บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง
"ประสบการณ์คับด้ามปืน ของยอดนักสืบผู้การเอลวิส"
ภัยของผู้หญิง 5 “ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว “
หน้าหลัก ›› บทความรู้ไว้ไม่ตายโหง ›› ภัยของผู้หญิง 5 “ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว “
ภัยของผู้หญิงมีมาก ถ้าท่านติดตามข่าวอาชญากรรมจะพบว่ามีคดีเกิดขึ้นทุกวัน ท่านทราบแล้วก็ควรจะเก็บเอาข้อมูลของแต่ละคดีมาใช้เป็นประโยชน์ในทางป้องกัน ทั้งตัวท่านเอง และคนที่ท่านรัก คราวนี้จะขอเสนอภัยหญิง ซึ่งมีหญิงเป็นตัวร้ายบ้าง คำโบราณกล่าวว่ามารยาหญิงมีมากหลายร้อยเล่มเกวียน หมายถึงถ้าจะเอาบทบาทลีลาของหญิงที่นำมาใช้หลอกใช้ล่อ รวมเป็นเล่มบรรจุลงในเกวียนได้หลายร้อยเล่มเกวียนยังไม่หมด แต่ผมเห็นว่าผู้ชายกะล่อนปลิ้นปล้อนอาจจะมากกว่ามารยาหญิงอีก ดังนั้นท่านทั้งหลายจงดำรงตนอยู่ในสังคมปัจจุบันด้วยความไม่ประมาท ใช้วิจารณญาณ ใช้เหตุและผลอย่าให้โลภะ,โทสะ, โมหะ เข้าครอบงำ ดังเรื่องที่จะนำมาเล่าเป็นอุทาหรณ์

ช่วงที่ผมรับราชการเป็นผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ตอนบ่ายวันหนึ่งของเดือนธันวาคม ลูกจ้างตัดหญ้าของ กทม. กำลังช่วยกันระดมตัดหญ้าคา ที่ขึ้นสูงจากพื้นดินถึงระดับศีรษะ ที่ริมถนนศรีนครินทร์ บริเวณปากทางเข้า รพ.สมิติเวช 2 ถอยหลังไปประมาณ 3-4 ปี บริเวณดังกล่าวหญ้าขึ้นรก แต่เดี๋ยวนี้สภาพเปลี่ยนไป พงหญ้าไม่มี กลายเป็นสนามหญ้าปลูกไม้ประดับ บางส่วนกลายเป็นอาคารพาณิชย์ นัยว่าหลังจากเกิดเหตุคดีนั้น บรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับที่ดินหรือมีอาคารที่ใช้ทำธุรกิจอยู่ใกล้เคียง ช่วยกันเปลี่ยนสภาพ ผมกำลังจะบอกท่านว่า ที่ตรงไหนที่รกๆ มักจะมีคนเอาศพไปทิ้ง และเป็นจุดที่ก่อให้เกิดอาชญากรรม ความที่รู้เห็นมามาก ผมมักจะจ้างคนตัดหญ้าถางป่าบริเวณที่ดินที่ติดกับบ้านผมก็ด้วยเหตุนี้แหละครับ

ขณะคนงาน กทม.ตัดหญ้าซึ่งสูงท่วมหัวท่วมหูที่บริเวณดังกล่าวซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 4-5 ไร่ มีกลิ่นเน่าโชยมา แรกๆคนงานนึกว่าเป็นกลิ่นหมาเน่าซึ่งพบบ่อยๆ เพราะบริเวณนั้นอยู่ใกล้ถนน สุนัขอาจถูกรถชนหนีไปตายในพงหญ้า ความจริงกลิ่นศพคนกับหมาเวลาตายทิ้งศพไว้ 2-3 วัน กลิ่นจะคล้ายๆ กัน แต่ของคนอาจจะแรงกว่าเพราะตัวโตกว่าหมา มีการพิสูจน์หาที่มาของกลิ่น ไม่ช้าก็พบเป็นศพผู้หญิงตายมาประมาณ 2-3 วัน ชั้นต้นยังหาร่องรอยบาดแผลไม่พบ เพราะศพเน่าเฟะ

คดีอยู่ในความรับผิดชอบของสถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก ซึ่งอยู่ในความกำกับดูแลของผม จึงต้องไปร่วมกับพนักงานสอบสวนตรวจหาร่องรอยในสถานที่เกิดเหตุ คือจุดที่พบศพ

จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ทราบเพียงผู้ตายเป็นหญิง อายุไม่มาก จากประสบการณ์บอกได้ว่าเป็นวัยรุ่น เค้าหน้าดูไม่ออกว่าสวยหรือไม่ เพราะตาถลน ลิ้นจุกปาก หนังศีรษะหลุดเพราะเริ่มเน่า ลักษณะศพนอนหงาย เปลือยกายท่อนล่าง กางเกงชั้นในและกางเกงยีนส์ขายาวถูกถอดทิ้งไว้ข้างๆ ค้นหาทรัพย์สินของผู้ตายที่เนื้อตัวและเสื้อผ้าไม่พบสิ่งใดเลย

ตามปกติคดีฆ่าที่ผู้ตายเป็นหญิงสภาพศพเปลือยเช่นนี้ ผู้สื่อข่าวทั้ง นสพ. และโทรทัศน์จะเข้าไปเก็บภาพอย่างใกล้ชิด แต่คดีนี้บรรดาสื่อถอยห่างไปตั้งแนวอยู่ไกลพอสมควร ก็เพราะความเหม็นไม่ปราณีใครนั่นเอง ผมต้องเรียกเชื้อเชิญให้เข้าไปถ่ายภาพ เพื่ออาศัยสื่อกระพือข่าว หวังทราบผู้ตายเป็นใคร เนื่องจากค้นศพและเสื้อผ้าไม่พบเอกสารใดๆที่พอจะบ่งบอกได้ว่าเป็นใคร

หลังจากเจ้าหน้าที่นิติเวชของโรงพยาบาลตำรวจได้มานำศพไปตรวจชันสูตรที่โรงพยาบาลแล้ว บรรดานักสืบของกองสืบสวนตำรวจนครบาล 4 และ สน.หัวหมาก เกือบครึ่งร้อยก็ช่วยกันระดมหาร่องรอยพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้าย ใช้การปฏิบัติตามแบบฉบับที่ร่ำเรียนมาคือให้นักสืบทุกคนเรียงแถวหน้ากระดานระยะห่างเพียง 1 ช่วงแขน ตรวจพื้นที่บริเวณพบศพ และบริเวณต่อเนื่องอย่างละเอียด

การค้นหาใช้เวลาเป็นชั่วโมง พื้นที่ทุกตารางนิ้วถูก x-ray ด้วยสายตานักสืบ ชนิดไม่มีพื้นที่ใดหลุดรอดสายตาไปได้ ไม่พบร่องรอยอะไร เนื่องจากพื้นดินบริเวณดังกล่าวเป็นดินแข็ง รอยหญ้าราบเป็นทางพอหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ความที่เหตุเกิดผ่านพ้นไปหลายวัน หญ้าคืนตัวเสียส่วนใหญ่ ผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุไม่ได้ร่องรอยหลักฐานอะไร สิ่งของที่พนักงานสอบสวนเก็บไปประกอบคดีก็คือ 1.เสื้อ 2.กางเกงชั้นใน 3.กางเกงยีนส์ของผู้ตาย เหตุผลที่ต้องเก็บไปก็เพื่อให้ผู้เป็นญาติมาดูสิ่งของเหล่านี้ อาจบอกได้ว่าผู้ตายเป็นใคร โดยประกอบกับภาพถ่ายศพ

