เพลง รักจริงให้ติงตัง ที่บ้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์
กับ Dancer ประกอบเพลงรักจริงให้ติงนัง เป็นนักเรียนอินเตอร์
หลุดจากวังวนสีกากีไปแล้วก็ยังมีคนมาถามเจ๊าะแจ๊ะ โดยเฉพาะช่วงใกล้ฤดูแต่งตั้งโยกย้าย บางคนออกอาการกระเพรกมาเลย ตีนพลิก ข้อเท้าบวม บางคนถอดใจไม่อยากทำงาน รุ่นน้องข้ามหัวข้ามหูมาเป็นนาย ถามไปว่ารู้จักนายคนไหนบ้างล่ะ รู้จักแค่สารวัตรที่ใกล้ชิดเคยออกตรวจด้วยกัน รู้จักระดับผู้กำกับหรือผู้บัญชาการไหม เจ้านายเคยเรียกใช้บ้างป่าว ตอบมาว่าไม่เคยเลยแถมกลับจะให้เราช่วยฝาก เลยบอกไปว่าหาวิธีให้นายรู้จักด้วยตนเองบ้างซี ไม่กล้าอีกไม่รู้จะเข้ายังไง สงสารเห็นเป็นลูกเป็นหลานก็ชี้ช่องให้ ว่าเป็นตำนานไปเลย
เอาเรื่องงานก่อน นายที่ดีต้องมองเรื่องงาน เก่งด้านไหนล่ะ สืบ,สอบหรือตรวจ เอาเรื่องสืบละกันเรื่องอื่นๆใครก็ทำได้ สืบสวนเก่งหรือเปล่า คดีวางเพลิงเผาห้างดังแถวราชประสงค์กำลังหาตัวคนทำอยู่ แกล้งยกตัวอย่างให้ลูกน้องฟัง ลูกน้องเกาหัวแกรก โธ่..นาย ผมจะไปรู้ได้ไง มือดีๆตั้งเยอะเค้ายังไม่รู้ ผมจะไปรู้ได้ไง ต้องปลอบว่าอย่าหมดกำลังใจ เป็นเพียงยกมาเปรียบเทียบ ตอนทำงานจะได้ยินเจ้านายบ่นอยู่เสมอๆ เรื่องนี้ใครสืบได้เอาไปเลย 2 ขั้น หรือไม่ก็จะสนับสนุนหาตำแหน่งให้ เรื่องงานจึงมาอันดับหนึ่งถ้าผิดจากนี้ก็เป็นนายที่ใช้ไม่ได้ ก็น่าเห็นใจเราไม่ใช่พวกโจรจะไปรู้ได้ไงว่าใครกระทำผิด มันก็ไม่ยาก ซื้อข่าวไง ตั้งสินบนให้มันแรงๆประกาศออกไปเดี๋ยวก็ได้ แต่บางครั้งก็ถูกหลอก สมัยที่ผมอยู่กองสืบสวนนครบาลใต้จับโรงงานผลิตเหรียญห้าบาทปลอมไป ๒ โรง ความจริงน่าจะเป็น ๓ แต่ให้เพื่อนรัก (พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก สมัยอยู่กองปราบไป ๑ โรง) ถามว่ารู้ได้ไง มาถึงตอนนี้เป็นราษฎรเต็มขั้นแล้วบอกก็ได้ จ่ายค่าข่าวไปโรงละ ๓ หมื่นบาท (สมัยเมื่อ ๓๐ ปีมาแล้วเยอะพอควร) เราจะรายงานไปว่าสายลับแจ้ง เจ้านายชอบ ชมว่าเราเก่ง สายเราดี แต่จริงๆแล้วเราจ่ายเยอะ เลี้ยงดูสายเหมือนกับเค้าเป็นญาติสนิทคนหนึ่ง ค่าเทอมลูก เรื่องเจ็บป่วยเราดูแลหมด มีงานดังๆที่ไหนสายก็จะขวนขวายเอาข่าวมาบอกแลกกับเงิน ถึงตอนนี้ลูกน้องโต้ขึ้นมาทันที นายมีตังส์ก็ทำได้แต่ผมมันไม่มีนี่ครับ ก็เลยต้องย้ำอีกทีว่า เป็นตัวอย่าง ถ้างานดี มีผลงานเด่น เจ้านายรักก็จะสนับสนุน เพราะทำให้นายมีชื่อเสียงไปด้วย ถ้าเรื่องหาข่าวไม่ถนัดก็เอาเรื่องอื่น
