ภัยจากเครื่องดื่ม ตอนที่ 7 (นางมารร้าย)
(บทความตอนนี้เป็นการ ลงซ่อม เนื่องจากของเก่าหายไป เป็นเรื่องที่อยู่ในชุด ภัยจากเครื่องดื่ม ท่านที่ต้องการค้นอ่านของเก่ากรุณาคลิ๊กที่ ขุดเรื่องเก่าขึ้นมาอ่าน แล้วเลือกเดือน ผมจะพยายามจัดทำหมวดหมู่เพื่อให้ค้นหาได้ง่าย ขอเวลาสักระยะครับ.)
ภัยจากเครื่องดื่ม ตอนที่ ๗
นางมารร้ายออกลาย
เหตุผลที่ทำให้กำธรฯรีบร้อนออกจากบ่อนไปหลังจากได้รับโทรศัพท์ เชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะความเจ็บใจที่เสียรู้ ถูกลูบคม เงินกับสร้อยหายไป ไม่บอกใครกลัวอาย กำธรฯรีบบึ่งรถไปรับแอ้มฯกับเล็กฯ แล้วพาไปที่ห้องพักหมายเลข ๑๖ โรงแรม ๕๕ น่าจะเป็นการเคลียร์กันเรื่องเงินกับสร้อยมากกว่าเรื่องบนเตียง แต่เหตุการณ์จริงจะเป็นเช่นไรไม่มีใครรู้ เล็กฯจะพูดอย่างไรก็ได้เพราะกำธรฯไม่มีโอกาสได้พูด แต่ผมเชื่อฝีมืออย่างพี่สล้างฯ ไม่มีใครที่จะโกหกท่านได้
คำรับสารภาพที่พี่สล้างฯได้มา เล็กฯเล่าว่า พอเข้าโรงแรมก็เตรียมที่จะปฏิบัติกามกิจ เล็กฯชงกาแฟใส่ค๊อปฟี่เมทที่ผสมยานอนหลับ ใช้ช้อนคนถ้วยกาแฟเสียงดัง ควักๆ ชงให้เห็นต่อหน้า กำธรฯไม่ยอมดื่มกาแฟของเล็กฯ และยังพูดต่อว่า วันก่อนเอาอะไรให้กิน เจ็บหน้าอก ปวดหัว แอ้มฯรับมุข หยิบถ้วยกาแฟส่งให้กำธรฯ คราวนี้กำธรฯยอมทาน ทีเดียวหมดถ้วย แอ้มฯขอให้กำธรฯนอนกับเล็กฯก่อน พอกำธรฯเสร็จจากเล็กฯก็มีอาการง่วงจะหลับ แอ้มฯฉีดยาให้กำธรฯอ้างว่าเป็นยาปลุกเซ็ก พอกำธรฯรู้ว่าเป็นยาปลุกเซ็กจึงยอม แต่ผมไม่เชื่อ ก็คนมันหลับไปด้วยฤทธิ์ยานอนหลับใครจะทำอะไรก็ได้ ไม่มีแรงที่จะขัดขืนเพราะหนนี้ผสมยานอนหลับอย่างแรงเข้าไป
เหตุการณ์จริงจะเป็นยังไงก็ตามที แต่ที่แน่ๆก็คือ กำธรฯโดนยาฉีดเข้าไปเต็มๆ จะเป็นยาอะไรตรวจไม่พบ เพราะกว่าจะพบศพเวลาล่วงเลยไปเป็นเดือน การตรวจสอบของสถาบันนิติเวชไม่พบสารพิษ มีเพียงคำรับของเล็กฯว่าฉีด มอร์ฟินเข้าเส้น จริงๆแล้วจะเป็นยาตัวไหนสุดจะทราบได้ พยาบาลจะรู้เรื่องพรรค์นี้ดี สรุปว่ากำธรฯโดนทั้งยานอนหลับและยาฉีดเข้าเส้น
หลังจากฉีดยาเข้าไปเพียงนาทีเดียว กำธรฯบ่นปวดศีรษะ มีอาการตัวเกร็ง และแน่นิ่งไป แต่ยังหายใจอยู่