ท่านทั้งหลายคงคิดว่าคดีนี้คงมืดมน เพราะขนาดคนตายยังไม่ทราบว่าเป็นใครแล้วจะไปตามจับคนร้ายได้อย่างไร แต่เชื่อไหมครับ ตำรวจไทยโคตรเก่งเลย คลี่คลายคดีนี้ได้สำเร็จโดยใช้เวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ตำรวจไทยเก่งอย่างไร ท่านตามผมมา

สถาบันนิติเวชของ รพ.ตร. แจ้งผลการชันสูตรพลิกศพว่า ผู้ตายถึงแก่ความตาย เนื่องจากขาดอากาศหายใจ มีร่องรอยถูกรัดที่ลำคออย่างแรง หลอดลมและกล่องเสียงแตก ตรวจไม่พบว่ามีการข่มขืนหรือไม่ เนื่องจากศพเน่า ตรวจหาอสุจิไม่พบ

การสืบสวนสอบสวน ก็เป็นไปตามฟอร์ม ท่านทั้งหลายก็พอจะตั้งประเด็นหรือแนวทางในการสืบสวนได้ว่า เหตุฆ่าน่าจะมาจาก
1. ประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะเอาทรัพย์สินที่ติดตัวไปหมด
2. ข่มขืน แล้วปลดเอาทรัพย์แถมพกไปด้วย
3. ประสงค์ต่อชีวิต แล้วอำพรางคดีเป็นเรื่องประสงค์ต่อทรัพย์ หรือข่มขืนประเด็นการสืบสวนข้างบนตั้งแบบครอบจักรวาล

ดูจากสภาพศพและที่เกิดเหตุแล้ว สาเหตุไม่พ้น 3 ข้อนี้

คดีเริ่มเห็นเค้าเมื่อเวลาผ่านไป 2 วัน มีชายหนุ่มผู้หนึ่งนามสมมติ “ชัยวัฒน์” ไปพบพนักงานสอบสวน สน.หัวหมากขอดูภาพผู้ตายและเสื้อผ้าศพ ชัยวัฒน์ดูรูปแล้วยังลังเลใจ ทราบในเวลาต่อมาว่าแฟนของชัยวัฒน์หน้าตาดี แต่ดูภาพศพแล้วไม่เหลือเค้าความสวย แต่พอเห็นกางเกงยีนส์และกางเกงชั้นในแล้ว ชัยวัฒน์ยืนยันโดยปราศจากข้อสงสัยว่าเป็นแฟนสาวของชัยวัฒน์ เธอหน้าตาดี เป็นพรีเซนเตอร์รองเท้ากีฬายี่ห้อดัง อยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแถวสำโรง สมุทรปราการ อายุเธอเพียง 25 ปี เช่าห้องอยู่กับชัยวัฒน์ ที่ซอยเชลียง 7 ถนนอุดมสุข บางนา กทม. ชัยวัฒน์บอกว่าที่มายืนยันศพช้า เพราะก่อนเกิดเหตุทะเลาะกันและชัยวัฒน์แยกไปนอนที่อื่น

พอทราบว่าผู้ตายเป็นใคร การสืบสวนก็ง่ายขึ้น ได้รายละเอียดที่จะต้องสืบสาวอีกเยอะ โดยเฉพาะจากโทรศัพท์ของผู้ตาย ซึ่งหายไปด้วย ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ทั้งการโทรออกและการรับสายที่เข้ามา พบว่าครั้งสุดท้ายที่มีการใช้เป็นการโทรออกหา “ชัยวัฒน์” แฟนของเธอ เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันเกิดเหตุ สอบถามชัยวัฒน์ก็ยืนยันว่าผู้ตายได้โทรหาจริง เป็นเรื่องสอบถามพูดคุยธรรมดา ไม่มีประเด็นสงสัยที่จะโยงไปถึงสาเหตุการตาย และชัยวัฒน์ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการตายของเธอ

ตรวจสอบเบอร์ที่โทรเข้าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ เป็นเบอร์โทรของนายทวีศักด์ หรือไก่ พบว่ามีการติดต่อกันหลายครั้ง ทั้งโทรเข้าและผู้ตายโทรออกชนิดที่น่าสงสัยอย่างยิ่ง โชคดีที่โทรศัพท์หมายเลขดังกล่าวเป็นเลขหมายที่ลงทะเบียนผู้ซื้อ จึงตรวจสอบง่ายว่าเป็นผู้ของใด แต่ถ้าหากเป็นโทรศัพท์ชนิดใช้บัตรเติมเงินคงจะตรวจหาเจ้าของยาก แต่แม้จะรู้ว่าเป็นเบอร์โทรของใครกว่าจะตามหาตัวพบว่าอยู่ที่ใดก็ใช้เวลาเหมือนกัน ไม่มีอะไรเกินความสามารถของตำรวจไทย ก่อนรุ่งเช้าวันหนึ่งทีมงานชุดสืบสวนพร้อมหมายค้น ก็จู่โจมเข้าตรวจค้นที่ห้องพักอยู่ชั้นที่ 14 ของอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าย่านสำโรงเหนือ สมุทรปราการ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าของโทรศัพท์เบอร์ที่ชวนสงสัย

การที่จะนำตัวเจ้าของโทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องไปสอบสวนก็ต้องใช้ดุลยพินิจพอสมควร อาจจะเกี่ยวข้องกับคดี หรืออาจจะไม่เกี่ยวข้องเลยก็ได้ เรื่องพรรค์นี้ตำรวจเขาเก่ง สามารถวิเคราะห์ขาด และไม่ค่อยพลาด เรื่องนี้ก็เช่นกัน ก่อนที่จะเอาตัวไปสอบสวนได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปหาข้อมูลล่วงหน้าก่อนว่า บุคคลผู้นั้นมีลักษณะอาการเช่นใด สภาพเป็นอยู่อย่างไร คือต้องไม่ประมาท ผู้ปฏิบัติพร้อมรับสถานการณ์ทุกรูปแบบ การตรวจค้นสุภาพ ตามขั้นตอนกฎหมาย แต่ถ้าหากเป็นคนร้ายจริงและต่อสู้ ตำรวจก็พร้อมที่จะป้องกันทันที การจู่โจมตรวจค้นห้องพักดังกล่าวพบว่ามีชายพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 2 คน คือนายทวีศักดิ์ กับนายสนธยาอดีตทหารเกณฑ์ สอบถามนายทวีศักดิ์รับว่าเป็นเจ้าของโทรศัพท์เบอร์ที่ติดต่อกับผู้ตาย ค้นห้องนายทวีศักดิ์ไม่พบอาวุธหรือหลักฐานใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี จึงได้นำตัวบุคคลทั้งสองไปสอบสวน

การสอบสวนใช้วิธีแยกสอบ ในขั้นต้นทุกคนปฏิเสธไม่ทราบไม่รู้ไม่เห็น ผู้สอบสวนซักถามใช้จิตวิทยา และชั้นเชิงในการซักถามปัญหา ไม่มีการซ้อม หมดยุคสมัยป่าเถื่อนไปนานแล้ว ใช้เวลาไม่นานทั้งสองก็รับสารภาพ และโยงไปถึงนายบุญหลายผู้ร่วมงานอีก 1 คน ซึ่งตำรวจก็ไปคว้าตัวมาได้อีก สรุปครบทีม 3 คน ตำรวจใช้เวลาคลี่คลายคดีนี้เพียง 5 วันเท่านั้น

คำรับสารภาพของคนร้ายนี่ซิน่าสนใจ เป็นที่มาของสาระที่ผมนำเสนอผู้อ่าน เพราะเห็นว่ามีแง่คิด และหักมุมพอสมควร ว่าใครเลวกว่าใคร