เคยรับใช้นายบ้างไหมเช่น พานายไปกินอาหารดีๆ พานายไปเที่ยว ลูกน้องรีบยกมือโบกพร้อมส่ายหน้าบอกว่า ผมเป็นเด็กไม่กล้า มันไม่เหมาะ ถามต่อไปว่า นายระดับผู้บัญชาการรู้จักเราบ้างไหม ลูกน้องบอกอีกไม่รู้จัก ก็เลยแนะวิธีให้
สำรวจตัวเองว่ามีความเก่งหรือความถนัดเรื่องใดบ้าง ร้องเพลง เล่นกล เล่นตลก เล่าเรื่องขำขัน ฯลฯ เวลาเจ้านายมีงานเช่น งานวันเกิด งานปีใหม่ งานสังสรรค์ หาโอกาสแสดงความสามารถแต่ต้องแน่ใจนะว่าเจ๋งจริงๆ ถ้าไม่แน่อย่าได้ริอ่านทำเท่ากับฆ่าตัวตาย วิธีนี้เคยใช้มาแล้วได้ผลตอนสมัย เสธ.หนั่นฯเป็นรองนายกฯดูแลการแต่งตั้งระดับนายพลของกรมตำรวจ ไปเลาะๆดูค่ายสนามบินน้ำของ เสธ.หนั่นฯ โอ้โหคู่แข่งที่จะขอรับการแต่งตั้งนายพลมีเป็นร้อย เรามาทีหลังคงต้องไปต่อคิว จะทำยังไงดีหนอถึงจะให้ เสธ.รู้จัก พอดีช่วงนั้น เสธ.หนั่นฯมีโครงการหาทุนการกุศลเกี่ยวกับผ้าไหมไทย มีการแสดงแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไหมและร้องเพลงบริจาคเงิน (เรียกว่าจังหวะดีและการข่าวดีด้วย) วิ่งเต้นขอร้องเพลง ร้องธรรมดาๆก็คงจะไม่มีโอกาสแต่นี่เราขอบริจาคด้วย ยอดบริจาคสูงจึงได้ร้อง ตอนนั้นเพลง รักจริง ให้ตินัง กำลังดัง เอาละว๊ะสไตร์ลูกทุ่งเราถนัดแต่ต้องทำอะไรให้มันดูพิเศษขึ้นอีกสักหน่อย เรียกว่าหมัดเดียวให้น็อกไปเลย วิ่งไปหาคุณโจนาสและคุณคริสตี้คณะเดอะแฟมมีลี่ให้ช่วยสอนท่าและซ้อมร้อง ใช้หางเครื่องเป็นแหม่มสาวนักเรียนอินเตอร์แต่งชุดไทย ซ้อมร้องซ้อมเต้นกันเป็นวัน ผมแต่งชุดไทยพระราชทาน เสื้อไหมไทยสีแดง ร้องเพลงและบริจาคด้วย เพลงเดียว เสธ.หนั่นฯรู้จัก เจอที่ไหนเป็นต้องเข้ามาตบไหล่ทักทาย (เห็นไหม ทุกอย่างต้องมีการบริหารจัดการ) มีการบันทึกเทปถ่ายทอดทางโทรทัศน์ด้วย (เป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ผู้ใหญ่รู้จัก เป็นเพียงรู้จักกันอย่างเดียวไม่เกี่ยวกับการแต่งตั้ง) สรุปปีนั้นก็กินแห้วไป เรื่องของการแต่งตั้งมีตัวประกอบอื่นอีกหลายตัวแต่ที่แน่ๆถ้าผู้แต่งตั้งไม่รู้จักตัวเราโอกาสได้มีน้อยมาก ลูกน้องฟังแล้วส่ายหน้า ไม่ไหวหรอกครับ ไม่มีพรสวรรค์ อะไรที่ท่านว่ามานั่นไม่เป็นสักอย่าง ไอ้เราก็นึกในใจ แบบนี้เค้าเรียกว่าทำตัวหนัก เข็นไม่ค่อยไหว เอาเถอะยังไงๆมันก็เหมือนลูกเหมือนหลาน อย่างนี้ไม่ได้ก็เอาอย่างอื่น
