บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง
"ประสบการณ์คับด้ามปืน ของยอดนักสืบผู้การเอลวิส"
คนหาย ไปตามหาที่ไหน ?
หน้าหลัก ›› บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง ›› คนหาย ไปตามหาที่ไหน ?










สถิติคนหายบ้านเรามากจนน่ากลัว มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่แปลกก็คือคนโตๆรู้ประสาแล้วก็ยังหาย หลงทางกลับบ้านไม่ถูกหรือไง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจก็มีหายเหมือนกัน “จ่าเปิ๊ม” ตำรวจลูกน้องผมขับมอเตอร์ไซค์จากที่ทำงาน ๑๐ ปีกว่ายังไปไม่ถึงบ้าน คนเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหน น่าศึกษา ช่วงที่รับราชการก็ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้ เด็กหายตามยากสุดเพราะตัวเด็กไม่ได้ช่วย เวลาผ่านเลยไปยิ่งนานก็ยิ่งจำกันไม่ได้ เคยมีผู้ปกครองเผลอเลอปล่อยลูกหลานอายุ ๓-๔ ขวบเล่นลำพังหน้าบ้าน คนร้ายนั่งรถผ่านมาอุ้มเด็กขึ้นรถไปต่อหน้าต่อตา ไม่มีสาเหตุสืบยาก โชคดีที่ กทม.ติดกล้องโทรทัศน์วงจรปิดไว้พอช่วยนักสืบคลำหาได้บ้าง
การติดตามต้องตั้งประเด็นก่อนเสมอว่าน่าจะเป็นเพราะเหตุใด ถ้าเป็นเด็กเล็กบางทีพ่อแม่เลิกกันตกลงแบ่งลูกไม่ได้ก็หาวิธีฉกเอาไป สืบตามประเด็นที่สงสัยจนชัดเจนแล้วไม่ใช่คราวนี้ก็ต้องเหวี่ยงแหหากันไปทั่ว สาวๆหายก็ต้องตั้งประเด็นชู้สาวไว้ก่อน คนใกล้ชิดพอจะรู้เบาะแสหรือไม่ก็ตรวจสอบจากประวัติการใช้โทรศัพท์ เรื่องนี้ตำรวจเก่ง อันดับแรกก็คงต้องไปที่สถานีตำรวจท้องที่ แต่ก็มีหลายรายที่โทรปรึกษาตำรวจให้รอ ๒๔ ชั่วโมงก่อน รอบ้าบออะไรคนจะเป็นจะตายมันรอได้เมื่อไหร่ ผมต้องประสานให้ฝ่ายสืบสวนลงมือตรวจสอบทันที ในที่สุดก็พบอยู่กับหนุ่ม internet ถึงกันอยู่ทุกวัน บางรายตามเจอที่ซ่อง สถานค้าประเวณีที่แฝงตัวในรูปธุรกิจต่างๆ แต่คนที่ตั้งใจจะตามหาไม่เจอดันไปพบรายอื่นๆก็ช่วยเหลือกันไป บางรายก็กลายเป็นศพ แนะให้ตรงไปที่มูลนิธิต่างๆที่เก็บศพ เจ้าหน้าที่จะถ่ายภาพใบหน้าเก็บไว้ จุดต่อไปก็โรงพยาบาลที่ทำการชันสูตรพลิกศพ เจ้าหน้าที่จะถ่ายรูปหน้า ตำหนิต่างๆในร่างกายรวมทั้งเสื้อผ้า ถ้ายังไม่เจอก็ต้องมุ่งป่าช้าฝังศพไม่มีญาติหรือตามสถานฌาปนกิจ อย่างอดีต สส.กำธร ราชโรจน์ หายตัวไปตามเจอที่สุสานวัดดอน แต่ก็ไม่แน่บางรายก็ตั้งใจหายตัวเพื่อหนีคดี หนีหนี้ ถ้าตัดสังคมได้ ไม่ติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกก็หากันไม่เจอ แม้แต่เพื่อนผมเองเกษียณอายุแล้วบอกกับครอบครัวว่าขอไปทำสิ่งที่ตัวเองชอบ เมียถามว่าทำไรก็บอกว่าไปสมาธิตามวัดในป่า เมียไม่ขัดใจแต่ที่ไหนได้สายสืบส่งข่าวว่าไปอยู่กับเมียน้อย ก็บอกแล้วไงขอไปทำในสิ่งที่ชอบ
