บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง
"ประสบการณ์คับด้ามปืน ของยอดนักสืบผู้การเอลวิส"
ยอดสายลับ
งานสืบสวนต้องใช้สายลับ สมัยก่อนจำเป็นมากเพราะไม่มีเทคโนโลยี่ช่วย ผมเริ่มงานสืบสวนตั้งแต่ปี 2509 สมัยนั้นงานสืบกับสอบยังอยู่ด้วยกัน สายลับของผมคนแรกคือ “จ่าแก้ว” ตอนผมอยู่สืบสวนใต้ตำรวจสืบฯใต้ทุกคนรู้จัก”แก้ว” เดิมอาชีพเป็นนักล้วงกระเป๋า เป็นหนึ่งในทีมนักบิน ขอทำความเข้าใจกับคำว่า “นักบิน” สักนิด หมายถึงพวกที่หากินในทางข่มขู่ รีดไถ ผู้กระทำผิด พวกนี้จะสืบสวนเก่ง รู้ไปหมดว่าใครทำอะไรผิดกฎหมาย แล้วก็จะร่วมมือกับตำรวจจริงบ้าง ตำรวจปลอมบ้างเข้าไปตรวจค้นจับกุม เมื่อพบการกระทำผิดแล้วส่วนใหญ่ไม่ได้เอาไปดำเนินคดีที่โรงพัก ตั้งศาลเตี้ย จ่ายเงินแล้วก็เลิกกันไป ผู้กระทำผิดบางรายรู้จักนายตำรวจผู้ใหญ่แอบเอาเรื่อไปฟ้อง พวกนักบินเดือดร้อนกลายเป็นว่าจะถูกดำเนินคดีซะเองฐานรีดไถชาวบ้าน พวกนักบินก็ใช่ย่อยหลังจากทำงานแล้วไม่ทิ้งร่องรอย สืบให้ตายก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เราเรียกพวกนี้ว่า “บินเร็วกว่าเสียง” แต่พวกนักบินอ่อนหัดหรือมือใหม่มักจะทิ้งร่องรอย โดนร้องเรียน สืบไม่เท่าไหร่ก็รู้เป็นใคร ถูกจับดำเนินคดี เราเรียกกันว่า “โดนสอยล่วง” จ่าแก้วเป็นพวกนักบินเร็วกว่าเสียงชั่วโมงบินเยอะมาก เมื่อมาอยู่กับผมให้ทำหน้าที่เป็นสายลับช่วยหาข่าว ตำรวจชื่อมือเลยให้ยศ เป็น “จ่า” จ่าแก้วจีนร้อยเปอร์เซ็นต์ พูดได้ทั้งจีนกลางและแต้จิ๋ว พูดไทยไม่ค่อยชัด งานแรกให้จ่าแก้วปลอมตัวเป็นเสี่ยล่อซื้อเฮโรอิน ผู้ขายรายใหญ่อยู่แถวบางละมุง ชลบุรี ตกลงซื้อขายกันเป็นเงินสองแสนบาท สมัยนั้นยังไม่มีเงินหลวงสำหรับล่อซื้อ ต้องใช้เงินส่วนตัว ผมยืมเงินจากภรรยา การซื้อขายต้องใช้วิธียื่นหมูยื่นแมว คือต้องดูเงินก่อนแล้วถึงส่งของ ผมเอาเงินสดสองแสนบาทใส่กระเป๋าให้จ่าแก้วถือไป จุดนัดดูเงินเป็นโรงแรมแห่งหนึ่งแถวเอกมัย จ่าแก้วเช็คอินห้องพัก ผมกับตำรวจลูกน้องเช็คอินห้องข้างๆขนาบหัวท้ายห้องจ่าแก้ว กลัวจ่าแก้วถูกปล้น ถึงเวลานัดหมายผู้ขายมาคนเดียวเข้าไปในห้องพักจ่าแก้ว สมัยนั้นไม่มีโทรศัพท์มือถือ มีแต่วิทยุว๊อกกี้ท๊อกกี้ การส่งสัญญาณถึงกันทำลำบากมาก ผมกับลูกน้องต้องแง้มประตูห้องเฝ้าดูห้องจ่าแก้วตลอดเวลา สักพักผู้ซื้อออกไปจึงได้ทราบว่าได้เห็นเงินแล้วเชื่อว่าซื้อจริง จะเอาเฮโรอินส่งตอนเช้าวันรุ่งขึ้น

