บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง
"ประสบการณ์คับด้ามปืน ของยอดนักสืบผู้การเอลวิส"
ผู้กองยาว






สมัยที่หน่วยสืบสวนของตำรวจนครบาลมีเพียง 3 กอง คือ เหนือ, ใต้, ธนฯ เราเรียกกันสั้นๆว่า “สืบเหนือ” “สืบใต้” และ “สืบธนฯ” ทั้งสามกองทำงานแข่งขันกัน กองสืบเป็นเสมือนมือขวาของนครบาล เป็นมือข้างถนัดเจ้านายเรียกใช้บ่อย ผลงานที่ทำให้หน่วยมีชื่อเสียงขึ้นอยู่กับการสืบสวนจับกุม ผู้บังคับบัญชาระดับสูงจึงต้องคัดเลือกตัวบุคคลที่มีฝีมือเข้าไปอยู่ในสังกัดกองสืบทั้งสาม เรียกว่าต้อง “มือดี” จึงจะได้รับการวางตัว กองสืบจึงเป็นแหล่งผลิตมือปราบดังๆระดับพระกาฬหลายท่าน ตำรวจกองสืบทำงานเสี่ยงอันตราย สมัยก่อนไม่ค่อยมีวิทยาการช่วยต้องใช้ฝีมืออย่างเดียว เล่นกันแบบลูกทุ่ง จะจับคนร้ายทีต้องนั่งเฝ้าซุ่มโป่งกันเป็นเดือน บางคดีเฝ้ากันข้ามปี มีทั้งการเข้าเกลียว การสะกดรอยติดตาม การทำงานของกองสืบทำกันเป็นทีมแต่ละทีมมี รองผู้กำกับบ้าง สารวัตรบ้าง เป็นหัวหน้าชุด ลูกทีมก็เป็นพวกรองสารวัตรและชั้นประทวน ทีมหนึ่งๆจะมีประมาณ 4-5 คน แต่ละกองจะมีกันหลายทีมรวมทั้ง “ทีมเก็บ” อีก 1 ทีม ทีมเก็บนี่สำคัญมากเป็นหัวใจของหน่วย ถือคติ “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” จึงต้องเลือกเอาผู้อาวุโสซื่อสัตย์และแนบเนียนอยู่ในทีมนี้ บางหน่วยก็เรียกว่า “ชุดแม่บ้าน” ส่วนทีมอื่นๆเป็นหน่วยปฏิบัติการเต็มไปด้วยเสือสิงห์กระทิงแรดรวมทั้ง “นักบิน” แต่ละคนล้วนมีฤทธิ์ใครเป็นหัวหน้าต้องขี่ให้ดี พลัดตกจากหลังนอกจากเจ็บแล้วอาจโดนกัด แต่ละทีมต้องแข่งขันกันอีก วัดความเด่นดังกันด้วยข่าว กองไหนมีผลงานจนได้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ถือว่ามือเข้าขั้น กองสืบจึงเป็นที่สิงสถิตของบรรดาเหยี่ยวข่าวหนังสือพิมพ์หลายฉบับ

ผมวนเวียนทำงานกองสืบนครบาลอยู่ 2 แห่ง ครั้งแรกที่สืบธนฯ แห้งแล้งที่สุด พื้นที่ห่างไกลความเจริญมีแต่เทือกสวนไร่นา มีโรงแรมอยู่เพียง 2 แห่ง ที่นี่ต้องกัดก้อนเกลือกิน ตรงกันข้ามกับคติที่ว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง งานไม่ออก เงินค่าสายไม่มี สมัยนั้นที่นั่นจึงเต็มไปด้วย “นักบิน” โชคดีที่ได้เจ้านายใจดี “รองเทียว” เป็นกัปตันใหญ่คอยดูแลเยียวยานักบินที่เพลี่ยงพล้ำ สมัยที่ผมอยู่ก็มีมือระดับพระกาฬอยู่หลายคน อาธิ ประสิทธิ์ พุฒฯ, เดือน มังคะฯ ประสาร ปิ่นฯ อีกหลานคนนึกชื่อไม่ออก อยู่สืบธนฯปีกว่าๆวิ่งย้ายไปอยู่กองสืบใต้เป็นแหล่งที่สอง ที่ใหม่พอมีน้ำมีเนื้อผู้บังคับบัญชาวางระบบดีมีแม่บ้านดูแล พอมีเงินค่าข่าวค่าข้าวลูกน้องและค่าน้ำมัน งานจึงออกฉะลุย สมัยนั้นงานจึงแข่งกันอยู่ 2 กองคือ สิงห์เหนือ(กองสืบสวนนครบาลเหนือ) กับเสือใต้(กองสืบสวนนครบาลใต้) มีผู้แอบต่อท้ายอีกว่า “สบายธนฯ” (ก็เพราะฝั่งธนฯแห้งแล้งกันดารเจ้านายเลยไม่ค่อยเพ่งเล็ง กองสืบธนฯจึงอยู่แบสบายๆ)