ผู้สันทัดกรณีบอกว่าการหายตัวอาจจะเกี่ยวข้องกับ “โรคอุ้ม” มีคนเถียงว่าไม่เคยมีสาเหตุกับใครจะเกิดโรคนี้ได้อย่างไร เกิดแน่ถ้าทำตัวเป็นตู้ทองตู้เพชรเคลื่อนที่ โดนไปกี่รายแล้ว ถ้าเป็นสาวสวยก็อาจถูกอุ้มไปข่มขืนแล้วฆ่าทิ้ง อย่าคิดว่าเมืองไทยเป็นเมืองพระหรือที่ชาวต่างชาติยกย่องว่า “สยามเมืองยิ้ม” ก็เพราะคิดแบบนี้ตายไปแล้วกี่ราย ประมาทไม่ได้เลย ยิ่งใกล้การเปิดประเทศเสรีเป็น “ประชาคมอาเซี่ยน” ดีใจกันนักหนาเศรษฐกิจจะรุ่ง ลืมคิดไปว่าอ้าแขนรับเอาโจรเข้ามาเท่าไร ปัจจุบันก็แห่เข้ามาอยู่เป็นกะตั้ก ตำรวจไทยไม่ตกงานแน่แต่อย่าลืม ประชาชนต้องช่วยตัวเองก่อนนะครับ
ย้อนมาติดตามหาคนหายกันต่อ เรื่องคนหายมีมานานแล้วปัจจุบันก็ยังคงมี ทำให้นึกถึง ๒ สามีภรรยาที่หายตัวไปจนเป็นข่าวต่อเนื่องบนสื่อทุกแขนงติดต่อกับหลายสัปดาห์ ไปพัวพันกับหมอคนหนึ่งที่โรงพยาบาลตำรวจ ไม่ได้เป็นหมอตรวจประจำผมแต่เพื่อนผมตรวจรักษาอยู่ ยืนยันว่าเป็นหมอที่ดีในวิชาชีพเอาใจใส่ดูแลผู้ป่วย วิถีชีวิตนอกโรงพยาบาลใครจะไปรู้ ผมเองก็เพิ่งทราบว่าหมอมีปืนเป็นสิบๆกระบอก พอรู้อย่างนี้ก็พอวิเคราะห์ออก คนมีปืนก็ต้องชอบยิงปืน ถ้าจะรู้ว่าปืนกระบอกไหนดีก็ต้องซ้อมยิงก่อน การซ้อมยิงก็ต้องหาเป้า สถานที่ซ้อมยิงก็ต้องไปสนามยิงปืน แต่ถ้ามีสถานที่บริเวณกว้างๆไม่รบกวนใครก็ซ้อมยิงในที่ของเรา ไม่ได้ผิดกฎหมายใดๆเพราะไม่ได้ไปยิงในที่สาธารณะ หมู่บ้าน ในเมืองและไม่ได้ก่อความเดือดร้อนรำคาญผู้ใด คนมีปืน ยิงปืนเป็น จะใจกล้ามีเรื่องอะไรคว้าปืนก่อน เรียกว่า “พฤติกรรมศาสตร์” คนถนัดอะไร เคยทำอะไรก็จะทำอยู่อย่างนั้น เป็นเรื่องของการวิเคราะห์นะครับเอาเป็นหลักฐานอ้างอิงอะไรไม่ได้
ว่าเรื่องสองผัวเมียหายตัวต่อ ญาติพี่น้องใช้เวลาติดตามถึง ๓ ปี ไม่ละความพยายามจริงๆ อาชญากรรมย่อมทิ้งร่อยรอยเสมอ ในที่สุดก็พบรถพาหนะของสองสามีภรรยาที่หาย ที่ในประเทศไทยมีตั้งเยอะดันไปซ่อนไว้ในบ้านตัวเอง นักสืบเรียกว่าแผลเปิดแล้ว ทีนี้ก็เริ่มแคะแกะเกาที่แผลขยายผลออกไปเรื่อยๆจนเจอโครงกระดูก ก็ฝังไว้ในไร่ตัวเองอีกแหละ หมอเก่งเฉพาะเรื่องรักษาโรคแต่เรื่องร่องรอยพยานหลักฐานถือว่าไม่ผ่าน เรียกว่า “ขว้างงูไม่พ้นคอ” นี่นะ หากหมอมีวิญญาณนักสืบสักนิดไม่มีทางทำไรหมอได้เลย อีกประการหนึ่งหมอก็มีหอกอยู่ข้างแคร่ อาวุธของหมอกลับมาทิ่มแทงตัวเอง ก็คนที่อยู่ใกล้ๆตัวดันไปให้ข้อมูลกับฝ่ายตรงข้าม ข้อนี้ถือว่าหมอประมาทขาดความรอบคอบ
