เคยเสนอเรื่อง “อภินิหารอาจารย์เสริฐฯ” ไปแล้วรวม 5 ตอน (ติดตามอ่านได้ใน website www.angkul007.com) มีผู้สนใจสอบถามเข้ามามากมาย จริงหรือเปล่าหรือว่ามายากล ผมยังยืนยันข้อเท็จจริงตามที่ได้นำเสนอไป บางอย่างค้างคาใจพิสูจน์ไม่ได้แต่ก็ยังศรัทธา ไม่ได้ติดต่อกันมาเกือบ 10 ปี จนมาถึงวันเด็กเมื่อปี 2556 ภรรยาป่วยด้วยอาการหลอดเลือดสมองเข้ารับการผ่าตัดที่ รพ.กรุงเทพ ลักษณะอาการของโรคหลอดเลือดสมองมี 2 แบบ ตีบหรือตันกับแตก ภรรยาผมอยู่ในประเภทแตก ทั้ง 2 แบบมีตัวอย่างให้เห็น พวกตีบตันส่วนมากจะเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต ส่วนพวกที่แตกถ้าไม่เสียชีวิตก็จะนอนเป็นเจ้าชายเจ้าหญิงนิทรา มีสายระโยงละยางห้อยเต็ม ทั้งสองอย่างนี่ไม่มีใครปรารถนา ภรรยาผมเข้ารับการผ่าตัดครั้งแรกเมื่อ 12 ม.ค.2556 เข้าไปแต่เวลา 09.30 ออกมาเกือบ 17.00 น.สลบไม่ได้สติไป 2 วัน เริ่มมีความรู้สึกขยับตัวได้เอา 14 ม.ค. อีก 2 วันต่อมาพูดคุยได้รู้เรื่องทุกอย่าง เพื่อนๆเริ่มเข้าเยี่ยม แต่พอเพื่อนๆกลับไปค่ำวันนั้นเองอาละวาด จะลุกจากเตียงกลับบ้าน ปัดดึงสายช่วยชีพทั้งหลายทิ้ง แพทย์พยาบาลต้องระดมช่วยกันให้ยาระงับ จากนั้นอาการเพียบหนักขึ้นบ่นปวดศีรษะทุรนทุราย แพทย์นำไปทำ scan สมองพบว่ามีเลือด น้ำ ออกมาอีก ผ่าตัดครั้งที่ 2 ใช้เวลาอยู่ในห้องปฏิบัติการณ์ประมาณ 5 ชั่วโมง ออกมาคราวนี้นอนเพียบไม่กระดุกกระดิก 4 วัน ถึงตอนนี้หละที่ต้องวิ่งหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ทางหมอทางด้านการแพทย์ช่วยเต็มที่แล้วนี่ ผมถามแพทย์ตลอดเวลา รอดไหมเนี่ย ? จะเป็นไงบ้าง ? ทุกคำตอบของหมอจะมีคำต่อท้ายว่า “มั๊ง ?” แทบทุกคำตอบ นึกในใจว่าหมอก็คงไม่มั่นใจ บรรดาลูกๆและคนรู้จักพากันบนบานศาลกล่าวสวดมนต์ส่งกำลังใจช่วย แว๊บเข้ามาในสมองผมนึกถึงอาจารย์เสริฐทันที
ความลี้ลับของอาจารย์เสริฐ ครั้งแรกเกิดจากเพื่อนมาเล่าให้ฟังว่า สามารถตรวจสอบว่าพระเครื่องที่แขวนสร้อยห้อคอมีพุทธคุณจริงหรือไม่ อยากรู้จึงต้องไปตอนนั้นกำลังบ้าพระสมเด็จและก็ได้พบกับความอัศจรรย์ แกะพระออกจากสร้อยใส่ในแก้วเปล่าๆ อาจารย์เสริฐฯบริกรรมคาถาสองสามคำพร้อมสั่ง หากมีพุทธคุณขอแสดงให้เห็น คำถามแรก “อยู่ยงคงกระพันมีไหม ?” พระสมเด็จซึ่งอยู่ในกรอบเลี่ยมทองวางอยู่ก้นแก้วก็มีอาการเคลื่อนไหวกระทบกับข้างแก้ว 2-3 ครั้งเสียงดัง “เพี๊ยะๆๆ” คำถามที่สอง “เมตตา มหานิยมล่ะ มีไหม ? ถ้ามีแสดงให้เห็นเด่นชัดหน่อย” ขาดคำพระสมเด็จของผมก็ลอยจากก้นแก้วขึ้นไปบนอากาศสูงฟุตกว่า ผมต้องรีบเอาสองมือประคองรับพระสมเด็จไว้กลัวล่วงกระทบพื้นแตก ต่อมาผมเอาความงุนงงนี้ไปเล่าให้เพื่อนอีก 2 คนฟัง คือ เสธฯน้อย กับ คุณณรงค์ เสาวลักษณ์ สองคนหาว่าผมโม้ จึงต้องพาทั้งสองไปพิสูจน์ ผลก็ออกมาอย่างเดียวกัน เพื่อนผมก็เป็นงง นอกนั้นอาจารย์เสริฐฯยังมีอิทธิฤทธิ์อื่นๆอีก สั่งให้สิ่งของอะไรที่ตั้งวางอยู่ใกล้ๆหมุน สิ่งของนั้นก็จะหมุน สั่งให้หมุนกลับทิศก็หมุนกลับ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือหัวกะโหลกค่างซึ่งอาจารย์เสริฐจะเรียกว่า “หนุมาน” จะตั้งวางอยู่ใกล้ตัวอาจารย์ ทุกครั้งที่จะสอบถามหรือพยากรณ์สิ่งใดจะถามที่หนุมาน ถ้าเป็นการตอบรับก็จะผงกศีรษะ เมื่ออาจารย์ย้ำว่า “เอาให้ชัดๆซิ” หนุมานก็จะกระโดดลอยสูงจากพื้นหมุนกลางอากาศหลายรอบ อาจารย์จะรีบรับไว้ไม่งั้นตกกระทบพื้นหนุมานกระจายแน่ ผู้คนมากวนมาขออาจารย์เสริฐเข้าคิวยาวทุกวัน ส่วนมากจะเป็นเรื่องชู้สาว ทำเสน่ห์ ให้คนรักขอแต่งงาน ให้แฟนคืนดี กิตติศัพท์โด่งดังไปถึงสิงคโปร์มาเลเซีย อาจารย์เสริฐต้องหลบซ่อนตัว ที่อยู่ไม่แน่นอน ผมกับอาจารย์เสริฐผิดใจกันนิดหน่อยตอนที่ผมลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สว.เมื่อ พ.ศ.2549 โดยอาจารย์เสริฐรับจะทำพิธีเพ่งกระแสจิตดลใจผู้ไปลงคะแนนเลือกตั้งเข้าคูหาแล้วกาที่เบอร์ของผม อาจารย์เสริฐรับว่าทำได้เพราะเคยใช้วิธีนี้กับการเล่นพนันรูเลตมาแล้ว ผมชอบอุดตริและอยากจะลองของอาจารย์ แต่ผลเลือกตั้งออกมาได้คะแนนเพียง 4 พันจึงต่อว่า อาจารย์เสริฐบอก ขอโทษที ติดกิจนิมนต์ต่างๆจังหวัด ลืมทำพิธีกรรม ตั้งแต่นั้นขาดการติดต่อ พอถึงคราภรรยาเจ็บป่วยแพทย์แผนปัจจุบันก็ทำเต็มที่แล้วแต่ผลที่จะเกิดในอนาคตไม่มีผู้ใดหยั่งรู้ได้ วินาทีนี้ต้องอาจารย์เสริฐอย่างเดียว ใช้เวลาติดตามหาอยู่เกือบ 2 วันจึงได้รู้ว่าไปบวชอยู่ที่วัดหัตถสารเกษตร คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ดั้นด้นไปหาจนพบ สังเกตพระในวัดไม่ค่อยศรัทธาอาจารย์เท่าไหร่หรือจะอิจฉาที่มีคนขึ้นเยอะ ไม่บอกรายละเอียดเพียงบอกแบบเสียไม่ได้ “โน่น..อยู่ข้างใน” พร้อมชี้มือเข้าไปในสุดของวัด พอไปถูกกุฏิเห็นแล้วไม่ต้องถาม มีคนรอพบ 3-4 รายส่วนใหญ่เป็นสุภาพสตรี รอจนถึงคิวอาจารย์เห็นจำได้คุยกัน เล่าเรื่องภรรยาเจ็บป่วยให้ฟัง อาจารย์บอกว่าต้องถามหนุมาน สั่งให้ผมเตรียมอุปกรณ์ไปพบอีกครั้ง ให้เตรียมรูปถ่ายภรรยาเขียนชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดด้านหลังพร้อมไข่ไก่ 1 ฟองเขียนชื่อนามสกุลภรรยาไว้ด้วย กลับไปเตรียมของแล้วไปพบใหม่ คิวยาวอีกเช่นเคย เข้าไปทำพิธีกับอาจารย์สองต่อสองในห้อง ความจริงใครจะเข้าไปด้วยก็ได้แต่ผมไปคนเดียวเลยไม่มีพยาน อาจารย์เอารูปภรรยาผมวางต่อหน้าหนุมาน อ่านชื่อแล้วบริกรรมคาถาภาษาเขมร คุยกับหนุมานถึงอาการเจ็บป่วยถามว่า “ช่วยได้ไหม ?” หนุมานนิ่ง กว่าจะตอบด้วยการพยักหน้าใช้เวลาให้ผมลุ้นอยู่เป็นนาน อาจารย์เสริฐฯบอกว่าสบายใจได้หนุมานช่วยแล้ว ต่อมาอาจารย์หยิบรูปภรรยาผมวางใกล้ๆแล้วบอกว่า “หนุมาน..ถ้าคุณสุพัฒนาปลอดภัยขอให้รูปลอยขึ้นมา” ผมไปคนเดียวจำเป็นต้องหาพยานหลักฐานจึงได้ใช้มือถือ Samsung Note 1 ถ่ายเป็น VDO ไว้ รูปของภรรยาผมค่อยๆลอยสูงจากพื้นประมาณ 1 นิ้วฟุตแล้วหมุนๆ สักพักก็หยุดลงกับพื้น อาจารย์บอกว่าสบายใจได้แล้ว ไม่เป็นไร แล้วอาจารย์ก็เอาไข่ไก่ที่ผมเตรียมไปวางบนจานกลมๆเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ฟุต แล้วถามหนุมานว่า “อาการหนักหรือไม่หนัก” ทันใดนั้นไข่ไก่ก็หมุนรอบตัวอย่างรวดเร็วอยู่บนจาน อาจารย์บอกเสียงดังว่า “อย่าตกลงมานะ อย่าตกลงมา” หมายถึงให้หมุนอยู่บนจานอย่าตกลงพื้น ไข่ไก่หมุนรอบตัวอยู่บนจน ขยายออกเป็นวงกว้างไต่ไปที่ขอบๆจาน ผมพยายามลุ้นไม่อยากให้ไข่ตกลงไปจากจาน แต่ในที่สุดไข่ก็หมุนตกลงไปที่พื้น อาจารย์รีบเก็บไข่ขึ้นมา ผมถามว่าเป็นไรไหม อาจารย์บอกว่าไม่เป็นไรๆ หนุมานช่วยได้แต่อาการหนักนะ ผมไม่ลืมที่จะบันทึก VDO ไว้ด้วย อาจารย์สั่งให้ผมเอาไข่ใส่พานตั้งวางไว้ที่หัวเตียงภรรยา เป็นเรื่องที่ผมต้องคอยตอบคำถามหมอและพยาบาลที่ รพ.กรุงเทพว่า นี่มันไข่อะไรกัน เวลาผ่านไป 1 ปี ไข่ไก่ฟองนี้ก็ยังอยู่ที่ห้องพระบูชาที่บ้าน ส่วน VDO ที่บันทึกภาพไว้เก็บให้ลูกๆดู กะจะนำไปออกรายการตี 10 คุณวิทวัสฯ แต่ปรากฏว่าตอนที่การเคลื่อนไหวทางการเมือง ใช้เจ้า Samsung ตัวนี้โพสท์ข้อความแสดงความคิดเห็นรุนแรงไปหน่อย มี Line เข้ามาเชียร์บ้างด่าบ้างเป็นพันๆความคิดเห็น เครื่องร้อนจัดวงจรช้อทเสีย เครื่องพัง ภาพหายกู้คืนไม่ได้
ครบ 1 ปี ภรรยาอาการกลับคืนสู่ปกติ เล่าให้ฟังว่าช่วงเจ็บป่วยได้ไปทำอะไรมาบ้าง ไม่มีใครเชื่อ VDO เสียดายภาพที่บันทึกไว้ก็ถูกทำลายไป คงเหลือแต่ไข่ไก่สลักชื่อภรรยาอยู่ที่โต๊ะพระเท่านั้น ผมกับอาจารย์เสริฐตัดกันไม่ขาด ยังไงๆอาจารย์ก็ยังเป็นที่พึ่งทางใจของผมอยู่ ขอบคุณครับอาจารย์.