ผู้ตายเป็นสาวหน้าตาดี รู้จักและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทวีศักดิ์มาก่อน แต่ไม่เคยอยู่กินด้วยกัน ต่อมาผู้ตายพบรักกับชัยวัฒน์ผัวหนุ่มอยู่กันด้วยกันอย่างเปิดเผย แต่ชัยวัฒน์เจ้าชู้แอบไปติดพันสาวอื่นและมักจะขอเงินจากผู้ตายไปปรนเปรอหญิงอื่น ผู้ตายจับได้หลายครั้ง ห้ามแล้วก็ไม่ยอมเลิก ผู้ตายทนสภาพกะล่อนของสามีไม่ไหว จึงย้อนกลับไปหาทวีศักดิ์แฟนเก่าจ้างให้ไปฆ่าชัยวัฒน์ และบอกว่าถ้าหากชัยวัฒน์ตายแล้วผู้ตายจะอยู่กินกับทวีศักดิ์ เรื่องของเรื่องก็คือว่าผู้ตายเป็นคนหาเงินเก่ง หน้าตาดี ส่วนผู้ชายที่เกี่ยวข้องกับเธอล้วนแต่เป็นชาวเกาะ คือ เกาะผู้หญิงกินทั้งนั้น ทวีศักดิ์ตกลงรับงานฆ่าเพราะทวีศักดิ์มีเพื่อนคือสนธยาอดีตนาวิกโยธินทหารเกณฑ์ซึ่งมักจะคุยถึงความเป็นนักฆ่าให้ฟังเสมอ ความถนัดของสนธยาคือการใช้เชือกตะหวัดรัดคอขันชะเนาะ ส่วนบุญหลายเป็นเพื่อนของสนธยา พักอยู่ด้วยกัน เมื่อเพื่อนรับงานก็เลยขอตามไปด้วย ตกลงทีมฆ่ามี 3 คน ค่าจ้าง 60,000 บาท

คืนเกิดเหตุประมาณ 23.00 น. ผู้ตายโทรหาทวีศักดิ์ บอกจุดให้ไปจัดการกับชัยวัฒน์ ผัวหนุ่ม ซึ่งช่วงนั้นทะเลาะกันแยกกันอยู่ โดยผู้ตายผ่านไปเห็นชัยวัฒน์นั่งดื่มสุราอยู่กับหญิงอื่นที่ปากซอยอุดมสุข แล้วทีมนักฆ่าทั้งสามก็เดินทางไปยังจุดหมายด้วยรถยนต์ประจำทาง เครื่องมือสังหารที่เตรียมไป สนธยาเตรียมลวดสายไฟฟ้ายาวประมาณ 2 ฟุต ปลายสองข้างขมวดปมใหญ่ เพื่อให้จับสะดวกเวลารัดคอ ส่วนบุญหลายเตรียมเหล็กขูดชาร์ปไป 1 อัน ทวีศักดิ์เป็นคนนำทีมไปเพราะเป็นผู้รู้จักชัยวัฒน์ดี แต่พอไปถึงจุดหมาย หลังจากชัยวัฒน์ชี้เป้าเสร็จเรียบร้อยสนธยาเกิดลังเลไม่กล้าลงมือ และก็ยอมรับว่าไม่เคยฆ่าใครมาก่อน บอกว่าเพียงแต่ได้รับการสอนมาขณะเป็นทหาร ในทางปฏิบัติยังไม่เคย ทำไม่ลง ไม่มีอารมณ์ ส่วนบุญหลายมือมีดก็ยอมรับว่าในชีวิตก็ยังไม่เคยฆ่าหรือก่อคดีที่ไหนมาก่อน สรุปทีมฆ่าท่าดีทีเหลว ปรึกษากันหาทางหลอกเอาเงินจากผู้ตายจะดีกว่า นักฆ่าทั้งสามลงความเห็นว่าผู้ตายไม่ใช่คนดี จ้างฆ่าผัว การหลอกเอาเงินผู้ตายไม่น่าจะผิดอะไร และคิดว่าเธอก็คงจะไม่กล้าไปแจ้งความด้วย เมื่อวางแผนเสร็จทวีศักดิ์ก็โทรหาผู้ตายบอกว่าได้ฆ่าชัยวัฒน์เรียบร้อยแล้วและเกิดต่อสู้กัน ทีมฆ่าได้รับบาดเจ็บต้องรักษาบาดแผล ขอเพิ่มค่ารักษาด้วย และนัดหมายให้เอาเงินค่าจ้างฆ่าไปให้ที่ถนนศรีนครินทร์ ปากทางเข้า รพ.สมิติเวช 2