เล็กฯกับแอ้มฯรอดูอาการจนตีสามกว่า กำธรฯก็ยังหายใจระรวย ร่างกายไม่เคลื่อนไหว แผนเดิมจะฉกเอาทรัพย์ไปแล้วทิ้งศพไว้ในโรงแรม คิดว่ายังไงๆตำรวจก็ตามไม่เจอเพราะรถที่ใช้เป็นรถของกำธรฯ แต่กำธรฯเป็นคนแข็งแรง อึดมากไม่ยอมสิ้นลมหายใจ เวลาก็ใกล้สว่าง หากกำธรฯไม่ตายและยังอยู่ในโรงแรมต้องเกิดเรื่องแน่ สองเสือสาวจึงเปลี่ยนแผนทันที
สองสาวแต่งตัวสวมเสื้อผ้าให้กำธรฯ แล้วช่วยกันยกกำธรฯขึ้นรถ แต่ยกไม่ไหวเพราะกำธรฯตัวใหญ่และหนักมาก
เล็กฯต้องการคนช่วยแต่ไม่อยากเรียกบ๋อยโรงแรม กลัวจะมีพยานหลักฐาน รอจังหวะเรียกแท็กซี่ พอดีมีรถแท็กซี่คันหนึ่งเข้าไปส่งผู้โดยสารในโรงแรม พอส่งผู้โดยสารเสร็จก็วิ่งรถเปล่าผ่านหน้าห้อง เล็กฯเรียกแท็กซี่ให้เข้าไปจอดที่หน้าห้อง แล้วให้คนขับรถแท็กซี่ช่วยอุ้มกำธรฯอ้างว่าเมาหลับ แท็กซี่เห็นสภาพกำธรฯแล้วปฏิเสธ รีบขับรถออกไป เล็กฯตัดสินใจเรียกบ๋อยโรงแรมให้ไปช่วยอุ้มกำธรฯขึ้นรถ บ๋อยพาซื่อนึกว่าเมาหลับจริงๆ ช่วยอุ้มกำธรฯขึ้นนั่งที่เบาะหน้าข้างคนขับ แล้วเล็กฯทำหน้าที่ขับรถ เอนเบาะที่กำธรฯนั่งไปข้างหลัง ทำให้คนนอกมองเห็นแล้วดูเหมือนเป็นการตั้งใจหลับ ส่วนแอ้มฯนั่งไปที่ๆนั่งด้านหลัง โดยไม่ลืมที่จะทิปบ๋อยไป ๑๐๐ บาท
ขณะขับรถออกจากโรงแรมเป็นเวลาตีสี่กว่าๆ ตรงไปหานายวิวัฒน์ฯเพื่อนของแอ้มฯ หวังที่จะให้วิวัฒน์ฯช่วยจัดการต่อ โชคดีของวิวัฒน์ฯที่เผอิญคืนนั้นวิวัฒน์ฯไม่ได้นอนบ้าน เลยพ้นร่างแหไป พอพลาดจากวิวัฒน์ฯก็มุ่งไปหามือสองคือนายหลาบฯ ที่บางกระบือ แถวซอยองครักษ์ สามเสน แต่นายหลาบฯปฏิเสธ (บุญของนายหลาบฯ)
กำธรฯเริ่มรู้สึกตัว มีอาการเคลื่อนไหวบางส่วนของร่างกาย แต่ไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะขัดขืน เล็กฯสิงห์ร้ายเอายานอนหลับผสมน้ำให้กำธรฯดื่มเข้าไปอีก (พยาบาลมีวิธีให้คนดื่มน้ำได้ แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธ) ผมเข้าใจว่าจิตใจกำธรฯมีความรู้สึก รับรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ได้ยิน ได้ฟังการสนทนา รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ (นี่แหละภัยตัวจริง ที่มากับเครื่องดื่ม)
เล็กฯขับรถพากำธรฯตระเวนเพื่อหามือสังหาร ไปหานายอ๊อดฯกับนายตี๋ฯที่บ้านซึ่งอยู่แถวถนนบางพลัด เล็กฯคงจะรู้ฝีมือของอ๊อดฯมาก่อน อ๊อดฯไม่ปฏิเสธ เตรียมอาวุธไปด้วย เป็นอาวุธมีดทำครัว ใบมีดยาวประมาณ ๑ คืบ
