มารศาสนา (ต้มนักบวช เอาหญิงล่อ)
มีนักบวชหลายรูปที่ตกเป็นเหยื่อมารศาสนา มีหญิงอัปรีย์หลายคนที่หากินกับนักบวช เที่ยวไปยั่วยวนยั่วกิเลสจนได้เสียกันแล้วเรียกเอาเงินจากนักบวช จัดตารางเวลาไปหานักบวชสำนักโน้น สำนักนี้ เนื่องจากมีหลายสำนัก ได้ค่าตัวจากนักบวช จัดอยู่ในกลุ่มโสเภณีนรกอัปรีย์ วันดีคืนดีเกิดทะเลาะกับนักบวช ฝ่ายหญิงแจ้ง นักบิน (ตำรวจที่หากินในทางรีดไถ) ให้ไปจับนักบวช นักบิน จะรู้กันกับโสเภณีอัปรีย์พวกนี้ มีการแอบบันทึกภาพตอนที่นักบวชอยู่กับสีกาตามลำพัง พยายามถ่ายภาพที่ไม่บังควร แล้วนักบินก็จะเอาภาพเหล่านี้ไป แบลคเมล รีดเอาทรัพย์ นักบวชหลายรายต้องจ่ายเงินเป็นแสน ๆ มีบางรายฮึดสู้ยอมโดนสึก ขึ้นศาลเป็นคดีความ
มีอยู่รายหนึ่ง นักบินเจอ นักบวชหมูเขี้ยวตัน หรือพวก หมูไม่กลัวน้ำร้อนเข้า ผลคือพังทั้งคู่ เหตุเกิดกับนักบวชสำนักหนึ่งอยู่แถวฝั่งธนบุรี นักบวชได้เสียกับสีกาอัปรีย์ สีกาอัปรีย์ผู้นี้หากินร่วมกับตำรวจ นักบิน ถ่ายรูปไว้แล้วให้นักบินเอารูปไปขู่เรียกเงินจากนักบวช นักบวชเกรงถูกจับสึกและกลัวอับอายจึงยอมจ่ายเงิน นักบินเรียกเงินจำนวนสูงมาก นักบวชมีเงินไม่พอ ขอจ่ายเงินสดส่วนหนึ่งที่เหลือจ่ายเป็นเช็ค ครั้นใกล้เวลาเช็คถึงกำหนดนักบวชวิ่งพล่านหาเงินเข้าเช็ค รู้ถึงเพื่อนซึ่งเป็นทนายความแนะนำ กลัวทำไมกับเรื่องสึก ไม่ต้องอาย เรื่องเพศสัมพันธ์คนที่ไหนๆเขาก็มีกัน ควรจะเอานักบินเข้าคุก นักบวชได้คิดเลยสึกแล้วไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.บางเสาธง
พอเช็คถึงกำหนดนักบินชะล่าใจเอาเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคาร ถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดีข้อหา รีดเอาทรัพย์ เรื่องขึ้นสู่การพิจารณาชั้นศาล นักบินผู้นี้ติดคุกไปสิบกว่าปี หมดอนาคต ปัจจุบันพ้นโทษแล้ว หากินทางลักทรัพย์รับของโจรบ้าง ค้ายาเสพติดบ้าง ผมเห็นชื่อนักบินผู้นี้ปรากฏทางหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยๆ อดีตเขาเป็นนักสืบมือดีของตำรวจสันติบาล ก่อนจะถูกจับกุมมียศเป็นสิบตำรวจเอก
ภัยนักบวชมีอีกมาก ส่วนใหญ่นักบวชจะตกเป็นเหยื่อเพราะมุ่งแต่ทางธรรมวินัย ไม่ทันต่อโลกีย์วิสัยและมรรยาหญิง นักบวชถูก จัดฉาก ถูก วางยา แล้วรีดเอาทรัพย์ จึงมีธรรมวินัยบทหนึ่งที่ห้ามนักบวชอยู่ตามลำพังกับสีกา ฝากเตือนสีกาควรรู้จักวางตัว รู้อะไรควร อะไรไม่ควร นักบวชไม่ใช่อิฐใช่ปูน อันน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน นับประสาอะไรกับหัวใจคนซึ่งเป็นเนื้อหนังธรรมดาย่อมอ่อนไหวไปตามอารมณ์ อย่าทำตัวเป็นมารศาสนา อัปรีย์จะกินหัว ตกนรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด.