เรื่องชวนปวดหัวบนโรงพัก ตอนที่2 (คุณนายถูกกระชากสร้อย)
ตำรวจโรงพักต้องเก่งทุกเรื่อง ต้องแก้ปัญหาให้ชาวบ้านทุกวัน ประชาชนคาดหวังตำรวจไว้สูงมีปัญหาก็ต้องพึ่งพาตำรวจ ความจริงตำรวจก็คนธรรมดาแต่เมื่อมีหน้าที่ก็ต้องทำให้ได้ ในโรงเรียนตำรวจสอนกันถึง ๔ ปียังไม่พอ ลูกเล่นต่างๆต้องไปหาเอา จากรุ่นพี่ๆบ้าง ประสบการณ์สอนให้บ้าง ยิ่งนานวันยิ่งเก๋า
ตอนผมรับราชการอยู่ในนครบาลมีคดีภรรยาของนายตำรวจใหญ่ถูกคนร้ายกระชากสร้อย ไปแจ้งความโรงพัก สอบสวนแล้วจำหน้าคนร้ายไม่ได้เพียงแต่บอกรูปพรรณได้คร่าวๆ สร้อยที่ถูกกระชากไปเป็นสร้อยคอทองคำหนักสองสลึง รูปพรรณสร้อยบอกได้ชัดเจน บันทึกปากคำเสร็จพาไปดูสถานที่เกิดเหตุ ผมไม่ลืมที่จะให้กำลังใจผู้เสียหายก่อนที่จะกลับ ขอเวลาสืบเจ็ดวัน คุณนายรอฟังผลได้เลยครับ คำพูด คำจาตำรวจนี่สำคัญ จะได้รับคำชมหรือโดนด่ามันอยู่ตรงนี้ คนได้รับความเดือดร้อนมาพึ่ง เราต้องให้กำลังใจ สนใจที่จะช่วยเหลือ พูดจาให้มันแข็งขัน ขึงขัง จริงจังไว้ก่อน ทำให้เต็มที่ ได้ไม่ได้ว่ากันทีหลัง (เวลาจะเป็นตัวช่วย) มีตำรวจบางคนไม่รู้ว่าหัวเสียมาจากไหน อาจจะเป็นเพราะงานมากหงุดหงิด คนมาแจ้งความรถยนตร์หาย รับแจ้งแบบเสียไม่ได้ สอบไปสั่งสอนไปด้วย อุตส่าห์มีของมีค่า ไม่ดูแลรักษาให้ดีก็เป็นอย่างนี้ กลับไปซ้ำเติมให้เจ็บช้ำน้ำใจอีก แถมตอนจะกลับพูดทิ้งท้ายเข้าไปอีก ช่วยดูๆด้วยก็แล้วกัน เจอที่ไหนแล้วมาบอก หลายคนคงเจอประโยคเหล่านี้ แต่จะไม่มีหลุดจากปากผมเด็ดขาด ผมจะให้กำลังใจผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเสมอ ถึงงานจะยุ่ง คิวจะยาว ผมจะยิ้มแย้มแล้วเข้าไปสอบถามผู้มาติดต่อเสมอไม่อยากให้ชาวบ้านรอนาน การยิ้มต้อนรับแทบจะไม่ได้ลงทุนอะไรเลยแต่ได้ใจผู้มาติดต่อ บางเรื่องใช้เวลาแนะนำเพียง ๒-๓ นาทีก็จบ เพียงเข้าไปทักทายพูดคุยชาวบ้านก็ดีใจจะตายอยู่แล้ว และ ผมไม่เคยลืมที่จะสั่งเครื่องดื่มให้ผู้แจ้งความทานระหว่างรอ ถ้าต้องรอนานจนถึงเวลาอาหารจะเลี้ยงข้าวอีกด้วย ปัจจุบันตำรวจบนโรงพักไม่ค่อยยิ้ม เลยทำให้ชาวบ้านเขากลัวตำรวจ หลายคนจะไปติดต่องานที่โรงพักต้องวิ่งหาผู้หลักผู้ใหญ่ฝากฝัง ถ้าสถานีตำรวจใดยังเป็นเช่นนี้ผู้รับผิดชอบต้องรีบแก้ไขด่วน ก่อนที่ประชาชนเขาจะใช้วิธี Vote เลือกหัวหน้าตำรวจ