เล็กฯขับรถตระเวนหาสถานที่ๆจะสังหารกำธรฯ โดยขับรถไปตามถนนสายธนบุรี-ปากท่อ ไปถึงช่วงนั้นฟ้าสาง ท้องฟ้าสว่างแล้ว รถยนต์วิ่งกันขวักไขว่ แต่ไม่มีใครสนใจใคร เล็กฯสอดส่ายสายตามองหาสถานที่ๆเหมาะๆ เห็นสถานที่แห่งหนึ่งอยู่ริมถนนสายธนบุรี-ปากท่อ อยู่ริมถนนขาเข้ากรุงเทพฯ เป็นสถานที่กว้างหลายไร่ มีรั้วกำแพงคอนกรีตสูงเลยศีรษะกั้นโดยรอบ สถานที่แห่งนี้อยู่ในพื้นที่ของ สภ.อ.เมืองสมุทรสาคร เล็กฯเลี้ยวรถกลับไปจอดที่บริเวณทางเข้าที่ดังกล่าว มีประตูรั้วโซ่คล้องไม่ได้ใส่กุญแจ เล็กฯสั่งลูกน้องเปิดประตูรั้ว ขับรถเข้าไปแล้วปิดประตูรั้วดั่งเดิม ข้างในรั้วเป็นที่ดินเปล่าโล่งเตียน มีการปรับที่ไว้เพื่อจะทำกิจการ แต่ไม่มีคนเฝ้า ถึงแม้สถานที่นั้นจะอยู่ติดถนนใหญ่ แต่เมื่อมีกำแพงสูงเป็นที่กำบังจึงทำให้เป็นที่ลับจากสายตาผู้คน (สถานที่แห่งนี้เล็กฯเคยพาคนไปลอกคราบมาแล้ว)
ขณะนั้นเวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น. แต่ปลอดผู้คนเพราะอยู่ภายในรั้วกำแพง เล็กฯสั่งให้อ๊อดฯใช้มีดแทงบริเวณซอกคอ ปักมีดลึกลงไป ซอกคอเป็นบริเวณจุดอ่อนที่สุดของร่างกาย และเป็นจุดตาย กำธรฯยังนอนแน่นิ่งอยู่ ตี๋ฯเป็นผู้ช่วย เอาผ้าเช็ดตัวจากโรงแรมปิดตากำธรฯ อ๊อดฯกดปลายแหลมของมีดปักเข้าไปที่ซอกคอ กำธรฯแม้จะหลับไปด้วยฤทธิ์ยาก็ยังส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ไม่มีใครได้ยินเสียงเพราะปฏิบัติการณ์ในรถยนต์ปิดกระจก อ๊อดฯกดใบมีดเข้าไปที่ซอกคอจนเกือบมิดใบมีด กำธรฯบิดตัวอย่างแรง ใบมีดส่วนหนึ่งหักคาอยู่ในร่างของกำธรฯ แล้วกำธรฯก็แน่นิ่งหยุดหายใจ (หากไม่เป็นเพราะฤทธิ์ยา ต่อให้คนร้ายสองคนมีมีดก็เถอะ ไม่มีทางเอากำธรฯอยู่ ไอ้สองคนนั่นแหละจะตาย)
จากนั้นเหล่าวายร้ายก็ช่วยกันค้นตัวกำธรฯเอาทรัพย์สิน มีเงินสดอยู่ประมาณแสนห้าหมื่นบาท แหวนเพชร ๑ วง แหวนทับทิมล้อมเพชรอีก ๑ วง สร้อยคอทองคำหนัก ๗ บาทพร้อมพระห้อยเลี่ยมทอง นำไปแบ่งกัน ลากศพลงจากรถ ทิ้งศพไว้ตรงที่ว่างดังกล่าว ค้นเอาหลักฐานเอกสารในศพออกหมด แล้วพากันนั่งรถออกไปจากที่เกิดเหตุ ตั้งใจจะเอาหลักฐานทุกอย่างพร้อมรถยนต์ไปเผาทิ้งที่สุพรรณบุรี เล็กฯมีญาติอยู่ที่บางลี่ จังหวัดสุพรรณ แต่เมื่อเดินทางไปถึงปรากฏว่าญาติไม่อยู่บ้าน
