บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง
"ประสบการณ์คับด้ามปืน ของยอดนักสืบผู้การเอลวิส"
ภัยในสถานที่จอดรถ
หน้าหลัก ›› บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง ›› ภัยในสถานที่จอดรถ




มีการสัมภาษณ์นักโทษซึ่งกระทำผิดเกี่ยวกับคดีชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์และข่มขืนถึงสถานที่ๆพวกเค้าไปดักกระทำผิด ข้อมูลที่ได้ อันดับต้นๆคือ ๑ สถานที่จอดรถตามห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้า ๒ ห้องน้ำสาธารณะ สำหรับสถานที่จอดรถเคยมีคดีเกิดขึ้นเป็นข่าวพาดหัวบนหน้าหนังสือพิมพ์ ขอพาย้อนสู่เรื่องราวในอดีตเพื่อเตือนความทรงจำ ให้เกิดความระมัดระวัง

เหตุเกิดบริเวณสถานที่จอดรถศูนย์การค้าใหญ่ย่านถนนศรีนครินทร์ คุณนิชาฯดีไซน์เนอร์ ร้านเสื้อ “กระสวย” เปิดร้านขายเสื้อผ้าอยู่ในศูนย์การค้าแห่งนั้น เวลาประมาณสองทุ่มเธอปิดร้าน เดินไปขึ้นรถฮอนด้าแจ๊สซึ่งจอดไว้ที่อาคารจอดรถเพื่อเดินทางกลับบ้าน เดินไปพร้อมพูดโทรศัพท์ไปด้วย บอกครอบครัวที่รอทานข้าวให้ทราบจะกลับบ้าน ไม่สนใจเลยว่ามีใครจ้องมองหรือเดินตาม พอไขประตูรถ คนร้ายสองคนที่เดินตามก็ถือโอกาศเข้าไปนั่งในรถทางประตูด้านหลัง ใช้ปืนขู่บังคับให้เธอขับรถออกไปจากห้างฯ คืนนั้นนิชาฯไม่ได้กลับบ้านทิ้งให้ครอบครัวรอทานอาหารค่ำ คนร้ายบังคับให้เธอขับรถไปจังหวัดลพบุรี ระหว่างทางคนร้ายได้ปลดเอาทรัพย์สินมีค่าที่ติดตัวไปมูลค่าร่วมแสน คนร้ายพบบัตรเอทีเอ็มสำหรับถอนเงิน ๒ ใบจึงได้ขู่บังคับให้บอกเลขรหัส เมื่อได้เลขรหัสไปแล้วยังไม่พอ ข่มขืนเธอบนรถแล้วลากเอาตัวไปในทุ่งนาข้างทาง ใช้อาวุธปืนยิงศีรษะจนเสียชีวิต ทิ้งศพไว้ในสภาพเปลือยเอาใบไม้กิ่งไม้ปิดอำพรางไม่ให้คนผ่านไปมามองเห็น

สามีรอทานข้าวที่บ้านเป็นชั่วโมง “นิชา” ก็ยังไม่มา พยายามโทรศัพท์ติดต่อภรรยาก็ติดต่อไม่ได้ (คนร้ายปิดเครื่องไว้) รอจนห้าทุ่มก็ไปแจ้งความที่ สน.ประเวศ ตำรวจพอเดาได้ว่าน่าจะเกิดอะไรขึ้น ตรวจสอบธุระกรรมการเคลื่อนไหวการเงินของ “นิชา” พบว่ามีการถอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มแถวถนนรามอินทรา การตรวจสอบไม่ได้อะไรเพราะตู้เอทีเอ็มแห่งนั้นไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ยังพบอีกว่ามีการใช้บัตรเอทีเอ็มถอนเงินที่พัทยาอีกด้วยแต่ก็ไม่ได้ภาพคนร้าย ด้วยความสามารถของตำรวจฝ่ายสืบสวน ระดมตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัวที่เมืองพัทยา เป้าหมายที่ตรวจคือรถยนต์ฮอนด้าแจ๊สสีดำของ “นิชา” เจอเข้าจริงๆ มีวัยรุ่นชายขับรถดังกล่าวเข้าออกศูนย์การค้าที่พัทยาแต่ไม่มี “นิชา” อยู่ด้วย ป้ายทะเบียนรถถูกเปลี่ยน ตำรวจปักใจคนร้ายน่าจะอยู่ในโซนฝั่งทะเลด้านตะวันออก ระดมกำลังครึ่งร้อยค้นหา วันเวลาผ่านไปหลายวันไม่มีวี่แวว เงินในบัญชี “นิชา” ก็ถูกถอนไปจนหมดสิ้น ดูแล้วเหมือนสิ้นหวังในการติดตาม

