บรรดาคดีอาญาต่างๆที่เกิดขึ้น การที่สามารถคลี่คลายคดีได้ว่า ใครเป็นผู้กระทำผิด ใครผู้บงการ สาเหตุมาจากอะไร ผมถือว่าสำคัญที่สุด เป็นหัวใจของการสืบสวน ส่วนการติดตามเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และการรวบรวมพยานหลักฐาน เป็นอันดับรอง ซึ่งความจริงการที่จะรู้ว่าใครเป็นผู้กระทำผิด ก็ต้องอาศัยร่องรอยพยานหลักฐานที่ได้ ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานเข้าสำนวน เพื่อใช้ผูดมัดจำเลยในการนำสืบพยานชั้นศาล ก็เป็นเรื่องสำคัญสุดๆ คดีบางเรื่องแนวทางการสืบสวนพอที่จะคาดเดากลุ่มผู้กระทำผิดได้ แต่ไม่สามารถจับกุม เนื่องจากขาดพยานหลักฐาน อย่างเช่นกรณีของทนายความผู้หนึ่งที่หายตัวไป

สำหรับคดี สส.ผู้นี้ “เล็กพยาบาล”ถูกจับกุมตัวได้เป็นคนแรก รับสารภาพและให้รายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำผิดและผู้เกี่ยวข้อง “แอ้ม”ถูกจับกุมเป็นคนต่อไป โดยถูกจับได้ที่หอพักแถวๆอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ “แอ้ม”รับสารภาพ ให้การสอดคล้องกับ “เล็กพยาบาล” ส่วน “อ๊อด” หลังจากได้ส่วนแบ่งแล้วเดินทางไปจันทบุรี รีบแต่งเมียทันที ครั้งแรกตั้งใจจะพาเมียไปฮันนี่มูนที่ฮ่องกง แต่พอพบข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ รีบเปลี่ยนแผนทำตัวจน สมัครเข้าทำงานเป็นคนงานก่อสร้าง แต่สุดท้ายตำรวจก็สามารถตามจับกุมตัว “อ๊อด”ได้ที่บริเวณก่อสร้าง ในเขต อ.เมืองจันทบุรี ในขณะที่กำลังนอนหลับอยู่กับภรรยาถึง ๒ คนในมุ้งเดียวกัน ขณะถูกจับกุม “อ๊อด”ระบายความแค้น บอกว่าถูก “เล็ก”พยาบาลหักหลังเรื่องเงินค่าจ้างในการสังหาร สส. ต้องการที่จะแฉความจริงทั้งหมดกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งรายละเอียดก็เป็นไปตามที่ได้เสนอท่านผู้อ่าน สำหรับนาย “ตี๋” ตอนเกิดเหตุใหม่ๆ ตำรวจยังติดตามจับกุมตัวไม่ได้ แต่รู้ชื่อ นามสกุล ว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน ก็คือคุณพิชัยฯ บิดาชื่อนายส่วนฯ มารดาชื่อนางทองหยดฯ เรียนจบชั้น ม.ศ.๓ จากโรงเรียนที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ เป็นคนกลัวกระจก ไม่ว่าจะเป็นกระจกเงา(ที่สท้อนภาพ) หรือกระจกใส เห็นกระจกต้องตรงเข้าชกต่อย ไม่ทราบว่าได้ถูกจับไปแล้วหรือยัง ถ้ารอดมาจนถึงป่านนี้ก็ไม่ต้องหนีแล้ว ขาดอายุความดำเนินคดี

คดีนี้ศาลพิพากษาตัดสินไปเมื่อ ๒๐ ก.พ.๒๕๒๕ พิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลย แต่จะเลยรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกตลอดชีวิต สำหรับ “อ๊อด” ขณะกระทำผิดยังเป็นผู้เยาว์ (อายุไม่เกิน ๑๘ ปี) ลดโทษอีก ๑ ใน ๓ เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นจำคุก ๕๐ ปี แล้วลดอีก เหลือจำคุก ๒๕ ปี (ปัจจุบันคงพ้นโทษแล้ว)
บทเรียนล้ำค่าจากเรื่องนี้

๑ เรื่องอะไรๆ ที่จะต้องทำ “ลับๆ” ไม่ให้ใครรู้เห็น มีอยู่หลายเรื่อง ไม่เฉพาะแต่เรื่องกามรมณ์ ระวังจะถูกหลอกไปฆ่าทิ้ง (เรื่องการไปมีสัมพันธ์ทางชู้สาว แน่นอน ต้องปกปิดเป็นความลับ ไม่ให้ใครรู้เห็น แต่เรื่องอื่นก็ยังมี เช่นการเจรจาค้าขายของผิดกฏหมาย การเสนอขายของบางอย่าง เซลล์ขายรถ ขายเพชร เป็นต้น ก็เคยถูกลวงไปฆ่า) ฉะนั้น จะทำอะไรควรให้มีผู้รู้เห็น มีผู้อื่นร่วมไปด้วย ประพฤติตัวตามจารีตประเพณี แล้วจะปลอดภัย

๒ จงระวังเครื่องดื่มของท่าน ให้แน่ใจว่า ไม่มีผู้ใดแอบใส่สารพิษหรือสารแปลกปลอมเข้าไป มีสาววัยรุ่นที่ชอบเที่ยวบาร์ เที่ยวพับ ต้องเสียตัวไปมากต่อมาก เพราะมัวสนุกสนานกับเพื่อนๆ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ ยิ่งดื่มยิ่งสนุก สุดท้ายเจอ “ยาอี” “ยาเค” ถูกพาไปร่วมเพศแบบตกกะไดพลอยโจน เสร็จแล้วไม่กล้าไปเอาเรื่องใคร กลัวอาย บางคนก็พลอยติด “ยาอี”ไปเลย
ในแง่ของการสืบสวน

ทฤษฎีอาชญากรรม “ไม่มีอาชญากรรมใดที่สมบูรณ์ อาชญาย่อมกรรมทิ้งร่องรอยเสมอ”

๑ คดีนี้ ถ้าหาศพไม่พบ ไม่มีทางเปิดคดีได้เลย เพราะไม่รู้ว่าเจ้าตัวไปไหน มีชีวิตอยู่หรือไม่ เหมือนกับอีกหลายคดีที่ยังมืดมนอยู่ในขณะนี้

๒ รถยนต์ยานพาหนะของผู้ตายถูกพบ ทำให้ได้พยานหลักฐานร่องรอยต่างๆที่พบที่รถ เช่นคราบโลหิต ลายนิ้วมือ ใช้เป็นหลักฐาน ยันตัวผู้กระทำผิด

๓ ความร่วมมือของผู้รู้เห็นเหตุการณ์ ให้รายละเอียดต่างๆ ผู้สืบสวนสอบสวน สามารถปะติดปะต่อเรื่อง ทำให้เหตุการณ์เชื่อมโยง นำไปสู่ผู้ต้องสงสัยได้

๔ สื่อ ไม่ว่าหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ช่วยกระจายข่าว ทำให้ผู้ที่รู้เห็นเหตุการณ์ในช่วงขณะเกิดเหตุ ได้ทราบว่า อะไรขึ้นที่ไหน ซึ่งในตอนแรกที่เห็น อาจจะเข้าใจว่าเป็นเหตุธรรมดา แต่เมื่อได้ทราบผลว่า เป็นเรื่องอาชญากรรมหรือฆาตรกรรม ให้ข้อมูลที่ตนรู้เห็น ทำให้ผู้สืบสวนสอบสวน ได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ สื่อจึงนับว่ามีบทบาทมาก