว่าเกิดน้อยละกัน เกิดมาทั้งทีควรถนอมชีวิต ความตายหาง่าย ฆ่ากันทุกวันไม่ต้องมีสาเหตุ จะอยู่จนแก่ตายได้ยังไง ต้องศึกษา
1.ออกจากบ้านไปไหนดูตาม้าตาเรือ อย่าสักแต่ว่ามีถนนสาธารณะที่ไหนก็จะไป อาจเจอด่านตรวจมีหลายสังกัด หากหลงไปเจอเข้าพูดจาดีๆ แนะนำให้พกบัตรประชาชนใบเดียวก็พอ บัตรอื่นๆพกอันตราย พวกทหารตำรวจไม่ควรใส่ยศ
2.ยานพาหนะส่วนตัวที่ใช้เดินทางต้องงดติดรูปสัญลักษณ์หน่วยงานโดยเฉพาะตะกวด
3.ควรเลือกสีเสื้อผ้าที่จะสวมใส่ให้ถูกตามกาลเวลา แนะนำให้ใส่ลายให้มันครบไปเลยทุกสีที่มีอยู่ในโลก จะปลอดภัย
4.งดพูดคุยหรือวิจารณ์การเมืองโดยเด็ดขาดแม้แต่ในบ้านตนเอง
5.การใช้สื่อ social media ควรระมัดระวัง อย่าได้พร่ำเพ้อ รำพึงรำพัน เรื่องการเมืองลงไปใน face book, line, หรือ website แนะนำให้ลงแต่เรื่องวิว ธรรมชาติ ชีวิตสัตว์หรือศิลปะ จะปลอดภัย
6.หนังสือพิมพ์ควรอ่านเฉพาะหน้าโฆษณา โปรแกรมภาพยนตร์ ส่วนโทรทัศน์ก็ควรดูเฉพาะละครน้ำเน่าเท่านั้น
7.แนะนำบุตรหลานในการศึกษาหรือประกอบอาชีพ พึงหลีกเลี่ยงการรับราชการทหาร ตำรวจ การรับจ้างเป็นการ์ดหรือ ร.ป.ภ.
เพียงแค่ 7 ข้อนี้หากปฏิบัติได้ก็จะมีอายุยืนยาวเข้าสู่วัยชรา ขอฝากแถมท้าย เพิ่มความระมัดระวังตามสัญชาตญาณนักสืบไว้ด้วยนะครับ
เริ่มต้นตั้งแต่ออกจากบ้าน(เอาเป็นว่าท่านมีรถยนต์ จะขับเองหรือมีคนขับให้นั่งก็ได้ สำหรับผู้เดินเท้าก็ช่วยนำไปปรับเปลี่ยนเอาเอง เพราะเป็นศาสตร์ที่นำไปใช้ได้เหมือนกันหมด)
ประการแรก เมื่อท่านนั่งรถเรียบร้อย ล็อกประตูรถทันที หัดให้เป็นนิสัยมิฉะนั้นแล้วเวลาขับรถไปจอดรถรอสัญญาณไฟจะมีผู้ที่ไม่ได้รับเชิญขึ้นมานั่งเป็นเพื่อน (ปัจจุบันนี้รถยนต์รุ่นใหม่ๆจะมีการล็อกประตูโดยอัตโนมัติทันทีที่มีการขับเคลื่อน)
ประการที่สอง ท่านขับรถหรือนั่งรถไปตามทาง เคยมองดูกระจกมองหลัง กระจกมองข้างหรือมองหลังรถว่ามีรถอะไรขับตามมาบ้างหรือไม่ ลองชำเลืองดูบ้างนะครับ แล้วก็ใช้ความสังเกตดูความผิดปกติ ถ้าตั้งแต่ออกจากบ้านนั่งรถไประยะทางไกลหลายกิโล ผ่านไปหลายแยกรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์คันเดิมยังตามอยู่อีกให้สงสัยไว้บ้างว่าอาจถูกติดตาม โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์จะไม่ตามหลังรถเรานาน อุปนิสัยชอบซอกแซก แซงขูดรถชาวบ้านเพื่อขึ้นหน้าตลอด ถ้ามอเตอร์ไซค์คันเดิมยังตามอยู่ ระวังท่านอาจถูกสะกดรอยหรือถูกมือปืนติดตาม เมียหลวงจ้างนักสืบสะกดรอย ถูกตามเพื่อจี้ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ นี่เป็นเพียงอยากจะแนะนำให้รู้จักสังเกตหรือสนใจบ้าง