ประมาณ 3 วันต่อมาตำรวจ สภ.เมืองลพบุรีได้รับแจ้งพบศพสาวเปลือยถูกฆ่าทิ้งศพไว้ในทุ่งนาข้างทาง ที่ ต.โคกลำพาย ไปชันสูตรศพไม่พบหลักฐานว่าผู้ตายเป็นใครจึงส่งศพไปเก็บที่สุสานคนไร้ญาติ สืบหาคนร้ายพร้อมประกาศหาญาติพี่น้องผู้ตาย แต่ด้วยระบบที่ไม่มีเครือข่ายเชื่อมโยงกัน ตำรวจสองโรงพักต่างคนต่างสืบไปคนละทิศละทาง

เวรกรรมมีจริงและกรรมเห็นผลทันตา คนร้ายซ่าร์ขับรถอวดสาวตามสถานที่ต่างๆที่ตนมีความคุ้นเคย ขับไปขับมารถยนต์น้ำมันหมดจึงแวะเติมที่ปั๊มในเขต อ.พระนครศรีอยุธยา ค่าน้ำมันเพียง 900 บาทไม่มีจ่ายขับรถหนีเอาดื้อๆ เด็กปั๊มแจ้งตำรวจสกัดจับ คนร้ายซิ่งรถหนีโชคไม่ดีหลบรถยนต์บรรทุกแล้วรถตนเองเบียดราวสะพานขับเคลื่อนต่อไปไม่ได้ คนร้ายทิ้งรถหลบหนี เรื่องวัยรุ่นซิ่งรถเป็นข่าวพาดหัวบนหน้าหนังสือพิมพ์ เป็นที่ทราบกันดีเรื่องไหนเป็นข่าวหน้าหนึ่งคดีมักสำเร็จ ทุกคนอ่านหนังสือพิมพ์ ชุดสืบสวนนครบาล สภ.เมืองอยุธยา สภ.เมืองลพบุรีโยงเรื่องถึงกัน จับต้นชนปลายปะติดปะต่อเรื่องถูก รถยนตร์คันนี้ก็คือรถของ "นิชา" วัยรุ่นที่ทิ้งรถหนีไปก็คือคนร้าย สามี “นิชา” จึงได้ศพภรรยาไปจัดการตามประเพณี

ประเด็นต่อไปจะสืบรู้ได้อย่างไรใครเป็นคนร้าย รู้เพียงเป็นวัยรุ่นชายอายุประมาณ 20 ปี ต้องยกให้ความสามารถของชุดสืบสวนคดีเรื่องนี้ซึ่งมีทั้งนครบาลและภูธรร่วมกัน อาชญากรรมทิ้งร่องรอยเสมอ ทฤษฎีนี้ยังเป็นจริงเพียงแต่ว่าผู้สืบสวนค้นหาเจอหรือไม่ ตำรวจชุดสืบสวนค้นหาหลักฐานในรถของผู้ตายพบบัตรเติมเงิน 1-2-call 1 ใบ ถ้าไม่ใส่ใจเรื่องก็คงจะผ่านไป เจ้าบัตรนี้ให้อะไรได้บ้าง ก็เพียงรู้ว่าคนร้ายใช้โทรศัพท์แบบเติมเงินแต่จะเป็นโทรหมายเลขใด ของใคร ไม่รู้ เพราะไม่มีการลงทะเบียน แต่ชุดสืบสวนนี้อ่านทะลุ เอาไปตรวจสอบกับบริษัทเจ้าของบัตร ขอทราบว่าบัตรเติมเงินล้อทนี้ส่งไปจำหน่ายที่ใด การตรวจสอบแบบนี้ไม่ใช่ตรวจกันง่ายๆแต่ก็สามารถตรวจได้ ใช้เวลาตรวจสอบไม่นานก็ทราบว่าส่งไปจำหน่ายที่ร้านขายของชำอยู่ใกล้ๆกับแฟลตการเคหะมีนบุรี