เรื่องทำลายหลักฐานจำเป็นต้องรีบทำโดยด่วน หลักฐานคือรถยนต์ของกำธรฯ เสื้อผ้าของทุกคนที่เปื้อนเลือด เมื่อไม่พบญาติจึงได้ขับรถกลับ แวะล้างคราบเลือดที่สระน้ำข้างๆทางแถวๆบางลี่ เอาส่วนของมีดที่หักโยนทิ้งในสระ จอดรถที่ตลาดบางลี่ แวะซื้อเสื้อผ้า อ๊อดฯกับตี๋ฯต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เพราะเปื้อนเลือดมาก โยนเสื้อผ้าของเก่าทิ้งข้างทาง เล็กฯขับรถมุ่งหน้าเข้าจังหวัดนครปฐม
ผมเชื่อว่าทุกคนที่กระทำผิดพอมาถึงช่วงนี้เริ่มจะหวาดกลัวต่อความผิด ต่างคนพยายามที่จะปลีกตัวออกจากหลักฐาน เล็กฯกับแอ้มฯขอแยกตัวกลับกรุงเทพฯ ยกรถยนต์ให้เป็นหน้าที่ของอ๊อดฯกับตี๋ฯ
อ๊อดฯกับตี๋ฯมือยังใหม่ ประสบการณ์โจรยังน้อย ไม่ทราบว่าจะเอารถไปทำลายโดยวิธีใด ไม่คุ้นเคยกับพื้นที่ต่างจังหวัด พอขับรถผ่านปั๊มน้ำมันแถวเขตอำเภอกำแพงแสน เห็นบริเวณปั๊มใหญ่กว้างขวางว่างๆไม่มีคนจอแจ จึงขับรถเข้าไปจอดแอบข้างกำแพงปั๊ม กะจะจอดรถทิ้ง ทั้งสองลงจากรถล็อกประตูเรียบร้อย พากันเดินออกจากปั๊ม พอดีเด็กปั๊มซึ่งอยู่ในอ๊อฟฟิชกระจกห่างไปประมาณ ๓๐ เมตรมองเห็น คิดว่าได้ลูกค้า เด็กปั๊มเปิดประตูอ๊อฟฟิชออกไปทัก สองวายร้ายตกใจเมื่อรู้ว่ามีคนเห็น คำพูดหลุดจากปากก่อนที่จะได้คิด ช่วยล้างภายนอกให้ด้วยอีก ๒ ชั่วโมงมาเอา แล้วทั้งสองคนก็ไม่ได้กลับไปเอารถอีกเลย
สำหรับผู้อ่าน ยังไม่จบนะครับ ตอนต่อไปจะเป็นเรื่องของตำรวจ ผู้ที่จะเป็นอัศวินขี่ม้าขาว ตามล่ากลุ่มนางโจรและสมุน ท่านอ่านมาถึงตอนนี้ ท่านได้ไปเยอะแล้ว การมีแฟนเป็นพยาบาลหรือเป็นหมอ มีทั้งผลดีและไม่ดี คิดเอาเองนะครับ ระมัดระวังเครื่องดื่มของท่านให้จงหนัก ทุกวันนี้ผมเกือบจะเป็นคนโรคจิต ไปทานอาหารที่ไหนผมจะสั่งน้ำขวด ชนิดไม่ต้องเปิดจุก กะจะเอามาเปิดเอง แต่เจ้าบ๋อยก็คอยจะบริการเสียเรื่อย เปิดและรินให้เสร็จ แต่ก็ดีที่เปิดให้เห็นต่อหน้า ฝากอีกอย่างนะครับ สำหรับท่านที่ชอบทานน้ำดื่มผสมน้ำแข็ง ท่านแน่ใจหรือว่าน้ำแข็งก้อนจะสะอาด ผู้ผลิตบางเจ้าดูดเอาน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยามาแกว่งสารส้มให้ตกตะกอน แล้วเอาน้ำใส่เครื่องทำน้ำแข็งก้อน ผมเห็นวิธีทำน้ำแข็งก้อนของผู้ผลิตรายนี้แล้วกินน้ำแข็งไม่ลง เรื่องสุขภาพใส่ใจไว้บ้างนะครับ ที่ร่างกายเราเจ็บป่วยก็เพราะเราหาใส่เข้าไปให้ทั้งนั้น.