ผู้ตายตื่นเต้นและดีใจที่ผัวเจ้าชู้ตายสมใจ แล้วรวบรวมเงินที่มีอยู่บ้างพร้อมบัตร ATM เพื่อเตรียมถอนเงินจ่ายเป็นค่าจ้าง แล้วเธอก็จับ TAXI ตรงไปยังจุดนัดพบ แต่เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าชัยวัฒน์ตายจริง เธอจึงโทรเช็คเข้าเบอร์ของชัยวัฒน์ แต่ปรากฎว่าเสียงชัยวัฒน์ฮัลโหลเข้ามาอย่างชัดเจน ไม่มีวี่แววของผู้บาดเจ็บหรืออยู่ในลักษณะถูกปองร้ายเลยสักนิด ซ้ำร้ายหนักไปอีกเมื่อชัยวัฒน์ กลับคิดไปว่าเธอโทรไปง้อขอคืนดี

ผู้ตายเลือดขึ้นหน้า เมื่อเหตุการณ์พลิกผันเช่นนี้ พอเธอถึงจุดหมายนัดพบ เห็นทวีศักดิ์ยืนรอยู่ เธอก็ตรงเข้าไปด่าว่าทวีศักดิ์แบบไม่ยั้ง ขณะนั้นทวีศักดิ์ยืนรอแต่ผู้เดียว ส่วนทีมงานที่ไปด้วยให้หลบแอบ เพราะได้บอกเธอไปว่าทีมสังหารได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ ผู้ตายด่าทวีศักดิ์ “ไอ้ชาติชั่ว…” แล้วตรงเข้าถีบและทุบตีทวีศักดิ์เป็นพัลวัน ส่วนสนธยานักฆ่าขี้โม้ เห็นเพื่อนถูกทำร้าย คราวนี้ได้อารมณ์ ยุทธวิธีที่ได้รับการพร่ำสอนครั้งเป็นทหารเกณฑ์ถูกนำมาใช้ ว่าแล้วสนธยาก็เดินเข้าประชิดด้านหลังผู้ตาย ตะหวัดสายไฟฟ้าที่เตรียมมาคล้องคอผู้ตาย รัดขันชะเนาะดึงผัตายเข้าพงหญ้าข้างถนน แล้วทวีศักดิ์ กับบุญหลายช่วยกันค้นตัวผู้ตาย เอาเงินสดซึ่งมีอยู่ไม่ถึงหมื่นบาท นาฬิกาข้อมือ บัตร ATMและโทรศัพท์มือถือไป ในขั้นแรกไม่ตั้งใจจะฆ่า แต่เพราะเจ้าบัตร ATM ซึ่งผู้ตายมีอยู่ 4 ใบซึ่งทวีศักดิ์ทราบดีว่าผู้ตายมีเงินในบัญชี การถามเอาเลขระหัส ATM ทั้ง 4 ใบต้องใช้เวลา เมื่อถามดีๆ ผู้ตายไม่ยอมบอก สนธยาก็ขันชะเนาะรัดคอแน่นขึ้นๆ กว่าผู้ตายจะครบระหัส ATMครบ 4 ใบก็มีเสียงดังคร่อก ทวีศักดิ์รีบถาม “มึงเอาจนตายเลยหรือว๊ะเนี่ย” สนธยาคลายสายไฟฟ้าที่รัดคอออก ปรากฏว่าผู้ตายตัวอ่อนหมดสติ ทีมนักฆ่าซึ่งเพิ่งเริ่มงานนี้เป็นงานแรกก็รีบวางแผนเบี่ยงเบนรูปคดี ทำเท่าที่สมองจะคิดได้ในเวลานั้น คือถอดกางเกงผู้ตายทั้งชั้นนอกและชั้นในออก ให้ดูเหมือนว่าถูกข่มขืน ซึ่งความจริงไม่ได้มีการข่มขืนเลยเนื่องจากตกใจกลัวแทบจะแย่ แล้วทั้งสามช่วยกันลากผู้ตายเข้าไปไว้กลางป่าหญ้าคาลึกเข้าไปจากถนนประมาณ 50 เมตร