เมื่อสงสัยว่าถูกสะกดรอยติดตามแล้วจะตรวจสอบยังไง วิธีง่ายๆ ลองชะลอความเร็วรถให้ช้าลงแล้วดูว่ารถคันที่ตามหลังยังขับช้าตามหรือว่าแซงขึ้นหน้าไป ถ้ายังขับช้าตามทั้งๆที่มีโอกาสแซงก็ไม่ยอมแซงให้สงสัยไว้ก่อน คราวนี้ท่านจอดรถเลยครับ ถ้าเป็นนักสะกดรอยมืออาชีพเขาจะไม่จอดตามหรอกครับ เขาจะแซงขึ้นหน้าไปแล้วโทรหรือวิทยุให้ชุดติดตามนำรถคันอื่นมาทำหน้าที่แทน (การสะกดรอยติดตามทำกันเป็นทีม ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์หลายคัน) รู้แค่นี้ท่านก็พอจะเช็คสอบหรือสร้างความปลอดภัยในการเดินทางได้บ้างแล้ว
เมื่อขับรถถึงที่หมาย ถ้าเป็นที่ทำงานหรือเข้าบ้านอย่าคิดว่าถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ ยังครับ ถ้าท่านที่มีสาเหตุขัดแย้งหรือขนเครื่องประดับทรัพย์สินราคาแพงติดตัวมาด้วยระวัง จุดที่อันตรายที่สุดคือตอนเข้าบ้าน จุดบอดคือตอนที่ลงจากรถไปเปิดประตูบ้านหรือลงไปกดออดให้คนใช้เปิดประตูรับ ตรงนี้หละที่ถูกมือปืนดักยิงหรือถูกจี้เสียมากต่อมากแล้ว ฉะนั้นถ้าต้องเปิดประตูบ้านเองหรือต้องลงจากรถไปกดออด ช่วยสังเกตดูเสียบ้างมีรถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์หรือคนซุ่มอยู่ใกล้ๆหรือไม่ โดยเฉพาะในยามวิกาล แนะนำให้ใช้ประตูไฟฟ้าเปิดด้วยรีโมท หรือ โทรศัพท์แจ้งคนในบ้านให้เปิดประตูบ้านรอรับ เข้าบ้านแบบจังหวะเดียวไม่ต้องหยุดรอ
การจอดรถบนอาคารสำหรับจอดรถ ที่ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า แม้กระทั่งลานจอดรถ ให้พยายามจอดในที่มีแสงสว่าง อย่าจอดในมุมมืดอับสายตา เวลาจะกลับไปขึ้นรถถ้าท่านไปคนเดียวโดยเฉพาะเป็นสุภาพสตรีด้วยระวังอาจถูกจี้ เอาทรัพย์ ข่มขืน จากสถิติการสัมภาษณ์ผู้ต้องขังในคดีข่มขืน จัดอันดับสถานที่ๆพวกเขาดักข่มขืนเหยื่อ
๑ ลานจอดรถห้างสรรพสินค้า ลานจอดรถของบริษัท
๒ ห้องน้ำสาธารณะ
ท่าน“สุภาพสตรี”จะโดยสารรถแท็กซี่ให้ปลอดภัย มีข้อแนะนำ
๑ นั่งที่เบาะหลังตรงตำแหน่งกับที่โชเฟอร์นั่ง (นั่งหลังขวา) ทั้งนี้ท่านจะสังเกตเห็นอากัปกิริยา อาการของโชเฟอร์ตลอดเวลา อย่านั่งคู่ข้างหน้าเด็ดขาด (กรณีนั่งไปคนเดียว)
๒ เมื่อขึ้นรถแท๊กซี่ รีบจดทะเบียนรถ สีข้างรถและชื่อผู้ขับขี่ไว้ (จดลงกระดาษบันทึก)
