บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง
"ประสบการณ์คับด้ามปืน ของยอดนักสืบผู้การเอลวิส"
อภินิหารอาจารย์เสริฐฯ ตอนที่ 4 (ลองของ)
หน้าหลัก ›› บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง ›› อภินิหารอาจารย์เสริฐฯ ตอนที่ 4 (ลองของ)
ผมไม่เชื่ออะไรที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์และอะไรที่พิสูจน์ไม่ได้ ทำไมผมต้องไปยุ่งเรื่องอาจารย์เสริฐฯ จุดเริ่มต้นมาจากพรรคพวกผมชื่อ เสี่ย กอ (คุณกิติฯ) คนชอบพอกันโฆษณาสรรพคุณว่าอาจารย์เสริฐฯสามารถเสก “พระเครื่อง” ให้บินได้ ตอกย้ำด้วยเรื่อง “เหล็กไหล”เข้าไปอีก ผมใจร้อนท้าไปพิสูจน์กันวันนั้นเลย เสี่ย กอฯพาผมไปที่บ้านอาจารย์เสริฐฯหลังสถานฑูตจีน เป็นวันที่อาจารย์เสริฐฯว่างลูกค้าพอดี บอกตรงๆว่าผมไม่เชื่อ สิ่งแรกที่อาจารย์เสริฐฯให้ทดลองก็คือการหยิบไพ่ ไพ่ของอาจารย์เสริฐฯใบใหญ่มากโตเท่าฝ่ามือและครบสำรับ ให้ผมสับไพ่ด้วยตนเอง อาจารย์เสริฐฯคลี่ไพ่วางเรียงกับพื้นแล้วให้ผมหยิบขึ้นมา ๑ ใบ ผมหยิบทีไรก็ได้ไพ่ตัวเดิม หยิบถึง ๕ ครั้ง ตรวจสอบไพ่ทั้งสำรับก็ไม่พบว่ามีซ้ำกัน การเล่นกลผมก็มีความถนัดรู้ดีว่าต้องมีอุปกรณ์ แต่ไพ่ของอาจารย์เสริฐฯจับมาพิจารณาดูทีละแผ่นก็ไม่เห็นมีอะไรพิเศษ ตอนนั้นบ้านอาจารย์เสริฐฯยังเป็นบ้านสองชั้นพื้นไม้กระดาน เลือกไพ่กันที่ชั้นล่าง ต่อไปอาจารย์เสริฐฯพาขึ้นไปชั้นบน เป็นห้องพระ มีทั้งพระและเทวะรูปปางต่างๆมากมาย ฉากหลังเป็นผ้าสีแดง ไฟก็ใช้โทนสีออกแดงๆผสมแสงสว่างจากเทียน กลิ่นธูปซึ่งจุดเป็นกำ โชยเข้าจมูก บรรยากาศน่าขนลุก อาจารย์เสริฐฯเรียกเจ้า “หนุมาน”(กะโหลกค่าง) เจ้า “หนุมาน” พยักหน้าหงึกๆ อาจารย์เสริฐฯสั่งให้ “หนุมาน”ตีลังกาโชว์ ทันใดนั้นเจ้าหัวกะโหลกค่างก็สปริงตัวสูงแล้วหมุนควงประมาณ ๒ รอบตกบนพื้นพรม(ปูพื้นห้องด้วยพรมสีแดง) สั่งให้ “งู”(แท่งดินสอดำ) วิ่งไปกัด “หนุมาน” สิ้นสั่ง ดินสอดำที่วางราบอยู่กับพื้นก็ไถลไปหาหัวกะโหลกค่างอย่างรวดเร็ว ผมงง มันเป็นได้ยังไง หยิบหัวกะโหลกค่าง หยิบดินสอขึ้นดูก็ปกติไม่มีกลไกอะไร ต่อไปอยากลองเรื่องพระ ผมมีพระสมเด็จบางขุนพรหมเลี่ยมทองอยู่ ๑ องค์ แกะออกจากสร้อยคอส่งให้อาจารย์เสริฐฯ นำใส่แก้วเปล่าวางอยู่พื้นตรงหน้า อาจารย์เสริฐฯป้อนคำถามยังพระเครื่อง ส่วนมากจะเป็นคำถาม จะให้บูชาด้วยอะไรถึงจะดี, มีพุทธคุณทางไหน ถ้าโดนใจพระเครื่องก็จะกระดกขึ้นจนกรอบองค์พระตีข้างแก้วน้ำดังเผียะๆ แทนคำตอบ ไม่ถูกใจก็จะนิ่งอยู่เฉยๆ คำถามสุดท้ายอาจารย์จะบอกกับพระเครื่องว่า “เอาให้เห็นชัดๆหน่อย” ทันใดนั้นพระเครื่องที่อยู่ในแก้วก็กระโดดลอยพลิกตัวกลางอากาศหลายรอบ ผมต้องรีบตะครุบรับไว้กลัวตกพื้นแตก วันแรกกลับไปด้วยความงุนงง

ผมไปพบอาจารย์เสริฐฯอีกหลายครั้งเนื่องจากไปเล่าให้ใครๆฟังทุกคนอยากจะลอง ผู้ที่ผมพาไปมี ๑ คุณณรงค์ เสาวลักษ์ (ปัจจุบันบริหารรีสอร์ทอยู่ที่โป่งแยง จังหวัดเชียงใหม่) เสธฯน้อย (พล.อ.สุรพล ชินะจิตร นายทหารนักปฏิวัติปัจจุบันเกษียรแล้ว ขณะนั้นยังมียศแค่ พล.ต.) รวมทั้ง “อาอี๊” ที่เปิดร้านขายอาหารซีฟู้ดแถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่ก็ไป ทุกคนต่างได้รับประสบการณ์เช่นเดียวกับผม

เรื่องของอาจารย์เสริฐฯพูดคุยกันทุกครั้งเมื่อมีการร่วมวงสนทนาในกลุ่มเพื่อนฝูงว่า “เล่นกล”หรือ”ไสยศาสตร์” จนต้องมีการพิสูจน์กัน ครั้งแรกผมไปกับคุณชินฯ คุณณรงค์ฯ ผมเอาแม่เหล็กแท่งยาวประมาณ ๒ นิ้วฟุตมัดติดข้อมือ สวมเสื้อแขนยาวปิดทับ พากันไปที่บ้านอาจารย์เสริฐฯขอดูหัวกะโหลกค่าง อาจารย์ฯก็คงรู้ว่าพวกเราไปจับผิดแต่ก็ยอมทำให้ดูเพราะรู้ว่าผมเป็นตำรวจ เอาแม่เหล็กจับที่หัวกะโหลกก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น ตรวจดูที่พื้นกระดานบ้านก็ไม่พบกลไกอะไร ยังงงอยู่จนถึงทุกวันนี้

ต่อมามีคดีทุจริตเกิดขึ้นที่ธนาคารกรุงเทพฯ เงินในความรับผิดชอบของพนักงานหายไปหลายล้าน ผู้เกี่ยวข้องและเป็นที่น่าสงสัยมีด้วยกัน ๔ คน ผมรับผิดชอบคดีเรียกตัวสอบสวนแล้วไม่พบพิรุธ นึกถึงอาจารย์เสริฐฯเคยบอกว่าถ้าอยากจะรู้เรื่องอะไรให้ถามได้ ๓ ข้อ “วิญญาณ” จะตอบให้ เข้าทางเลยจะลองใช้บริการของอาจารย์เสริฐฯถ้า “วิญญาณ”บอกได้ถูกต้องผมดังแน่ ผมกับคุณชินฯ คุณณรงค์ฯทีมลองของพากันไปที่บ้านอาจารย์เสริฐฯ อาจารย์ฯสั่งให้เขียนคำถามลงในแผ่นทองแดงบางๆไม่เกิน ๓ คำถาม แล้วม้วนให้แน่น เอาแผ่นทองแดงใส่ในคนโท เอาน้ำแช่ ปิดปากคนโทให้แน่น นัดวันมาทำพิธี ผมกลับไปเตรียมสิ่งของอยู่หลายวัน ในใจอยากจะรู้เรื่องคดีถ้างานนี้สำเร็จผมจะต้องก้าวหน้าในหน้าที่การงาน อีกใจหนึ่งคิดว่าถึงเวลาที่จะ “ลองของ” อาจารย์ซะที ทีมงานปรึกษากัน ต้องจัดเตรียมของให้มันยุ่งยากกว่าปกติ ถ้าหากอาจารย์เสริฐฯจะเล่นกลก็ต้องลำบากหน่อยละ แต่ถ้าเป็นเรื่องของวิญญาณจริงก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร หาซื้อคนโทใส่น้ำซึ่งเป็นคนโทดินของเชียงใหม่ ท่านผู้อ่านคงนึกภาพออก ด้านล่างของคนโทป่องๆสำหรับใส่น้ำ ปากคนโทเป็นคอเล็กๆสูงขึ้นไปประมาณคืบมีจุกปิด ลงทุนสั่งกลึงแผ่นทองแดงบางๆโตสองฝ่ามือ ใช้เหล็กแหลมเขียนคำถาม ๓ ข้อลงไป ไม่ลืมที่จะเว้นที่ว่างไว้สำหรับคำตอบ เสร็จแล้วม้วนแผ่นทองแดงจนแน่นเล็กประมาณนิ้วก้อยใส่คนโทได้พอดี เอาน้ำใส่คนโทจนเต็มแล้วปิดจุกแน่น นำไปพบอาจารย์เสริฐฯ คราวนี้อาจารย์เสริฐฯถ้าไม่ใช่ของจริงต้องเสร็จผมแน่ ทีมลองของคณะเดิมไปด้วยกันทั้งหมด อาจารย์เสริฐฯนัดให้ไปกลางคืน ผมและคณะถึงบ้านอาจารย์เสริฐฯประมาณ ๒ ทุ่ม อาจารย์ฯให้ผมนำคนโทขึ้นไปทำพิธีข้างบนส่วนเพื่อนอีก ๒ คนนั่งคอยข้างล่าง อาจารย์เสริฐฯท่องอาคมเป็นภาษาเขมรผมนั่งพนมมือฟังแบบไม่รู้เรื่อง อาจารย์จุดเทียนทำน้ำมนต์ มีตอนหนึ่งที่อาจารย์เสริฐฯสั่งให้ผมนำน้ำมนต์ไปรดโคนต้นมะยมซึ่งปลูกอยู่หน้าบ้านแล้วให้ผมนั่งดูอย่าให้แมวเดินผ่าน อาจารย์กำชับว่ามันมีแมวสีดำอยู่ตัวหนึ่งอย่าให้มันเดินผ่านบริเวณที่เทน้ำมนต์เด็ดขาดไม่งั้นพิธีเสีย สั่งให้ผมเฝ้าดู ๑๐ นาที ผมปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด ในใจคิดว่าน้ำมนต์ที่เอาไปเทโคนต้นมะยมคงเป็นการเรียกวิญญาณและวิญญาณคงจะกลัวแมวดำ ดูนาฬิกาครบ ๑๐ นาทีแล้วรีบกลับขึ้นไป อาจารย์เสริฐฯยังคงร่ายเป็นภาษาเขมรอยู่ สักพักก็หยุดแล้วส่งคนโทให้ผม สั่งว่า “เอาไปบูชาในห้องพระ ครบ ๗ วันจึงเปิด จะมีคำตอบอยู่ในนั้น” คณะเดินทางกลับ ระหว่างทางกลับชาวคณะที่ไปด้วยซักถามว่าผมขึ้นไปชั้นบนบ้านทำอะไรบ้าง ผมบอกว่าอาจารย์เสกคาถาอาคมแล้วสั่งให้ผมลงไปเฝ้าที่ต้นมะยมอย่าให้แมวดำวิ่งผ่านจะเสียพิธีและอาจารย์สั่งให้เก็บคนโทไว้ ๗ วันจึงค่อยเปิดอ่าน ถึงตอนนี้เองคณะเราต้องหยุดรถทะเลาะกัน คุณณรงค์ฯบอกว่าควรเก็บไว้ ๗ วันถึงเปิดดู ถ้าเปิดก่อนจะไม่เห็นคำตอบเพราะผิดเงื่อนไข คุณชินฯแย้ง “ต้องเปิดเดี๋ยวนี้เลย หากพบว่าไม่มีคำตอบก็ใส่กลับเข้าไปใหม่ครบ ๗ วันเปิดแล้วถ้ามีคำตอบ จะกลับไปกราบตีนอาจารย์เสริฐฯ” คำแนะนำของคุณชินฯมีเหตุผลดี ในที่สุดคณะเราเปิดดูกัน เทแผ่นทองแดงออกจากคนโท แผ่นทองแดงยังม้วนอยู่แน่นกว่าเก่า คลี่แผ่นทองแดงออกมามีคำตอบเป็นภาษาไทยชัดเจนทั้ง ๓ ข้อ เขียนด้วยเหล็กแหลมลายมือสวยมาก สำหรับคำถามที่ผมอยากทราบเกี่ยวกับผู้กระทำผิดโกงธนาคารมีคำตอบว่า “วิญญาณไม่สามารถตอบได้” โดยอ้างว่าผิดอะไรสักอย่างซึ่งผมจำไม่ได้ ส่วนคำถามข้ออื่นๆก็เป็นคำตอบแบบกลางๆเหมือนหมอดูทั่วไป