ชีวิตราชการก้าวหน้าเพราะได้ลูกน้องดีและมีนายดัน ตัวเองก็ต้องดีด้วยนะ ผมอยู่ที่สืบสวนนครบาลใต้ถึง 7 ปีได้เจ้านายมือปราบทั้งนั้น ท่านอมร ยุกตนันท์ ท่านธนู หอมหวล ท่านโสภณ วาราชนนท์ ทั้งสามท่านเป็นปรมาจารย์ถ่ายทอดวิทยายุทธการสืบสวนให้ โชคดีที่ได้ลูกน้องฝีมือดีอีกด้วยเลยทำให้ผมเริ่มมีชื่อมีชั้นที่นี่ ผมไม่เคยลืมลูกน้อง มีโอกาสก็จะสนับสนุนให้ก้าวหน้า ที่ว่าลูกน้องดีนั้นคือทุกคนมีความรับผิดชอบซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ เมื่อมอบหมายงานไปแล้วติดตามแบบกัดไม่ปล่อย ทุ่มเทอุทิศตนให้กับงานแบบทิ้งลูกทิ้งเมีย ลูกน้องที่ผมลืมไม่ได้ก็มี 1 ผู้กองยาว 2 หมวดสมคิด 3 หมวดโต้ง 4 หมวดทรงพรฯ 5 หมวดสุเมธฯ 6 หมวดสุวัฒน์ฯ ความจริงมีหลายคนแต่ขอเอ่ยถึงแค่ 6 คนเพราะอยู่ในทีม ส่วนลูกน้องชั้นประทวนอีกเป็นกะตั๊กยังไม่ขอกล่าว จะกล่าวถึงหัวหน้าชุดรองจากผมก่อนคือ “ผู้กองยาว”

“ผู้กองยาว” เป็นชื่อเล่นของ ร.ต.อ.สุรศักดิ์ สุทธารมณ์ (ยศในขณะนั้น) พวกตำรวจรุ่นใกล้เคียงกับสุรศักดิ์ฯเค้าเรียกกันว่า “ยาว” ผมก็เรียกตาม ไม่รู้ว่าชื่อเล่นที่เรียกกันว่า “ยาวๆ” นี่เรียกกันเพราะอะไร ถ้าเป็นรุ่นเดียวกับผมเราจะตั้งชื่อเล่นตามลักษณะเด่นของ “ของลับ” รุ่นผมจึงมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อ “ถ่อ” คิดเอาเองแล้วกันว่ามันเป็นยังไง ผมมอบหมายงานให้ผู้กองยาวหลายงาน ที่จำได้แม่นยำไม่ลืมเลือนคือให้สืบจับเสือเอ็ดฯหรือนายประสบ มอบโคสุวรรณ ผู้ต้องหาคดีปล้นทรัพย์ชิงทรัพย์ 20 กว่าคดี เสือเอ็ดฯเคยถูกจับกุมตัวได้แต่เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จึงถูกส่งตัวไปรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลตำรวจ ด้วยความที่เสือเอ็ดฯมีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงแพรวพรายจึงหลบหนีการควบคุมที่โรงพยาบาลไปได้ ผู้กองยาวติดตามแบบกัดไม่ปล่อยทุ่มเททั้งกำลังและเงินทอง ใช้เวลาอยู่นานหลายเดือนจึงทราบว่าหลบไปอยู่ในหมู่บ้านแถวอำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม อยู่ในไร่อ้อยกลางดงกลางป่า สืบจนได้ข่าวว่าเสือเอ็ดฯชอบสูบกัญชา ผู้กองยาวจึงได้ปลอมตัวเป็นนักค้ากัญชาเข้าไปเร่ขายกัญชาในหมู่บ้าน กว่าจะเข้าถึงจุดไม่ได้ทำได้ง่ายๆ ต้องใช้วิชา “เข้าเกลียว” สร้างความสัมพันธ์กับชาวบ้านไปเรื่อยๆ กว่าจะถึงตัวก็ต้อองเข้าๆออกๆหลายเที่ยว เป็นนักค้ากัญชามันก็ต้องสูบกัญชาด้วยมันถึงจะกลมกลืน สืบจับคดีนี้จนตัวเองเกือบติดกัญชา ผู้บังคับบัญชาเห็นท่าไม่ดีอาจโดนมอมกัญชาได้จึงให้หมวดสุวัฒน์ฯพ่วงไปด้วย สุวัฒน์ฯผอมสูงหุ่นเหมือนขี้ยาแต่คออ่อน อัดเข้าไปไม่กี่บ้องลากแตกลากแตนผู้กองยาวต้องหามขึ้นท้ายมอไซด์ออกมา วันนั้นทั้งสองหายเข้าไปในหมู่บ้านนานจนพรรคพวกที่คอยสนันสนุนอยู่ด้านนอกเป็นห่วง ได้ความว่าไปเจอตัวเสือเอ็ดฯเลยผูกสัมพันธ์กันหนัก พี้กัญชากันเต็มที่ นี่หากว่าเสือเอ็ดฯรู้เป็นตำรวจคงถูกเชือดเป็นศพไปแล้ว