๓ เมื่อนั่งที่นั่งด้านหลังแล้ว สอดส่ายสายตาดูที่เอกสารรายละเอียดผู้ขับขี่ อันนี้เป็นภาคบังคับต้องติดไว้ที่หน้ารถ ถ้ามี พยายามดู “ชื่อ” แล้วเรียกชื่อ เช่น “...(ออกเสียงเรียกชื่อ)...ไปสั่งฉันที่.....” คนขับแท๊กซี่จะหนาวเมื่อรู้ว่าผู้โดยสารรู้จักชื่อ อย่างน้อยก็คิดในใจว่า “เจอผู้โดยสารเขี้ยว...ระวังน่าดูเลย” ถ้าในใจคิดมิดีมิร้ายอยู่ก็จะเปลี่ยนใจ ไปเอาคนอื่นดีกว่า
๔ พอนั่งรถแล้วก็โทรศัพท์ไปที่บ้าน พูดด้วยเสียงอันดัง (พูดฝ่ายเดียวก็ได้แต่อย่าให้เป็นพิรุธ) ตัวอย่างเช่น “พี่ๆ กำลังกลับบ้าน แท๊กซี่ทะเบียน........ไปจากถนน........ไม่เกิน......นาทีถึง คอยรอรับด้วย” หรือจะระบุชื่อผู้ขับขี่ไปด้วยก็ได้
ก่อนจบช่วงนี้แถมให้อีกนิด เวลาเข้าไปนั่งในร้านอาหารหรือสถานที่นัดพบ ถ้ามีโอกาส เลือกมุมนั่งให้ดี ให้มีทางหนีทีไล่ ตำราโบราณว่าหลังพิงฝาไว้ก่อน คือให้ด้านหลังติดผนังไว้เพราะคนเราไม่มีตาหลัง ใครจะจู่โจมถึงตัวเราจะไม่รอดพ้นจากสายตา เวลาเดียวก็ควรใกล้หน้าต่างหรือทางออก เพราะหากเกิดเหตุจากกลุ่มข้างเคียงวิวาทกันจะได้โดดหนีได้ทัน ไม่โดนลูกหลง
ที่ร้านอาหารก็ต้องระวัง ถ้าไปนั่งทานแต่ผู้เดียว โดยเฉพาะท่านที่มีเครื่องประดับหรือสุภาพสตรีน่าตาดี ระวังอาหารที่ท่านสั่งมาทาน อย่าให้ใครแอบมาผสมยานอนหลับลงไป
ท่านเคยเห็นต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทยพฤติการณ์แบบนี้ไหมครับ สั่งน้ำดื่มบรรจุขวด นำมาเปิดปากขวดเองหรือต้องนำมาเปิดต่อหน้า ดื่มจากปากขวดไม่ใช้หลอดดูด ก็เพราะกิตติศัพท์ประเทศไทยชอบผสมยานอนหลับในเครื่องดื่ม เรื่องมีอยู่ว่าแหม่มสาวหน้าตาดีเดินทางเดี่ยวมาเที่ยวไทย พอลงเครื่องที่ท่าอากาศยานก็แวะสั่งเครื่องดื่มแบบขวดมาดื่มแก้กระหาย ไม่ถึง 10 นาทีต่อมาหน้ามืดเวียนศีรษะ หนุ่มพลเมืองดีต้องประคองขึ้นรถอ้างไปส่งโรงพยาบาล ผลปรากฏว่าถูกพาไปข่มขืนทิ้งให้นอนอยู่ในโมเต็ล ผลจากยานอนหลับที่ถูกใส่ในเครื่องดื่ม (เรื่องนี้เคยเป็นข่าวใน น.ส.พ.เมื่อประมาณ 20 ปีมาแล้ว) แหม่มผู้นี้กลับประเทศก็ละเลงข่าวใน social media ต่างชาติมาเที่ยวไทยเลยกลัว จะพบว่ามักจะสั่งเครื่องดื่มแบบบรรจุกระป๋องมาเปิดเอง แต่ไม่วายถูกพี่ไทยหัวใสกว่าหลอกจนได้ มีต่างชาติโดนเข้าจนได้ อุตส่าห์สั่งเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องแช่เย็นเจี๊ยบมาเปิดดื่มเอง ผลฟุบอยู่กับโต๊ะเพราะกระป๋องเครื่องดื่มถูกเจาะที่ก้นด้านล่าง ใส่ยานอนหลับแล้วเอากาวตาช้างปิดไว้
ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ อะเมซซิ่งไทยแลนด์จริงๆ