กลับมาที่เรื่องคุณนายถูกกระชากสร้อย คดีลักษณะนี้เกิดขึ้นทุกวัน ไม่ใช่เรื่องสืบกันง่ายๆ คนร้ายไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนในพื้นที่ อยู่ไหนๆมันก็ทำได้เพราะมันมาโดยมอเตอร์ไชด์ ผมต้องว่าไปตามระเบียบก่อนคือส่งให้ฝ่ายสืบสวนไปดำเนินการ ฝ่ายสืบสวนก็คงจะปวดหัวเหมือนกัน ไม่ใช่เทวดาที่จะรู้ไปทุกเรื่องแต่เมื่อมีหน้าที่ก็ต้องทำ ใกล้ครบเจ็ดวันแล้วยังไม่ได้เรื่องอะไรเลย คดีอื่นๆก็ประดังเข้ามา ผมเตรียมแผนรับไว้แล้วแล้วนั่นก็คือ สมุดภาพคนร้ายเอาไว้ให้คุณนายเปิดดู ขั้นต่อไปก็จะนัดส่งตัวไปดูสมุดภาพคนร้ายที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร ถ้าพอจำหน้าคนร้ายได้บ้างก็จะส่งไปให้ผู้ชาญสเกตภาพ ทั้งหมดเป็นจิตวิทยา อย่างน้อยๆผู้เสียหายก็เห็นใจตำรวจว่ามีความพยายาม แต่สำหรับรายนี้ยังไม่ทันครบเจ็ดวันเจ้านายที่อยู่ใกล้ชิดก็เรียกไปกำชับว่า คดีนี้ผู้ใหญ่สอบถามมา คุณต้องทำให้ได้ อย่างนี้ผมถือว่าเป็นใบสั่ง ต้องทำให้สำเร็จ
ก่อนครบเจ็ดวัน ขึ้ยาคนหนึ่งก็ถูกจับ รูปพรรณขี้ยาที่ถูกจับลักษณะใกล้เคียงกับคนร้ายกระชากสร้อย ที่สำคัญคือได้สร้อยของกลางรูปพรรณตรงกับของคุณนาย ผมเชิญคุณนายไปดูตัวคนร้ายและสร้อยของกลางที่โรงพัก คุณนายดูแล้วไม่ยืนยันตัวคนร้ายเพราะจำหน้าไม่ได้เพียงแต่รูปพรรณสัณฐานแบบเดียวกัน ส่วนสร้อยคอสองสลึงคุณนายดูแล้วเกิดลังเลใจ ใช่หรือไม่ใช่ ทองมันก็เหมือนทอง ไม่มีใครที่ไหนที่จะทำตำหนิไว้ ผมรีบย้ำเพื่อให้คุณนายเกิดความมั่นใจ ผมว่าต้องเป็นของคุณนายแน่นอนครับ คนร้ายมันรับสารภาพ ในที่สุดคุณนายก็รับสร้อยกลับไปพร้อมกับกระซิบบอกผมว่า อย่าเอาเรื่อง เอาราวเขาเลยนะ สงสาร คุณนายกลับไปพร้อมรอยยิ้ม
เบื้องหลังการถ่ายทำ ผมให้ตำรวจฝ่ายสืบสวนไปจับผู้ติดยาเสพติดโดยคัดเอาคนที่มีรูปพรรณใกล้เคียงกับคนร้ายกระชากสร้อย คนติดยาเสพติดหาได้ง่ายมากเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ส่วนสร้อยคอทองคำผมต้องลงทุนเอง ให้ตำรวจไปตระเวนหาซื้อให้มีลักษณะเหมือนแล้วเอาไปทำให้ดูเก่า ดึงให้ขาด สมัยนั้นทองคำหนักบาทละไม่กี่พันถ้าเป็นสมัยนี้ทองแพงต้องคิดหนัก ส่วนผู้ต้องหาไม่โวยหรอกครับ เขาโดนจับเรื่องยาเสพติดถ้าว่ากันไปตามเนื้อผ้ารับสารภาพก็จำคุกอย่างน้อยหกเดือน แต่ผมเอาไปดำเนินคดีฐานร่วมกับพวกที่หลบหนีเป็น ซ่องโจร คนถูกจับก็ชอบเพราะคดีเป็นซ่องโจรขังไม่กี่วันก็ปล่อย (สมัยก่อนมีการจับกุมดำเนินคดีฐานเป็นซ่องโจรแล้วทำสำนวนบุคคลอันธพาล ต่อมาภายหลังกฎหมายอันธพาลถูกยกเลิก คดีซ่องโจรก็เลยไม่ค่อยมีการจับกุมกัน)