จากผลการสืบของผู้กองยาวผมในฐานะหัวหน้าชุดรายงานผู้กำกับธนู หอมหวล ผู้กำกับการกองสืบสวนนครบาลใต้ สมัยนั้นนักข่าวเรียกท่านว่า “เชอร์ล็อกนู” ท่านรองอมร ยุกตนันท์ เป็นรองผู้การ ฯคุมงานด้านสืบสวน ยกกำลังไปจับกุม พร้อมด้วยกองทัพนักข่าวอีกหลายสิบคน พวกเรามั่นใจว่าต้องจับได้แน่เพราะผู้กองยาวเข้าไปพี้กัญชากับเสือเอ็ดฯหลายครั้งจนคุ้นเคย จำสถานที่จำทางเข้าได้ วันเข้าจับกุมผู้กองยาวให้ผมในฐานะหัวหน้าชุดเป็นผู้นำกำลังเข้าจู่โจม ก่อนหน้านั้นก็ได้ไปดูสถานที่ดูบ้านดูช่องหมายตากันไว้เรียบร้อย พอถึงตอนปฏิบัติการณ์เข้าจริงๆผมพาเข้าผิดที่ เลยบ้านเสือเอ็ดฯไปหลายร้อยเมตร ผู้กองยาวนั่งรถตามหลังกว่าจะแซงมาบอกได้เวลาก็ผ่านไปหลายนาที หวนกลับไปใหม่คราวนี้ผู้กองยาวนำหน้า ปรากฏว่าเจอแต่กองเสื้อผ้า เสือเอ็ดฯหนีไปได้เพราะความผิดพลาดของผมแท้ๆ ฝังใจจำความผิดพลาดมาจนบัดนี้

ผิดพลาดครั้งนั้นเป็นบทเรียน ตั้งแต่นั้นมาเรื่องไหนใครทำให้คนนั้นเป็นพระเอก ผู้กองยาวซึ่งเหนื่อยมากกว่าใครไม่ปริปาก(อาจจะด่าอยู่ในใจ) สืบสวนต่อไม่ลดละ นี่แหละที่ผมเรียกว่า “กัดไม่ปล่อย” อีกไม่กี่เดือนต่อมาผู้กองยาวก็สมารถจับกุมเสือเอ็ดฯได้ คราวนี้ผู้กองยาวจับเองเลยไม่พลาด

ผู้กองยาวนอกจากจะมีความสามารถในการสืบสวนแล้วยังเก่งในด้านบทกลอน กวี อีกด้วย แต่งเพลงดังๆให้กับหลายค่ายเพลง เพลงหล่อลากดิน, อีสานแล้ง, จันทร์เจ้าขา ฯลฯ มีผู้สร้างภาพยนตร์เอาเพลงของผู้กองยาวไปสร้างเป็นหนัง “ฉิ่งฉับทัวร์” คติพจน์ประจำกองปราบปรามผู้กองยาวก็เป็นผู้แต่ง ผมชอบมากอยู่ประโยคจำจนขึ้นใจ “.....ถ้าพึ่งใครไม่ได้มาที่นี่.....” โห...เพียงแค่ประโยคเดียวก็โดนแล้ว ยังมีผลงานเพลงอีกมากมาย ความสามารถในบทกวีของผู้กองยาวเพียงแค่เวลานั่งขี้ก็แต่งเพลงเกี่ยวกับ “ขี้” ได้เป็นเรื่องเป็นราว แถมยังวาดภาพสีน้ำได้อีกเป็นเยี่ยม อดีตลูกน้องของผมผู้นี้คือ “พลตำรวจตรีสุรศักดิ์ สุทธารมณ์” อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้มีผลงานโดดเด่นเรื่องเกี่ยวการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส เด็กเร่ร่อน เจ้าของตำหรับครูข้างถนน.
"คุณอังกูรเล่นหนังด้วยหรอ?"
"โห...ประกบคู่กับพี่เอกสรพงษ์ด้วย"
"คลาสสิคสุดๆ...อยากดูเต็มๆจัง"
และอีกมากมายสำหรับเสียงตอบรับ เนื่องจากล่าสุดทีมงานทำ VDO "เปิดปูมฮีโร่" มาให้ได้ชมกัน วันนี้ทีมงานจีงขอสมนาคุณแฟนๆ ตามเสียงเรียกร้องครับ เราใช้เวลาตามหาภาพยนตร์สุดคลาสสิคเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงมือแฟนๆ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ...

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์)

ตอน 1ตอน 2ตอน 3
ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 1 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 2 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 3
ติดตามกันมานาน
จนเป็นแฟนประจำกันก็มาก...
แต่หลายๆท่านคงยังอยากรู้จักคุณอังกูร (007) ในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกลงไป
ถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาเป็นฮีโร่ของเรา
ในวันนี้ เราจึงไม่รอช้าจัดเป็น VDO
ให้ชมกันอย่างจุใจ

(คลิ๊กที่ รูปเพื่อดูวีดีโอ)

พลังสกาล่าร์ ร้องทุกข์ที่นี้
จำนวนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์