ได้ข้อมูลเพียงแค่นี้ถือว่าทางเปิดแล้ว ตำรวจชุดสืบสวนตามหาสถานที่จำหน่ายบัตร “1-2-call” จนเจอ ผู้จำหน่ายจำอะไรไม่ได้เพราะละแวกนั้นเป็นชุมชนชาวแฟลตคนเยอะ ตำรวจเอาภาพรถฮอนด้าแจ๊สสีดำของผู้ตายให้ดู หลายคนที่อาศัยอยู่ที่แฟลตการเคหะมีนบุรียืนยันว่าเป็นของวัยรุ่นที่พักอยู่ที่แฟลตนั่นเอง ไม่ช้าก็ทราบหมายเลขห้อง เข้าตรวจค้นจับกุมได้ตัวผู้ต้องหา 2 คนพร้อมทรัพย์สินของผู้ตายบางส่วนที่ยังเหลืออยู่

คนร้ายรับสารภาพว่าทำกันเป็นแก๊งมีประมาณ 6-7 คน ตระเวนไปตามสถานที่จอดรถศูนย์การค้าใหญ่ๆ ไม่ได้เจาะจงสถานที่ใดที่หนึ่ง เฝ้าดูคนขับรถที่เป็นสุภาพสตรีที่มาคนเดียวและมีทรัพย์สินของมีค่าติดตัว ทำความผิดลักษณะนี้มาแล้วหลายคดี

ท่านได้อะไรจากเรื่องนี้

๑ สุภาพสตรีที่ชอบไปช้อปปิ้งเดี่ยวๆควรระวังให้มาก

๒ เวลากลับไปขึ้นรถ ดูซ้ายดูขวา มีใครจ้อง ใครเดินตามหรือไม่ และ ควรมีสมาธิ เลิกไปได้เลยนิสัยที่เดินไปและพูดโทรศัพท์ไปด้วย มันทำให้ท่านขาดสมาธิในการระมัดระวัง

๓ เมื่อท่านตกอยู่ในสภาพเช่นนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร คำแนะนำคือต้องยอมเจ็บบ้าง ทำนอง "เสียอวัยวะดีกว่าเสียชีวิต" ถ้าท่านต้องขับรถมีคนร้ายเอาอาวุธจี้ ให้ดูระหว่างทางตรงไหนที่เหมาะๆ หักพวงมาลัยชนเข้าไปเลย ถ้าเป็นป้อมตำรวจ ป้อมยามยิ่งดี ถ้าคนร้ายขับเองท่านถูกคนร้ายอื่นคุมไว้ หาเรื่องเปิดประตูโดดรถลงไป

๔ หาสเปรย์พริกไทติดตัวหรือเก็บไว้ที่รถในตำแหน่งที่หยิบใช้ง่ายในยามขับขัน

๕ ถ้าทั้งหมดที่แนะนี้ท่านยังรับไม่ไหว แนะนำอย่าไปเดี่ยว พยายามจอดรถใกล้ๆกับจุดที่ยามอยู่ ถ้าไม่สามารถทำได้ แนะนำให้นอนอยู่กะบ้านเฉยๆจะดี

ปัจจุบันนี้ศูนย์การค้าใหญ่ๆได้แก้ปัญหาโดยการติดโทรทัศน์วงจรปิดทางเข้าออก เป็นการปรามให้คนร้ายไม่กล้าที่จะทำผิดเช่นนี้เพราะเวลานั่งรถออกจะมีภาพติด คนร้ายจึงเปลี่ยนวิธีไปใช้รีโมทกดเปิดประตูเอาของมีค่าในรถแทน
"คุณอังกูรเล่นหนังด้วยหรอ?"
"โห...ประกบคู่กับพี่เอกสรพงษ์ด้วย"
"คลาสสิคสุดๆ...อยากดูเต็มๆจัง"
และอีกมากมายสำหรับเสียงตอบรับ เนื่องจากล่าสุดทีมงานทำ VDO "เปิดปูมฮีโร่" มาให้ได้ชมกัน วันนี้ทีมงานจีงขอสมนาคุณแฟนๆ ตามเสียงเรียกร้องครับ เราใช้เวลาตามหาภาพยนตร์สุดคลาสสิคเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงมือแฟนๆ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ...

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์)

ตอน 1ตอน 2ตอน 3
ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 1 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 2 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 3
ติดตามกันมานาน
จนเป็นแฟนประจำกันก็มาก...
แต่หลายๆท่านคงยังอยากรู้จักคุณอังกูร (007) ในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกลงไป
ถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาเป็นฮีโร่ของเรา
ในวันนี้ เราจึงไม่รอช้าจัดเป็น VDO
ให้ชมกันอย่างจุใจ

(คลิ๊กที่ รูปเพื่อดูวีดีโอ)

พลังสกาล่าร์ ร้องทุกข์ที่นี้
จำนวนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์