คำตอบจะถูกจะผิด ตอบได้ หรือ ไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ มันเข้าทางของคุณชินฯ ถ้าเปิดดูตอนนี้แล้วไม่มี ครบ ๗ วันแล้วมี ถึงจะของแน่ แต่นี่มันมีอยู่แต่แรกเลย อาจารย์ต้องเล่นกลแน่ คณะเราทบทวนอยู่จนกลางดึก พบข้อพิรุธ

๑ ทำไมผมจึงต้องขึ้นไปทำพิธีคนเดียว คนอื่นนั่งคอยข้างล่าง ( ก็เพราะอาจารย์ต้องการให้ปลอดคน เพื่อสะดวกในการที่จะทำอะไรสักอย่างในช่วงที่ผมไม่ได้อยู่ด้วย เช่น ใช้เวลาเขียนคำตอบลงในแผ่นทองแดง )

๒ ทำไมผมต้องไปนั่งเฝ้าที่ต้นมะยม คอยไล่แมวดำที่จะมาทำลายพิธีเป็นเวลาถึง ๑๐ นาที ทำไมไม่ใช้เพื่อนผมซึ่งนั่งอยู่เฉยๆถึง ๒ คน ( อาจารย์คงจะต้องการใช้เวลาตอนนี้ในการเขียนคำตอบ )

แบบนี้เป็นการเล่นกลแน่ เสียเวลาเปล่า ทันใดนั้นคนโทพร้อมแผ่นทองแดงก็ลอยลิ่วไปอยู่ในคูน้ำข้างถนน เสียดายน่าจะเอาลายมือในแผ่นทองแดงไปตรวจเปรียบกับลายมืออาจารย์เสริฐฯ ผมไม่รู้ว่าจะเอาชนะไปทำไม แค่รู้ว่าโดนหลอกก็พอแล้ว แต่เรื่องกะโหลกค่างตีลังกา พระกระโดดออกจากแก้ว เรื่องของเหล็กไหล ยังพิสูจน์ไม่ได้

ผมไม่ได้ไปพบอาจารย์เสริฐฯนานกว่า ๑๐ ปี อาจารย์เสริฐฯก็ไม่เคยติดต่อผม ก็คงจะรู้ว่าผมโกรธจึงหายเงียบไป แต่ผมต้องย้อนกลับไปหาอาจารย์เสริฐฯอีกครั้งและได้พบกับความเหลือเชื่ออีก ติดตามตอนที่ ๕

"คุณอังกูรเล่นหนังด้วยหรอ?"
"โห...ประกบคู่กับพี่เอกสรพงษ์ด้วย"
"คลาสสิคสุดๆ...อยากดูเต็มๆจัง"
และอีกมากมายสำหรับเสียงตอบรับ เนื่องจากล่าสุดทีมงานทำ VDO "เปิดปูมฮีโร่" มาให้ได้ชมกัน วันนี้ทีมงานจีงขอสมนาคุณแฟนๆ ตามเสียงเรียกร้องครับ เราใช้เวลาตามหาภาพยนตร์สุดคลาสสิคเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงมือแฟนๆ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ...

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์)

ตอน 1ตอน 2ตอน 3
ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 1 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 2 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 3
ติดตามกันมานาน
จนเป็นแฟนประจำกันก็มาก...
แต่หลายๆท่านคงยังอยากรู้จักคุณอังกูร (007) ในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกลงไป
ถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาเป็นฮีโร่ของเรา
ในวันนี้ เราจึงไม่รอช้าจัดเป็น VDO
ให้ชมกันอย่างจุใจ

(คลิ๊กที่ รูปเพื่อดูวีดีโอ)

พลังสกาล่าร์ ร้องทุกข์ที่นี้
จำนวนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์