เจ้านายที่ไหนๆก็เหมือนต้องการลูกน้อง ๓ ประเภท ๑ พวกเก่งเรื่องงาน ๒ พวกเก่งเรื่องหาเงิน ๓ พวกเก่งเรื่องรื่นเริงบันเทิงใจ ทั้งสามประเภทไม่ได้อยู่ในคนๆเดียวกันจึงต้องมีลูกน้องคนสนิทหลายคน ย้ายไปไหนก็ต้องหอบหิ้วกันไปทิ้งกันไม่ได้ ผมเคยมีลูกน้องคนหนึ่งงานสอบสวนไม่เก่ง งานสืบก็ยังงั้นๆ สำนวนไม่ค่อยได้เรื่องเพราะไม่ค่อยได้ทำเอง จ้างมือปืนทำให้ แต่ผมก็รักเค้าเพราะเป็นคนน่ารัก ร้องเพลงแนวถูกใจ งานที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่เก่งมาก ชอบจัดงานวันเกิดงานปีใหม่ให้เจ้านาย แม้เราจะบอกว่าเกิดมาไม่เคยจัดลูกน้องคนนี้ก็จะบอกว่า นายอยู่เฉยๆ ถึงวันงานตกใจ ร้านรวงเต็มบ้าน มีเวทีแสดงดนตรี มีการออกร้านซุ้มอาหารเจ้าอร่อยคาวหวานไม่ต่ำกว่า ๒๐ ซุ้ม แขกเหรื่อมาร่วมงานเป็นร้อย มาอวยพรแสดงความยินดีแถมยังมีซองติดมือมาด้วย ยังกับงานแต่งยังไงยังงั้น เสร็จงานต้องไปขอบคุณลูกน้องคนนี้ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้รักลูกน้องคนนี้ได้อย่างไร เปล่านะไม่ได้ไปรีดไถใคร ทุกคนสมัครใจมา ได้ใจจัดซะปีละสองครั้ง วันเกิดครั้ง ปีใหม่ครั้ง พอเกษียณอายุราชการก็เลิกกัน ปีแรกที่เกษียณเคยลองจัดวันเกิดมีคนมาไม่ถึง ๒๐ คนแถมเราต้องควักเงินจ่ายค่าอาหารเลี้ยง มันเป็นสัจธรรมจริงๆ
เกษียณแล้วลูกน้องอดีตคนขับรถมากระซิบ นายๆคนที่ตีเกราะเคาะไม้จัดงานวันเกิดให้นาย เค้ารับมากกว่านายอีก สงสัยว่ารับยังไง ก็พวกที่มาแสดงความยินดีกับนายส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการ นายไม่เคยรบกวนเค้าเป็นรายเดือน ก็เลยหาโอกาสเอามาให้ตอนเทศกาล ผมก็ถามว่า แล้วมันไปเกี่ยวกับคนจัดตรงไหน คนขับรถก็บอก ปัดโธ่ ก็บรรดาร้านอาหารต่างๆ พวกบ่อน พวกสถานบริการเค้าแย่งกันเป็นสปอนเซอร์ พวกร้านค้าเค้าก็เต็มใจมาช่วย แทบไม่ต้องจ่ายอะไรเลย ยังงี้คนจัดไม่รับเละได้ยังไง เรื่องนี้ไม่ว่าอะไรกันเพราะถือว่าทางใครทางมัน วินๆด้วยกันทุกฝ่าย
ก่อนอดีตคนขับรถจะกลับไปยังพูดทิ้งท้าย นายๆ เรื่องแต่งตั้งที่นายพูดมานั่น มันเชยไปแล้วลุง เดี๋ยวนี้ว่ากันด้วยน้ำหนัก ต้องชั่งกันเป็นกิโลๆ ไม่มีการนับและนายก็อย่าไปสอนตะเข้ให้ว่ายน้ำเลยครับ แล้วอดีตคนขับรถก็รีบขับรถออกไปทิ้งให้เรางง.