วันรุ่งขึ้นประมาณ ๑๑.๐๐ น.ผู้ขายมาพบจ่าแก้วที่โรงแรมแล้วพาไปเอาเฮโรอิน จ่าสุนทรตำรวจสายสืบนอกเครื่องแบบปลอมตัวเป็นคนขับรถปิกอัพ พาจ่าแก้วนั่ง มีผู้ขายนั่งขนาบไปด้วย จ่าแก้วกอดกระเป๋าเงินไว้ตลอดเวลา ผมกับลูกน้องขับรถตาม โรงแรมที่พักอยู่กลางๆซอยเอกมัย รถพามุ่งหน้าไปทางถนนสุขุมวิท ช่วงเวลานั้นถนนเอกมัยการจราจรเริ่มคับคั่ง มีรถอื่นเข้ามาคั่นระหว่างรถผมกับรถจ่าแก้ว แต่ก็พอทราบว่ารถจ่าแก้วเข้าไปในบริเวณสถานีขนส่งเอกมัย รถของผมติดสัญญาณไฟตรงแยกเอกมัยสุขุมวิท พอหลุดไฟแดงเข้าไปในบริเวณสถานีขนส่งเอกมัย เห็นจ่าแก้วเต้นเป็นงิ้วอยู่กลางถนน สอบถามได้ความว่าโดนคนขายวิ่งราวเอาเงินสองแสนบาทที่ล่อซื้อไป ผมถามหาเฮโรอินที่ตกลงซื้อขาย จ่าแก้วบอกว่า “แฟ๊บ”แล้วชี้ไปที่รถปิกอัพ จ่าสุนทรยังขับรถเงอะงะหาที่จอดไม่ได้ แค่นี้ก็รู้ว่าถูกหลอก ผมวิ่งตามคนร้ายไปตามทิศทางที่จ่าแก้วบอก โชคดีที่ตอนเกิดเหตุจ่าแก้วตะโกน “ขโมยๆๆ ช่วยจับด้วยๆ” มียามของขนส่งเอกมัยวิ่งตามไป โชคดีอีกอย่างที่คนร้ายไม่รู้ทางเลยถูกจับได้พร้อมกระเป๋าเงิน ผมวิ่งตามไปทัน จุดที่จับคนร้ายได้อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตรเศษ คนจับยังไม่ทันเปิดกระเป๋าออกดู ผมรีบแสดงตัวเป็นตำรวจแล้วขอกระเป๋าคืนมา แอบเปิดดูเงินยังอยู่ครบค่อยสบายใจ เอาตัวไปทำการสอบสวนได้ความว่า ตอนที่ขับรถจะไปเอาของ (เฮโรอิน) จ่าสุนทรขับรถ จ่าแก้วนั่งกลางอุ้มกระเป๋าเงิน คนขายนั่งขนาบซ้ายจ่าแก้ว คนขายวางแผนดีพอสมควร ไม่บอกก่อนว่าจะส่งเฮโรอินที่ใด ให้ขับรถไปเรื่อยๆ พอถึงสถานีขนส่งเอกมัยก็ให้เลี้ยวรถเข้าไป การจราจรในบริเวณสถานีขนส่งแน่นมาก จ่าสุนทรต้องขับรถอย่างช้าๆเพราะรถติด ทันใดคนขายก็บอกให้จ่าสุนทรจอดรถ แล้วเปิดประตูลงไป เข้าใจว่าคงไปหยิบถุงใส่เฮโรอินจากรถที่จอดอยู่ข้างๆ เป็นถุงผ้าสีเขียว 3 ใบ คนขายเอาถุงผ้าดังกล่าววางบนกระบะท้ายรถ คนขายบอกจ่าแก้วว่าของอยู่ท้ายรถ จ่าแก้วใจจดจ่ออยู่ที่เฮโรอินจึงรีบลงจากรถทิ้งกระเป๋าเงินไว้ที่เบาะนั่ง คนขายสวมบทเป็นคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ หยิบกระเป๋าเงินแล้ววิ่งทันที จ่าแก้วไปเปิดถุงผ้าพบข้างในเป็นถุงพาสะติกผนึกอย่างดี มีผลึกเม็ดสีขาวๆอยู่ข้างใน เมื่อฉีกถุงพาสติก กลิ่นแฟบโชยออกมาจ่าแก้วจึงรู้ตัวว่าโดนหลอก หันไปดูคนขายเห็นถือกระเป๋าเงินวิ่งไปห่างประมาณ 50 เมตรจึงตะโกนให้คนช่วยจับ ส่วนจ่าสุนทรเป็นห่วงรถกลัวจอดขวางผู้อื่นมัวแต่ขยับรถ ไม่ไล่ตามคนร้าย โชคดีที่ยามของขนส่งจับคนร้ายไว้ได้ เงินไม่สูญหาย จ่ายรางวัลให้คนจับไป ส่วนคนร้ายถูกดำเนินคดีในข้อหา วิ่งราวทรัพย์

ได้บทเรียนหลายอย่าง มัวแต่พะวงจะให้ได้ผลงาน ไม่ได้นึกถึงว่าอาจจะถูกซ้อนแผน เกือบต้องสูญเงินฟรีๆแล้งคงจะถูกหาว่าโง่แถมอีก ก็เพราะ “จ่าแก้ว” แนบเนียนจนอีกฝ่ายไม่รู้ว่าเป็นสายลับตำรวจ หลังจากคดีนี้แล้วผมไม่ยอมเอาเงินส่วนตัวไปใช้ในการล่อซื้ออีกเลย ปัจจุบันนี้มีงบสำหรับใช้ในการล่อซื้อยาเสพติดแล้ว.
"คุณอังกูรเล่นหนังด้วยหรอ?"
"โห...ประกบคู่กับพี่เอกสรพงษ์ด้วย"
"คลาสสิคสุดๆ...อยากดูเต็มๆจัง"
และอีกมากมายสำหรับเสียงตอบรับ เนื่องจากล่าสุดทีมงานทำ VDO "เปิดปูมฮีโร่" มาให้ได้ชมกัน วันนี้ทีมงานจีงขอสมนาคุณแฟนๆ ตามเสียงเรียกร้องครับ เราใช้เวลาตามหาภาพยนตร์สุดคลาสสิคเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงมือแฟนๆ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ...

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์)

ตอน 1ตอน 2ตอน 3
ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 1 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 2 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 3
ติดตามกันมานาน
จนเป็นแฟนประจำกันก็มาก...
แต่หลายๆท่านคงยังอยากรู้จักคุณอังกูร (007) ในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกลงไป
ถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาเป็นฮีโร่ของเรา
ในวันนี้ เราจึงไม่รอช้าจัดเป็น VDO
ให้ชมกันอย่างจุใจ

(คลิ๊กที่ รูปเพื่อดูวีดีโอ)

พลังสกาล่าร์ ร้องทุกข์ที่นี้
จำนวนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์