วันรุ่งขึ้นตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามไปชี้สถานที่เกิดเหตุประกอบคำรับ ณ จุดเกิดเหตุ ผู้ต้องหาทั้งสามต่างแสดงบทบาทที่แต่ละคนเกี่ยวข้องให้ตำรวจบันทึกภาพเป็นหลักฐาน ช่วงที่นายสนธยาก้มตัวลงแสดงตอนขันชะเนาะคอผู้ตายเพื่อบังคับให้บอกระหัสบัตรATM ขณะนั้นเองก็มีเท้าลอยปะทะหน้านายสนธยาดังผลัวะ เจ้าของเท้าคือนายชัยวัฒน์สามีผู้ตายนั่นเอง ตำรวจต้องแยกตัวนายชัยวัฒน์ออกมา ชัยวัฒน์บอกว่า “มันฆ่าเมียผมยังไม่เท่าไร แต่มันจะฆ่าผมด้วย ต้องสั่งสอน” เรื่องประชาทัณฑ์ผู้ต้องหาในลักษณะนี้มีอยู่เสมอ ตำรวจก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ เพราะสมแล้ว

อุทาหรณ์สอนใจเรื่องนี้ตรงกับพุทธภาษิต “ทุกขโต ทุกขฐาน°” ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว และคิดว่าผู้อ่านคงได้รับประโยชน์และแง่คิดจากเรื่องจริงเรื่องนี้บ้างไม่มากก็น้อย.
"คุณอังกูรเล่นหนังด้วยหรอ?"
"โห...ประกบคู่กับพี่เอกสรพงษ์ด้วย"
"คลาสสิคสุดๆ...อยากดูเต็มๆจัง"
และอีกมากมายสำหรับเสียงตอบรับ เนื่องจากล่าสุดทีมงานทำ VDO "เปิดปูมฮีโร่" มาให้ได้ชมกัน วันนี้ทีมงานจีงขอสมนาคุณแฟนๆ ตามเสียงเรียกร้องครับ เราใช้เวลาตามหาภาพยนตร์สุดคลาสสิคเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ถึงมือแฟนๆ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ...

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์)

ตอน 1ตอน 2ตอน 3
ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 1 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 2 ภาพยนตร์ เรื่อง 1+1 ฉึ่งแหลก ตอน 3
ติดตามกันมานาน
จนเป็นแฟนประจำกันก็มาก...
แต่หลายๆท่านคงยังอยากรู้จักคุณอังกูร (007) ในแง่มุมต่างๆ ให้ลึกลงไป
ถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาเป็นฮีโร่ของเรา
ในวันนี้ เราจึงไม่รอช้าจัดเป็น VDO
ให้ชมกันอย่างจุใจ

(คลิ๊กที่ รูปเพื่อดูวีดีโอ)

พลังสกาล่าร์ ร้องทุกข์ที่นี้
จำนวนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์