เจอโครงกระดูกคนสามโครงแต่ตรวจพิสูจน์ ดีเอ็นเอ ไม่ได้ว่าเป็น ๒ สามีภรรยาที่หายตัว คนติดตามข่าวเกิดอารมณ์หาว่าตำรวจที่สอบสวนคดีช่วยกันเพราะผู้ต้องหาเป็นตำรวจ ผมชี้แจงแสดงเหตุผลก็ยังไม่ยอมเข้าใจ ขอถือบทความนี้บอกกล่าวให้ผู้ไม่สันทัดกฎหมายได้ทราบ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาซึ่งใช้เป็นหลักในการสอบสวน
มาตรา ๑๒๐ “ห้ามมิให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีใดต่อศาลโดยมิได้มีการสอบสวนในความผิดนั้นก่อน” พูดง่ายๆถ้ายังไม่ได้สอบสวน หรือ สอบสวนยังไม่เสร็จก็ไม่สามารถฟ้องผู้กระทำผิดได้
มาตรา ๑๒๙ “ให้ทำการสอบสวนรวมทั้งการชันสูตรพลิกศพ................ถ้าการชันสูตรพลิกศพยังไม่เสร็จ ห้ามมิให้ฟ้องผู้ต้องหายังศาล” เป็นอันว่าเด้งที่สอง ถ้าเป็นคดีที่มีการตายเกิดขึ้นต้องมีการชันสูตรพลิกศพให้เสร็จสิ้นก่อนถึงจะฟ้องได้
มาตรา ๑๕๔ “ให้ผู้ชันสูตรพลิกศพทำความเห็นเป็นหนังสือแสดงเหตุและพฤติการณ์ที่ตาย ผู้ตายคือใคร ...............................” ประเด็นที่ว่า ผู้ตายคือใครนี่แหละที่เป็นปัญหา เมื่อพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นใครก็ทำรายงานชันสูตรพลิกศพไม่ได้ การชันสูตรพลิกศพไม่ได้ก็เท่ากับไม่มีการชันสูตร มันก็เลยฟ้องไม่ได้ แจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำผิดก็ไม่ได้ มันเป็นเช่นนี้แล
ชอบใจหมอตอบนักข่าวที่ถามว่า โครงกระดูกคนไปอยู่ในไร่ของหมอได้อย่างไร หมอตอบว่า “ผมจะไปรู้เลอะ ไร่ผมอาจเป็นป่าช้าเก่าก็ได้” 5555 หมอนี่จี้จริงๆ.


"คุณอังกูรเล่นหนังด้วยหรอ?"
"โห...ประกบคู่กับพี่เอกสรพงษ์ด้วย"
"คลาสสิคสุดๆ...อยากดูเต็มๆจัง"
และอีกมากมายสำหรับเสียงตอบรับ เนื่องจากล่าสุดทีมงานทำ VDO "เปิดปูมฮีโร่" มาให้ได้ชมกัน วันนี้ทีมงานจีงขอสมนาคุณแฟนๆ ตามเสียงเรียกร้องครับ เราใช้เวลาตามหาภาพยนตร์สุดคลาสสิคเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงมือแฟนๆ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ...

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์)

ตอน 1ตอน 2ตอน 3
ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 1 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 2 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 3
ติดตามกันมานาน
จนเป็นแฟนประจำกันก็มาก...
แต่หลายๆท่านคงยังอยากรู้จักคุณอังกูร (007) ในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกลงไป
ถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาเป็นฮีโร่ของเรา
ในวันนี้ เราจึงไม่รอช้าจัดเป็น VDO
ให้ชมกันอย่างจุใจ

(คลิ๊กที่ รูปเพื่อดูวีดีโอ)

พลังสกาล่าร์ ร้องทุกข์ที่นี้
จำนวนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์