ลูกเล่นแบบนี้ไม่ได้มีเฉพาะในวงการตำรวจเท่านั้น ยังจำเรื่อง เสือดำแห่งบึงมักกะสันได้ไหมครับ เป็นการแก้ปัญหาโดยใช้จิตวิทยาอย่างยอดเยี่ยม สุดท้ายพระเอกมาตายตอนจบแต่คนที่รู้ความจริงแล้วอดขำไม่ได้ เรื่องมีอยู่ว่าผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณบึงมักกะสัน กทม.ตกอยู่ในความหวาดผวาไม่เป็นอันหลับอันนอน ช่วงตกกลางคืนตอนดึกๆจะได้ยินเสียงเสือคำรามน่ากลัว รุ่งเช้าสัตว์เลี้ยงในบ้านถูกฆ่าตาย เป็นเช่นนี้อยู่หลายวัน ชาวบ้านพากันหวาดกลัวไปแจ้งความ หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าเสือดำหลุดจากป่าอาละวาดแถวบึงมักกะสันซึ่งสมัยนั้นเป็นป่ารกทึบ ร้อนถึงกรมป่าไม่ซึ่งเป็นผู้ดูแลเกี่ยวกับสัตว์ส่งพรานผู้ชำนาญออกล่าเสือดำบึงมักกะสัน การล่าทำอย่างเปิดเผยมีผู้สื่อข่าวติดตามทำข่าว หลังจากเฝ้าอยู่หลายคืนพรานก็สามารถจับเสือดำแห่งบึงมักกะสันได้ เป็นเสือดำวัยรุ่นกำลังดุตัวโตกว่าสุนัขหลายเท่า เมื่อจับได้ก็นำใส่กรงขัง เป็นข่าวใหญ่ดังไปทั่วประเทศ เจ้ากรมผู้รับผิดชอบเรื่องสัตว์ออกมาแถลงผลงาน ชาวบ้านชื่นชมและต่างนอนตาหลับไม่ต้องหวาดกลัวเสือจะทำร้าย ขั้นตอนต่อไปจะทำอย่างไรกับเสือดำที่จับมาได้ ข่าวจับเสือดำดังจนเกิดกระแส ต้องนำสัตว์ไปปล่อยคืนสู่ป่า ผลก็คือต้องนำเสือดำไปปล่อยในป่าใหญ่ที่ต่างจังหวัดโดยมีหนังสือพิมพ์หลายฉบับและทีวีตามไปทำข่าวเพื่อให้ประชาชนรับทราบว่าได้ปล่อยเสือไปแล้วจริงๆ อธิบดีผู้นั้นได้รับการกล่าวขวัญอยู่ไม่นานก็เกิดเป็นข่าวขึ้นมาอีกที่ผมเรียกว่า พระเอกตายตอนจบ ก็เพราะเจ้าของเสือดำตัวนั้นไปร้องโวยวายจนเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ขึ้นมาว่า คนเช่าเสือดำของเขาไปแล้วไม่คืน เอาไปปล่อยป่าก็ไม่ว่าไรขอให้ชดใช้ราคา ในตอนนั้นเสือตัวดังกล่าวราคาประมาณสองแสนบาทเศษ เสือราคาสูงเลยเกี่ยงกันใครจะจ่ายเงิน เรื่องไม่รู้ว่าลงเอยอย่างไรแต่ที่แน่ๆชาวบ้านในละแวกบึงมักกะสันสบายใจ คนทั่วๆไปที่ทราบเรื่องนี้พากันขำกลิ้ง
ความคาดหวังของสังคมมีต่อตำรวจสูง ตำรวจโรงพักซึ่งเป็นด่านแรกที่จะคอยรับความรู้สึกและอารมณ์ของประชาชน จึงต้องมีวิทยายุทธรอบตัวไว้แก้ปัญหา ตำรวจสมัยนี้ก็มีทีเด็ดมีลูกเล่นพราว ทุกสิ่งทำไปเพื่อให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ตำรวจเหนื่อยมากเท่าไรประชาชนก็จะสบายใจมากเท่านั้น ตั้งใจทำงานแต่บางครั้งก็ถูกกล่าวหาว่าจับ แพะ บางคดีตำรวจก็ต้องอาศัยข้อมูลจากพวกโจรด้วยกันจนเป็นที่มาของคำว่า ตำรวจ(เลี้ยง)โจร ติดตามตอนต่อไปครับ.